ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วัคซีนมีประโยชน์และความเสี่ยงในการป้องกันโรคติดเชื้อในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็ง (solid tumours) มีอะไรบ้าง?

ใจความสำคัญ

- ในผู้ใหญ่ที่มีโรคมะเร็ง (solid tumours) วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดจะช่วยลดการเกิดโรคงูสวัดได้ แต่จะเพิ่มผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อาการปวดหรือมีรอยแดงที่บริเวณที่ฉีด

- เราไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ต่อการเสียชีวิตจากสาเหตุใดๆ ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงใดๆ และผลข้างเคียงที่ร้ายแรง การเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ถูกวัด

- วัคซีนป้องกัน COVID-19 น่าจะช่วยลดการเกิด COVID-19 ได้ แต่ก็อาจจะเพิ่มผลข้างเคียงไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนก็ตาม

จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม

เหตุใดจึงควรป้องกันการติดเชื้อในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคมะเร็ง

ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคมะเร็งมักประสบกับการติดเชื้อซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อน โดยอาจเกิดจากภาวะเดิมของร่างกายหรือจากการรักษาที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง การติดเชื้อบางชนิดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

วัคซีนทำงานอย่างไร

จุดมุ่งหมายหลักของการฉีดวัคซีนคือการป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากการทำงานของภูมิคุ้มกันที่เปลี่ยนแปลง ผู้ใหญ่ที่มี solid tumours อาจมีการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่อการฉีดวัคซีนแตกต่างกับประชากรทั่วไปที่มีสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันลดลง) อาจแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มคนที่มี solid tumours ขึ้นอยู่กับโรคพื้นฐานและประเภทของการรักษา

สิ่งที่เราต้องการทราบคืออะไร

เราต้องการทราบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพดีแค่ไหนในการป้องกันโรคติดเชื้อในผู้ใหญ่ (≥ 18 ปี) ที่มี solid tumours (ไม่ใช่มะเร็งในเลือด) เราดูที่:

- การเกิดโรคติดเชื้อที่ได้รับการฉีดวัคซีน

- เสียชีวิตจากสาเหตุใด ๆ

- คุณภาพชีวิต

- ผลข้างเคียง (ไม่ว่าจะมีความรุนแรงแค่ไหน);

- ผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น อาการป่วยเป็นอันตรายถึงชีวิต ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต

- ปฏิกิริยาที่บริเวณที่ฉีด เช่น ปวดหรือมีรอยแดง

- ปฏิกิริยาทั่วร่างกาย (กล่าวคือ ส่งผลต่อร่างกายทั้งหมด) เช่น ไข้ ปวดศีรษะ หรือเหนื่อยล้า

เราทำอะไรบ้าง

เราค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อต่างๆ (เช่น โรค pneumococcal โรค Haemophilus influenzae ชนิด b โรค meningococcal โรคไอกรน โรคตับอักเสบ B โรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ โรคคอตีบ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคงูสวัด และ COVID-19) กับยาหลอก (การรักษาปลอม) หรือการไม่ฉีดวัคซีนเลยในผู้ใหญ่ที่มี solid tumours เรารวมการศึกษาแบบสุ่มและไม่สุ่มไว้ด้วย เราสรุปผลจากการศึกษาและประเมินความเชื่อมั่นของเราต่อหลักฐานการวิจัย

เราพบอะไร

เราพบ 10 การศึกษา (5 การศึกษาแบบสุ่ม และ 5 การศึกษาแบบไม่สุ่ม) ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่จำนวน 81,823 รายที่เป็นโรคมะเร็ง และประเมินวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้องูสวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือ COVID-19

เราไม่พบการศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนเพื่อป้องกันโรค pneumococcal โรค Haemophilus influenzae ชนิด b โรค meningococcal โรคไอกรน โรคตับอักเสบ B โรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ โรคคอตีบ เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกหรือไม่ได้รับวัคซีน

เรานำเสนอผลลัพธ์จากการศึกษาแบบสุ่มด้านล่างนี้ ผลลัพธ์จากการศึกษาแบบไม่สุ่มมีอยู่ในการทบทวนวรรณกรรมฉบับเต็ม

ผลลัพธ์หลัก

วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดเทียบกับยาหลอกหรือไม่ฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ที่มี solid tumours:

- ลดการเกิดโรคงูสวัดได้นานถึง 29.4 เดือนหลังจากได้รับยาครั้งสุดท้าย (1 การศึกษาผู้ใหญ่ 2,678 ราย)

- อาจทำให้เกิดความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในการเสียชีวิตจากสาเหตุใดๆ ก็ตามนานถึง 28 วันหลังจากได้รับยาครั้งสุดท้าย (2 การศึกษา ผู้ใหญ่ 2,744 ราย)

- สร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ไม่ว่าจะมีความรุนแรงแค่ไหนหรือร้ายแรงเพียงใดสูงสุด 30 วันหลังจากรับวัคซีนครั้งสุดท้าย (3 การศึกษา ผู้ใหญ่ 2,976 คน)

- เพิ่มความเจ็บปวดหรือรอยแดงที่บริเวณที่ฉีด และอาจทำให้ปฏิกิริยาของระบบในร่างกายเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยนานถึง 30 วันหลังจากรับวัคซีนครั้งสุดท้าย (3 การศึกษา ผู้ใหญ่ 2,966 คน)

เราไม่พบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับคุณภาพชีวิต

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เทียบกับยาหลอกหรือไม่ฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ที่มี solid tumours

- เราไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ให้ก่อนการผ่าตัดต่อการเสียชีวิตจากสาเหตุใดๆ ก็ตามจนถึง 15 วันหลังการผ่าตัด (1 การศึกษาผู้ใหญ่ 66 คน)

- เราไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ให้ก่อนการผ่าตัดต่อผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการ (ไม่ว่าจะมีความรุนแรงแค่ไหน) และผลข้างเคียงที่ร้ายแรงถึง 15 วันหลังการผ่าตัด (1 การศึกษา ผู้ใหญ่ 75 คน)

เราไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ คุณภาพชีวิต อาการปวดหรือรอยแดงที่บริเวณที่ฉีด หรือปฏิกิริยาต่อระบบทั่วร่างกาย

วัคซีนป้องกัน COVID-19 เทียบกับยาหลอกหรือไม่ฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ที่มี เsolid tumours

- อาจลดการเกิด COVID-19 ในผู้ใหญ่ที่ไม่มีการติดเชื้อ COVID-19 มาก่อนได้นานถึง 6 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 (1 การศึกษา ผู้ใหญ่ 2,100 ราย)

- อาจเพิ่มผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ไม่ว่าจะมีความรุนแรงแค่ไหนก็ตาม (1 การศึกษา ผู้ใหญ่ 2,328 คน)

- อาจทำให้เกิดความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในผลข้างเคียงที่ร้ายแรง (1 การศึกษา ผู้ใหญ่ 2,328 คน)

เราไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ คุณภาพชีวิต ความเจ็บปวดหรือรอยแดงที่บริเวณที่ฉีด หรือปฏิกิริยาทั่วร่างกาย

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

เราไม่พบการศึกษาสำหรับโรคติดเชื้อทั้งหมด ความเชื่อมั่นของเราที่มีต่อหลักฐานที่พบนั้นมีตั้งแต่สูงไปจนถึงต่ำมาก โดยหลักแล้วเป็นผลมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นภายในการศึกษา เช่น ความเสี่ยงของการมีอคติ และผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ การศึกษาแบบไม่สุ่มส่วนใหญ่มีปัญหามากเกินไปจนไม่สามารถให้หลักฐานที่เชื่อถือได้ การศึกษาไม่ได้รายงานทุกอย่างที่เราสนใจรวมถึงคุณภาพชีวิตด้วย

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากการค้นหาที่ดำเนินการในเดือนธันวาคม 2024

บทนำ

การติดเชื้อถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็ง โดยมักเกิดจากภาวะที่เป็นอยู่หรือเป็นผลจากการรักษาด้วยการกดภูมิคุ้มกัน การติดเชื้อบางชนิด (เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรค pneumococcal และโรค meningococcal) อาจป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่ที่มี solid tumours อาจถูกกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรง

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีนในการป้องกันโรคติดเชื้อในผู้ใหญ่ที่มี solid tumours

วิธีการสืบค้น

เราได้ค้นหา CENTRAL, MEDLINE, Embase, ฐานข้อมูลเพิ่มเติมอีกสองแห่ง และ 2 ทะเบียนการศึกษา ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2024 เพื่อหาการทดลองแบบสุ่มที่มีการควบคุม (RCT) และการศึกษาแบบไม่สุ่มที่มีการควบคุม (NRSI)

เกณฑ์การคัดเลือก

เราได้รวม RCT ที่ประเมินวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อต่อไปนี้ในผู้ใหญ่ (≥ 18 ปี) ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง solid tumours เทียบกับยาหลอกหรือไม่ได้ฉีดวัคซีน: โรค pneumococcal โรค Haemophilus influenzae ชนิด b โรค meningococcal โรคไอกรน โรคตับอักเสบ B โรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ โรคคอตีบ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคเริมงูสวัด และ COVID-19 ในกรณีที่ไม่มี RCT เราได้รวม NRSI ที่ควบคุมไปข้างหน้าไว้ด้วย เราไม่รวม live-attenuated vaccines

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราปฏิบัติตามวิธีมาตรฐานของ Cochrane ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรม 2 คนคัดกรองผลการค้นหา คัดลอกข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ (RoB) ในการศึกษาที่รวมไว้ อย่างเป็นอิสระจากกัน โดยใช้เครื่องมือ Cochrane RoB 2 สำหรับ RCT และ ROBINS-I สำหรับ NRSI เราประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้แนวทาง GRADE สำหรับผลลัพธ์ที่มีลำดับความสำคัญต่อไปนี้: อุบัติการณ์ของการติดเชื้อที่เกี่ยวข้อง อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ คุณภาพชีวิต เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (AEs) ทุกระดับ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง (SAEs) เหตุการณ์เฉพาะที่บริเวณที่ฉีด และเหตุการณ์ แบบ systemic

ผลการวิจัย

เราได้รวม 10 การศึกษา (5 RCTs และ 5 NRSIs) ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่จำนวน 81,823 รายที่มี solid tumours ซึ่งได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อเริมงูสวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือ COVID-19 6 การศึกษา มีผู้เข้าร่วมที่เป็น solid tumours ชนิดต่างๆ ในขณะที่ 2 การศึกษามุ่งเน้นไปที่มะเร็งคอและหลอดอาหารหรือมะเร็งปอด เราประเมินว่า RCT มี ความเสี่ยงของการมีอคติต่ำหรือปานกลาง ในขณะที่ NRSI ส่วนใหญ่มีความเสี่ยงของการมีอคติขั้นวิกฤตเนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับ confounding

เราพบ 2 การศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่: 1 การศึกษาคือ RCT ที่ประเมินวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ 1 การศึกษาคือ NRSI ที่ประเมินวัคซีน COVID-19 12 การศึกษาอยู่ระหว่างการรอการประเมิน

เราไม่ได้พบ RCTs หรือ NRSIs ของวัคซีนสำหรับการป้องกันโรค pneumococcal โรค Haemophilus influenzae ชนิด b โรค meningococcal โรคไอกรน โรคตับอักเสบ B โรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ หรือโรคคอตีบ เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกหรือไม่ได้รับวัคซีน

ผลลัพธ์ที่ได้จาก RCT แสดงไว้ด้านล่างนี้ ผลลัพธ์จาก NRSIs มีรายละเอียดอยู่ในเอกสารหลักของการทบทวนวรรณกรรม

ไม่มีการศึกษาใดรายงานคุณภาพชีวิต

วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดเทียบกับยาหลอกหรือไม่ฉีดวัคซีน

3 RCTs (ผู้เข้าร่วม 3,054 ราย) ประเมินวัคซีนเพื่อป้องกันโรคงูสวัด

วัคซีนป้องกันโรคสวัดช่วยลดอุบัติการณ์ของโรคงูสวัดได้นานถึง 29.4 เดือนหลังจากได้รับวัคซีนครั้งสุดท้าย (RR 0.37, 95% CI 0.23 ถึง 0.59; 1 RCT ผู้เข้าร่วม 2,678 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดอาจไม่ทำให้เกิดความแตกต่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่ออัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุนานถึง 28 วันหลังจากได้รับวัคซีนครั้งสุดท้าย (RR 1.17, ช่วง CI 95% 0.91 ถึง 1.50; 2 RCTs, ผู้เข้าร่วม 2,744 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง); ทำให้เกิดความแตกต่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อ AEs ทุกระดับนานถึง 30 วันหลังจากได้รับวัคซีนครั้งสุดท้าย (RR 1.02, ช่วง CI 95% 0.98 ถึง 1.05; 3 RCTs, ผู้เข้าร่วม 2,976 ราย; หลักฐานมีความเชื่อมั่นสูง) และอาจทำให้เกิดความแตกต่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลยใน SAEs นานถึง 30 วัน (RR 1.08, ช่วง CI 95% 0.93 ถึง 1.24; I² = 0%; 3 RCTs, ผู้เข้าร่วม 2,976 ราย; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) วัคซีนป้องกันโรคเริมงูสวัดจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมที่มีอาการเฉพาะที่บริเวณที่ฉีดเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอกหรือไม่ได้ฉีดวัคซีน (RR 6.81, 95% CI 2.52 ถึง 18.40; 3 RCTs ผู้เข้าร่วม 2,966 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) และอาจทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมมีความแตกต่างน้อยหรือไม่มีเลยในอาการทั่วร่างกายภายใน 30 วันหลังจากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย (RR 1.08, 95% CI 0.77 ถึง 1.50; 3 RCTs ผู้เข้าร่วม 2,966 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เทียบกับยาหลอกหรือไม่ฉีดวัคซีน

1 RCT (ผู้เข้าร่วม 75 ราย) ได้ประเมินวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่

เราไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับก่อนการผ่าตัดต่ออัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (RR 1.00, 95% CI 0.07 ถึง 15.33; 1 RCT, ผู้เข้าร่วม 66 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) AEs ทุกระดับ (RR 1.17, 95% CI 0.89 ถึง 1.54; 1 RCT, ผู้เข้าร่วม 75 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) และ SAEs (RR 1.46, 95% CI 0.76 ถึง 2.83; 1 RCT, ผู้เข้าร่วม 75 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) นานถึง 15 วันหลังการผ่าตัด

RCT ไม่ได้รายงานอุบัติการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ เหตุการณ์เฉพาะที่บริเวณที่ฉีด หรือเหตุการณ์ทั่วร่างกาย

วัคซีนป้องกัน COVID-19 เทียบกับยาหลอกหรือไม่ฉีดวัคซีน

1 RCT (ผู้เข้าร่วม 2,256 ราย) ได้ประเมินวัคซีนเพื่อป้องกัน COVID-19 ผู้เข้าร่วมอาจได้สัมผัสกับไวรัส SARS-CoV-2 variants alpha, beta, and gamma.

วัคซีนเพื่อป้องกัน COVID-19 น่าจะลดอุบัติการณ์ของ COVID-19 ในผู้เข้าร่วมที่ไม่มีการติดเชื้อ COVID-19 มาก่อนได้นานถึง 6 เดือนหลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่สอง (RR 0.08, 95% CI 0.02 ถึง 0.25; 1 RCT ผู้เข้าร่วม 2,100 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) วัคซีน COVID-19 อาจเพิ่ม AEs ในทุกระดับ (RR 1.99, 95% CI 1.71 ถึง 2.30; 1 RCT ผู้เข้าร่วม 2,328 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) อาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อ SAEs นานถึง 6 เดือนหลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่สอง (RR 1.43, 95% CI 0.80 ถึง 2.54; 1 RCT ผู้เข้าร่วม 2,328 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

RCT ไม่ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะที่บริเวณที่ฉีดหรือเหตุการณ์ที่เกิดทั่วร่างกาย

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ในผู้ใหญ่ที่มี solid tumours วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดช่วยลดการเกิดโรคงูสวัดได้ (หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะที่บริเวณที่ฉีดจะมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้มากกว่า (หลักฐานความเชื่อมั่นสูง) หลักฐานมีความไม่เชื่อมั่นอย่างมากเกี่ยวกับผลของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ต่ออัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ AEs ทุกระดับ และ SAEs (หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมาก) อุบัติการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ไม่ได้รับการวัดในการศึกษานี้ วัคซีน COVID-19 น่าจะช่วยลดอุบัติการณ์ของ COVID-19 ในผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อนได้ (หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) แต่น่าจะเพิ่ม AEs ทุกระดับได้ (หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

เราไม่พบ RCTs หรือ NRSIs ที่ศึกษาวัคซีนเพื่อป้องกันโรค pneumococcal โรค Haemophilus influenzae ชนิด b โรค meningococcal โรคไอกรน โรคตับอักเสบ B โรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ โรคคอตีบ เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกหรือไม่ได้รับวัคซีนเลยในผู้ใหญ่ที่มี solid tumours

จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบ RCT เพื่อแก้ไขความไม่เชื่อมั่น

บันทึกการแปล

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 14 พฤษภาคม 2025 Edit โดย ศ. พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 30 กรกฎาคม 2025

การอ้างอิง
Hirsch C, Zorger A-M, Baumann M, Park YS, Bröckelmann PJ, Mellinghoff S, Monsef I, Skoetz N, Kreuzberger N. Vaccines for preventing infections in adults with solid tumours. Cochrane Database of Systematic Reviews 2025, Issue 4. Art. No.: CD015551. DOI: 10.1002/14651858.CD015551.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า