ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แผนการที่มีองค์ประกอบด้านพฤติกรรมหลายประการช่วยปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ยาลดความดันลูกตาให้สม่ำเสมอในผู้ป่วยโรคต้อหินได้หรือไม่

ใจความสำคัญ

  • แผนการด้านพฤติกรรมหลากหลายแง่มุมที่มุ่งปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ยาหยอดตาเพื่อลดความดันลูกตาให้สม่ำเสมอในผู้ป่วยที่มีความดันลูกตาสูงหรือได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคต้อหิน อาจรวมถึงการแจ้งเตือน การให้ความรู้ทางมัลติมีเดีย การให้ความรู้แบบพบหน้ากัน อุปกรณ์ช่วยในการตวงยา การลดความเครียดโดยอาศัยสติ แรงจูงใจทางการเงิน การทำให้แผนการหยอดยาง่ายขึ้น และการให้ความรู้จากแพทย์

  • ยังไม่ชัดเจนว่าแผนการเหล่านี้ทำงานได้ดีเพียงใด โดยข้อมูลบางส่วนแสดงให้เห็นผลดีเมื่อเทียบกับการดูแลมาตรฐาน ในขณะที่ข้อมูลอื่น ๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น

  • จำเป็นต้องมีการวิจัยที่: 1) มีวิธีการที่เป็นมาตรฐานในการวัดการใช้ยาหยอดตา; 2) รวมสิ่งสำคัญอื่น ๆ ที่แพทย์ใช้ตรวจสอบสถานะการดำเนินของโรค และ 3) รวมความท้าทายหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่อาจส่งผลต่อการใช้ยาหยอดตาหรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความคงที่ของตัวโรค

โรคต้อหินคืออะไร และเหตุใดการปฏิบัติตนตามการรักษาที่ดีจึงมีความสำคัญ
โรคต้อหินเป็นภาวะที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นและตาบอดได้ โดยโรคต้อหินนั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่ทำให้เส้นประสาทตา (ซึ่งเป็นกลุ่มเส้นใยประสาทที่ส่งข้อมูลภาพไปยังสมอง) นั้นเสื่อมสภาพ ความดันในลูกตาที่สูงนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงเพียงปัจจัยเดียวของโรคต้อหินที่สามารถรักษาได้ในขณะนี้ การใช้ยาหยอดตาสำหรับโรคต้อหินเป็นประจำสามารถช่วยได้ แต่บ่อยครั้ง ผู้ป่วยใช้ยาลดลง เนื่องจาก:

  • ลืมใช้ยา;

  • มีกิจกรรมที่สำคัญอื่น ๆ ;

  • มีปัญหาในการใช้ขนาดยาและเวลาที่เหมาะสม

  • มีปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจ (เช่น ความกลัว ความวิตกกังวล) ในการหยดยาหยอดตาเข้าในดวงตา หรือ

  • มีปัญหาในการซื้อยา เพราะยาหยอดตามีราคาแพง

สิ่งที่ผู้วิจัยต้องการทราบคืออะไร

ต้องการค้นหาว่าองค์ประกอบทางพฤติกรรมตั้งแต่สองอย่างขึ้นไป เมื่อนำมาใช้ร่วมกันแล้วสามารถปรับปรุงการใช้ยาหยอดตาเพื่อลดความดันตาให้ใช้เป็นประจำมากขึ้นในผู้ที่มีความดันตาสูงหรือโรคต้อหินได้หรือไม่

ผู้วิจัยทำอะไรบ้าง

ผู้วิจัยค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบการใช้แผนการด้านพฤติกรรมตั้งแต่สองประเภทขึ้นไป กับการดูแลตามปกติหรือการแทรกแซงพฤติกรรมเพียงครั้งเดียว แผนการด้านพฤติกรรมอาจรวมถึงการเตือนผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ ปฏิทิน การใช้เครื่องช่วยตวงยา อุปกรณ์ที่ช่วยในการหยอดตา การศึกษาทางวิดีโอ เอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร และการให้ความรู้แบบพบหน้ากัน การดูแลตามปกติประกอบด้วย แพทย์ที่อธิบายตัวโรค วัตถุประสงค์ของการรักษา และรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาหรือยาหยอด (เช่น ความถี่ในการใช้ เวลาในการใช้ ตาข้างที่ต้องใช้) ซึ่งมักจะทำในระหว่างการมาพบแพทย์ที่คลินิก

ผู้วิจัยสรุปผลการศึกษาดังกล่าว และประเมินความเชื่อมั่นของผู้วิจัยต่อหลักฐานโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น วิธีการศึกษาและขนาดของการศึกษา

ผู้วิจัยค้นพบอะไร

ผู้วิจัยพบการศึกษา 17 ฉบับ ที่รวมผู้คน 4,536 คนที่เป็นโรคต้อหินหรือความดันลูกตาสูงและใช้ยาหยอดตาเพื่อลดความดันลูกตา อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมการศึกษาอยู่ระหว่าง 42 ถึง 76 ปี คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการศึกษาเป็นชาวผิวขาว (62%) แต่ยังมีชาวผิวดำ (26%) ชาวฮิสแปนิก (1%) ชาวเอเชีย (7%) และอื่นๆ (3%) การศึกษาวิจัยส่วนใหญ่ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา (47%) และมีในประเทศอื่น ๆ ในยุโรปและเอเชีย

ผลการวิเคราะห์ออกมาผสมผสานกัน การศึกษาส่วนใหญ่ใช้การให้การศึกษาบางประเภท การวิเคราะห์พบว่าการมีองค์ประกอบทางพฤติกรรมหลายประการที่อาจช่วยผู้คนในการใช้ยาหยอดตาเป็นประจำได้เล็กน้อย แต่อาจไม่ทำให้การใช้ยาหยอดตาเพิ่มขึ้น ยังไม่แน่ชัดว่าแผนที่มีองค์ประกอบพฤติกรรมหลายประการมีผลต่อผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับตัวโรค (เช่น การดำเนินโรคหรือการป้องกันการสูญเสียการมองเห็น) ที่เกี่ยวข้องกับการวัดความดันตาหรือไม่

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

คุณภาพของการศึกษาที่รวบรวมนั้นมีความหลากหลาย ความท้าทายในการวิจัยเก่ียวกับพฤติกรรมประเภทนี้คือ ความยากในการป้องกันไม่ให้ผู้เข้าร่วมวิจัยรู้ว่าตนกำลังใช้วิธีการใดอยู่ (กลุ่มการศึกษาของตนเอง) วิธีการที่การศึกษาวัดพฤติกรรมการใช้ยาและผลลัพธ์อื่น ๆ มีความหลากหลาย ทำให้ยากต่อการรวมและเปรียบเทียบผลลัพธ์ การศึกษามากมายไม่ได้วัดปัจจัยทางคลินิกที่ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขสนใจ เช่น ความดันลูกตา การสูญเสียการมองเห็นด้านข้าง หรือความคงที่ของโรค นอกเหนือจากปัญหาหรืออุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย เช่น ความสามารถในการเข้าใจสถานะสุขภาพของตนหรือการเงินส่วนบุคคล การวิจัยในอนาคตที่สามารถรวบรวมการรายงานที่สอดคล้องกัน วิธีมาตรฐานในการวัดผลลัพธ์ และความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย จะช่วยส่งเสริมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในสาขานี้

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานเป็นปัจจุบันถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2024

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินผลกระทบของการแทรกแซงพฤติกรรมสองอย่างขึ้นไป (เช่น การแทรกแซงหลายแง่มุม) ต่อพฤติกรรมการใช้ยาโรคต้อหินเฉพาะที่ ในผู้ที่ใช้การรักษาลดความดันลูกตาเป็นเวลาอย่างน้อยสามเดือน ในการรักษาภาวะความดันในลูกตาสูงหรือต้อหิน

วิธีการสืบค้น

ผู้วิจัยค้นหาฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ 4 แห่ง (CENTRAL, MEDLINE, Embase, LILACS) ทะเบียนการทดลองทางคลินิก 2 แห่ง และตรวจสอบข้อมูลอ้างอิง วันที่ค้นหาล่าสุดคือวันที่ 31 พฤษภาคม 2024

ข้อสรุปของผู้วิจัย

อ้างอิงจากหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำและต่ำมากที่ระบุในการทบทวนนี้ ยังสรุปไม่ได้ว่าการแทรกแซงพฤติกรรมในหลายแง่มุมมีผลดีต่อพฤติกรรมการใช้ยาเฉพาะที่เพื่อลดความดันลูกตาและความดันในลูกตาของผู้ป่วยที่มีโรคความดันลูกตาสูงหรือโรคต้อหินหรือไม่ ในกรณีส่วนใหญ่ เราไม่สามารถดำเนินการวิเคราะห์แบบอภิมานได้เนื่องจากความหลากหลายของการแทรกแซง คำจำกัดความของผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน และการรายงานที่ไม่สอดคล้องกันในแต่ละการศึกษา การวิจัยในอนาคตจะได้รับประโยชน์จากการนำการแบบวัดมาตรฐานและวิธีการรายงานพฤติกรรมการใช้ยาและผลลัพธ์ทางคลินิกเกี่ยวกับความคงตัวของโรคมาใช้ พร้อมทั้งคำนึงถึงปัจจัยทางสังคมด้วย

แหล่งทุน

โครงการ Cochrane Eyes and Vision US ได้รับการสนับสนุนจากทุน UG1EY020522 จากสถาบันตาแห่งชาติ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ

การลงทะเบียน

ดูแผนการวิจัยได้ที่ doi.org/10.1002/14651858.CD015788

บันทึกการแปล

ผู้แปล ภาวาส ตันติวงศ์โกสีย์ วันที่ 30 สิงหาคม 2025

การอ้างอิง
Kruoch Z, Amin P, Shelton E, Zimmerman AB, Stephey E, Hunter M, Downie LE, Qureshi R. Multifaceted behavioral interventions to improve topical glaucoma therapy adherence in adults. Cochrane Database of Systematic Reviews 2025, Issue 6. Art. No.: CD015788. DOI: 10.1002/14651858.CD015788.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า