การเปรียบเทียบ narrow band imaging กับ cystoscopy แบบปกติสำหรับการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

การตัดเนื้อเยื่อกระเพาะปัสสาวะที่ใช้วิธีการสร้างภาพแบบพิเศษที่เรียกว่า narrow band imaging เป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับการตัดเนื้อเยื่อกระเพาะปัสสาวะที่ใช้วิธีการสร้างภาพมาตรฐาน (โดยใช้แสงสีขาว) ในผู้ที่มีเนื้องอกในผนังกระเพาะปัสสาวะชั้นใน

ความเป็นมา

เมื่อสงสัยว่าคนเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แพทย์จำเป็นต้องตรวจดูกระเพาะปัสสาวะอย่างใกล้ชิดและนำเนื้อเยื่อออกมาเพื่อทำการตรวจต่อไป การเอาเนื้อเยื่อเนื้องอกออกยังเป็นการรักษาด้วย ขั้นตอนในการกำจัดเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะเรียกว่าการผ่าตัดเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวผ่านท่อปัสสาวะะหรือ TURBT TURBT ทำได้โดยใส่เครื่องมือพิเศษผ่านท่อปัสสาวะและเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ บางครั้ง การแยกเนื้อเยื่อกระเพาะปัสสาวะปกติออกจากเนื้อเยื่อที่เป็นเนื้องอกเป็นเรื่องยาก แพทย์บางคนใช้วิธีการสร้างภาพแบบพิเศษที่เรียกว่าการถ่ายภาพด้วย narrow band imaging เพื่อช่วยให้เห็นภาพเนื้อเยื่อที่เป็นเนื้องอก

ลักษณะการศึกษา

เราวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ซึ่งเรียกว่า randomized controlled trials เพื่อทำความเข้าใจว่าการใช้วืธี narrow band imaging ช่วยลดความเสี่ยงที่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะจะแย่ลงหรือไม่ และเพื่อดูว่ามีผลข้างเคียงหรือไม่ เรารวมเฉพาะการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมแบบสุ่มเท่านั้นเนื่องจากการศึกษาประเภทนี้น่าเชื่อถือที่สุด

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

เราพบ 8 การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมที่ตอบคำถามในการทบทวนวรรณกรรมของเรา ผู้เข้าร่วมการศึกษาที่รวมอยู่ในการศึกษาเหล่านี้ต้องสงสัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะที่จำกัดอยู่ที่ผนังด้านใน ซึ่งหมายความว่ามะเร็งไม่ได้ลุกลามเข้าไปยังชั้นกล้ามเนื้อ จากข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด การใช้ narrow band imaging อาจลดความเสี่ยงที่จะเกิดซ้ำของโรคเมื่อเวลาผ่านไป

ไม่มีการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบใดที่ตรวจสอบว่าการเลือกวิธีการแสดงภาพทำให้เกิดความแตกต่างใดๆ ต่อความเสี่ยงที่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะจะแย่ลงหรือความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นเราจึงไม่ทราบว่าการใช้ narrow band imaging มีผลในการปรับปรุงผลลัพธ์ทั้งสองนี้หรือไม่

เราพบว่าการใช้ narrow band imaging อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เมื่อเทียบกับวิธีการสร้างภาพแบบมาตรฐาน

คุณภาพของหลักฐาน

เนื่องจากข้อบกพร่องบางประการในการออกแบบการทดลองทางคลินิกเหล่านี้และข้อค้นพบที่ขัดแย้งกันระหว่างการทดลอง ความเชื่อมั่นของเราในผลลัพธ์นี้จึงต่ำ การวิจัยเพิ่มเติมในอนาคต ที่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้มากขึ้นอาจเปลี่ยนผลการทบทวนนี้ หลักฐานเป็นข้อมูลล่าสุดจนถึงเดือนธันวาคม 2021

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

เมื่อเทียบกับ WLC TURBT เพียงอย่างเดียว NBI + WLC TURBT อาจลดความเสี่ยงของการกำเริบของโรคเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่มีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่สำคัญหรือเล็กน้อย

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การกลับเป็นซ้ำและการลุกลามของโรคยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่แพร่กระจายเข้ากล้ามเนื้อ Narrow band imaging (NBI) เป็นเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นที่อาจช่วยปรับปรุงการผ่าตัดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่แพร่กระจายเข้ากล้ามเนื้อ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับการทำหัตถการนี้

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินผลของการผ่าตัด transurethral resection ของเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ (URBT) โดยใช้ NBI- และ white light cystoscopy (WLC) เปรียบเทียบกับ WLC-guided TURBT ในการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่แพร่กระจายเข้ากล้ามเนื้อ

วิธีการสืบค้น: 

เราทำการค้นหาวรรณกรรมที่ครอบคลุม 10 ฐานข้อมูล รวมถึง Cochrane Library, Cochrane Database of Systematic Reviews, MEDLINE, Embase, ทะเบียนการทดลองทางคลินิกหลายแห่ง และ grey literature สำหรับการศึกษาที่ตีพิมพ์และไม่ได้ตีพิมพ์ โดยไม่คำนึงถึงภาษา การค้นหาดำเนินการในวันที่ 3 ธันวาคม 2021 ตามโปรโตคอลที่ทำไว้ก่อนหน้า

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมของผู้เข้าร่วมที่เป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดไม่ลุกลามเข้ากล้ามเนื้อที่สงสัยหรือได้รับการยืนยันแล้ว ผู้เข้าร่วมในกลุ่มควบคุมต้องได้รับ WLC-guided TURBT เพียงอย่างเดียว (ต่อไปนี้จะเรียกง่ายๆ ว่า 'WLC TURBT') ผู้เข้าร่วมในกลุ่มรักษาต้องได้รับ NBI และ WLC-guided TURBT(ต่อไปนี้จะเรียกง่ายๆ ว่า 'NBI + WLC TURBT')

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรมสองคนเลือกการศึกษาเพื่อรวม/คัดออก ทำการคัดลอกข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของอคติอย่างอิสระ เราทำ meta-analysis เกี่ยวกับข้อมูลเวลาถึงเหตุการณ์และข้อมูลแบบ dichotomous โดยใช้ random-effects model ใน RevMan ตามวิธีของ Cochrane เราให้คะแนนความเชื่อมั่นของหลักฐานสำหรับแต่ละผลลัพธ์ตามแนวทาง GRADE

ผลลัพธ์หลักคือเวลาที่จะกลับมาเป็นซ้ำ เวลาไปสู่การลุกลามของโรค และการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่สำคัญ ซึ่งกำหนดตามภาวะแทรกซ้อนของ Clavien-Dindo III, IV หรือ V ผลลัพธ์รอง ได้แก่ ระยะเวลาจนถึงการเสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เล็กน้อย ซึ่งกำหนดเป็นภาวะแทรกซ้อนของ Clavien-Dindo I หรือ II

ผลการวิจัย: 

เรารวม 8 การศึกษาโดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2152 คนที่ถูกสุ่มให้อยู่ใน WLC TURBT มาตรฐานหรือ NBI + WLC TURBT ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1,847 คนถูกรวมสำหรับการวิเคราะห์

จากความเชื่อมั่นที่จำกัดในข้อมูลระยะเวลาถึงเหตุการณ์ เราพบว่าผู้เข้าร่วมที่ได้รับ NBI + WLC TURBT มีความเสี่ยงต่อการเกิดซ้ำของโรคน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมที่ได้รับ WLC TURBT (hazard ratio 0.63, 95% CI 0.45 ถึง 0.89 ; I 2 = 53%; 6 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 1244 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) ไม่มีการศึกษาใดที่ตรวจสอบผลลัพธ์การลุกลามของโรคแบบระยะเวลาถึงเหตุการณ์หรือเป็นผลลัพธ์แบบ dichotomous ไม่น่าจะมีความแตกต่างในความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่สำคัญระหว่างผู้เข้าร่วมการศึกษาที่ได้รับ NBI + WLC TURBT และผู้ที่ได้รับ WLC TURBT (risk ratio 1.77, 95% CI 0.79 ถึง 3.96; 4 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 1385 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) .

ไม่มีการศึกษาใดที่ตรวจสอบการเสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะปัสสาวะว่าเป็นผลลัพธ์แบบระยะเวลาถึงเหตุการณ์หรือผลลัพธ์แบบ dichotomous ไม่น่าจะมีความแตกต่างในความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ชนิดเล็กน้อยระหว่างผู้เข้าร่วมการศึกษาที่ได้รับ NBI + WLC TURBT และผู้ที่ได้รับ WLC TURBT (risk ratio 0.88, 95% CI 0.49 to 1.56; I2 = 61%; 4 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 1385 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) .

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตผ่านท่อปัสสาวะร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 27 เมษายน 2022 edit โดย ผกาากรอง 3 พฤศจิกายน 2022

Tools
Information