การเตรียมผู้ป่วยมะเร็งลำไส้สำหรับการผ่าตัดด้วยวิธีต่างๆ

วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้

จุดมุ่งหมายของการทบทวนนี้คือเพื่อค้นหาว่าการแทรกแซงหลายอย่างที่นำมาใช้ในช่วงก่อนการผ่าตัดมะเร็งลำไส้สามารถเตรียมผู้ป่วยโดยการเพิ่มสมรรถภาพโดยรวมของผู้ป่วย และทำให้ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดดีขึ้นหรือไม่ นักวิจัยของ Cochrane ได้รวบรวมและวิเคราะห์การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมที่มีอยู่ทั้งหมดในหัวข้อนี้

ใจความสำคัญ

มีเพียงสามการศึกษาเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์การคัดเลือกสำหรับการทบทวนนี้ ไม่มีข้อมูลสำหรับผลลัพธ์ทั้งหมด และความแน่นอนของหลักฐานโดยรวมอยู่ในระดับต่ำมากถึงปานกลาง จำเป็นต้องมีการศึกษามากขึ้นและมีขนาดใหญ่เพื่อรวบรวมหลักฐานในหัวข้อนี้

สิ่งที่ศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้

การผ่าตัดมักใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น การผ่าตัดมีผลกระทบในทางลบต่อสมรรถภาพโดยรวมของผู้ป่วย ระดับพลังงานลดลง ผู้ป่วยต้องพึ่งพาในกิจกรรมประจำวันมากขึ้น และคุณภาพชีวิตลดลง นอกจากนี้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดทำให้สมรรถภาพร่างกายลดลงไปอีก มาตรการก่อนการผ่าตัด เช่น โปรแกรมการออกกำลังกาย คำแนะนำด้านโภชนาการและอาหารเสริม ตลอดจนการสนับสนุนด้านจิตใจ อาจเพิ่มสมรรถภาพของผู้ป่วยก่อนการผ่าตัด แนวคิดนี้เรียกว่าการเตรียมร่างกาย ถ้าผลกระทบของการผ่าตัดลดลง ส่งผลให้ฟื้นตัวได้เร็วและดีขึ้น การรวมวิธีการเตรียมพร้อมก่อนการผ่าตัดหลายๆวิธีเข้าด้วยกันมีข้อดี เนื่องจากวิธีการแต่ละอย่างอาจช่วยเสริมสร้างผลกระทบของวิธีอื่นๆ ผู้ทบทวนมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมหลายส่วนก่อนการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ผู้เขียนรีวิวมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์เหล่านี้: สมรรถภาพทางกาย, จำนวนภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด, อัตราการเสียชีวิต, คุณภาพชีวิต (ประเมินด้วยแบบสอบถาม), ระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล, จำนวนการเข้ารับการตรวจในแผนกฉุกเฉิน, จำนวนการเข้ารับการรักษาซ้ำหลังการผ่าตัด, ความปลอดภัยของโปรแกรมและการปฏิบัติตามโปรแกรม พวกเขาเปรียบเทียบกลุ่มที่มีโปรแกรมการเตรียมตัวกับกลุ่มที่ไม่ได้รับการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด นอกเหนือจากการดูแลตามมาตรฐาน

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนคืออะไร

ผู้ทบทวนพบการศึกษา 3 ฉบับที่มีผู้เข้าร่วม 250 คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ซึ่งไม่มีการแพร่กระจาย มีกำหนดเข้ารับการผ่าตัด การศึกษาทั้งหมดดำเนินการในแคนาดา ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 130 คนปฏิบัติตามโปรแกรมการเตรียมตัวเป็นเวลา 4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด ซึ่งรวมถึงการออกกำลังกาย คำแนะนำด้านโภชนาการและอาหารเสริม ตลอดจนเทคนิคในการลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับมะเร็งและการรักษา ผู้เข้าร่วมอีก 120 คนทำตามโปรแกรมเดียวกัน แต่เริ่มหลังการผ่าตัดแล้วเท่านั้น เมื่อออกจากโรงพยาบาล

โดยรวมแล้ว ผู้ทบทวนวรรณกรรม ไม่พบการปรับปรุงในกลุ่มผู้เข้าร่วมทั้งสองกลุ่ม ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง ส่วนใหญ่เป็นเพราะการศึกษาและผู้เข้าร่วมจำนวนน้อยที่รวมอยู่ในการทบทวน สมรรถภาพทางกายอาจดีขึ้นในผู้ป่วยที่ได้รับโปรแกรมการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด ผลกระทบของโปรแกรมดังกล่าวต่อจำนวนภาวะแทรกซ้อน การเข้ารับการตรวจในแผนกฉุกเฉิน และการเข้ารับการรักษาซ้ำมีเพียงเล็กน้อยหรือไม่สำคัญ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิต คุณภาพชีวิต ระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ความปลอดภัยของโปรแกรม และการปฏิบัติตามโปรแกรมไม่สมบูรณ์หรือไม่ได้รายงาน ผู้ทบทวนวรรณกรรมจึงไม่ได้วิเคราะห์ผลลัพธ์เหล่านี้ เนื่องจากหลักฐานส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่ำหรือต่ำมาก จึงควรตีความผลการวิจัยนี้ด้วยความระมัดระวัง

การทบทวนวรรณกรรมนี้ทันสมัยแค่ไหน

ผู้ทบทวนค้นหาการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงเดือนมกราคม 2021 และยังค้นหาการศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่ซึ่งยังไม่ได้เผยแพร่จนถึงเดือนมีนาคม 2021 ในการปรับปรุงการทบทวนในอนาคต การศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่จำนวนมากน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งสามารถรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การเตรียมร่างกายก่อนผ่าตัดอาจส่งผลให้ความสามารถในการทำงานดีขึ้น โดยพิจารณาจากการทดสอบการเดิน 6 นาที ทั้งก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด ไม่สามารถสร้างผลกระทบที่ชัดเจนต่อจำนวนภาวะแทรกซ้อน การเข้ารับการตรวจในแผนกฉุกเฉินหลังการผ่าตัด และการเข้าโรงพยาบาลซ้ำได้ ความเชื่อมั่นของหลักฐานมีตั้งแต่ระดับปานกลางถึงต่ำมาก ถูกลดระดับเนื่องจากความเสี่ยงอย่างร้ายแรงของอคติ ความไม่แม่นยำ และความไม่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ มีการศึกษาเพียง 3 ฉบับที่แตกต่างกันเท่านั้นที่รวมอยู่ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ ดังนั้น ข้อค้นพบของการทบทวนวรรณกรรมนี้ควรได้รับการตีความด้วยความระมัดระวัง มี RCT ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากกำลังดำเนินการอยู่และจะรวมอยู่ในการปรับปรุงในอนาคตของการทบทวนนี้

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การผ่าตัดเป็นมาตรฐานที่สำคัญในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก น่าเสียดายที่การผ่าตัดเองอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ป่วย โปรแกรม 'การเพิ่มการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด' ซึ่งรวมถึงวิธีการแบบหลายรูปแบบ ได้ปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้ในระหว่างและหลังการผ่าตัด การพักฟื้นหลายรูปแบบรวมถึงการแทรกแซงก่อนการผ่าตัดหลายครั้งเพื่อเตรียมผู้ป่วยสำหรับการผ่าตัดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นซึ่งจะช่วยปรับปรุงผลลัพธ์หลังการผ่าตัด

วัตถุประสงค์: 

เพื่อศึกษาผลกระทบของโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพต่อเนื่องหลายรูปแบบต่อความสามารถในการทำงาน ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด และคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ได้รับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหา CENTRAL, MEDLINE, Embase และ PsycINFO ในเดือนมกราคม 2021 เรายังค้นหาการลงทะเบียนทดลองจนถึงเดือนมีนาคม 2021

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs) ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดไม่แพร่กระจาย ซึ่งกำหนดวันสำหรับการผ่าตัด เปรียบเทียบโปรแกรมการเตรียมความพร้อมของร่างกายหลายรูปแบบ (มีการแทรกแซงอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนผ่าตัด) เทียบกับไม่มี เรามุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ต่อไปนี้: ความสามารถในการทำงาน (เช่น การทดสอบการเดิน 6 นาที, VO 2 สูงสุด, ความแข็งแรงของมือจับ), ผลลัพธ์หลังการผ่าตัด (เช่น ภาวะแทรกซ้อน, การตาย, ระยะเวลานอนโรงพยาบาล, การเข้ารับการตรวจในแผนกฉุกเฉิน, การเข้ารับการรักษาซ้ำ) คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การปฏิบัติตามข้อกำหนด ความปลอดภัยในการเตรียมความพร้อม และการกลับสู่กิจกรรมปกติ

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรมสองคน ดึงข้อมูล, ประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ และใช้ GRADE ในการประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐาน โดยเป็นอิสระต่อกัน ความขัดแย้งใด ๆ ได้รับการแก้ไขด้วยการสนทนาและความเห็นพ้องต้องกัน เรารวบรวมข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์อภิมานหากเป็นไปได้

ผลการวิจัย: 

เรารวม RCTs 3 ฉบับที่มีผู้เข้าร่วม 250 คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักแบบไม่แพร่กระจาย ซึ่งมีนัดผ่าตัดที่กำหนดเวลาไว้ (ส่วนใหญ่คือการผ่าตัดผ่านกล้อง) การทดลองที่รวมได้ดำเนินการในศูนย์การดูแลระดับตติยภูมิและคัดเลือกผู้ป่วยในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 17 เดือนถึง 45 เดือน ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 130 คนลงทะเบียนในโปรแกรมการเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนการผ่าตัด 4 สัปดาห์ ซึ่งประกอบด้วยสามส่วนคือ การออกกำลังกาย การแทรกแซงทางโภชนาการ และเทคนิคการลดความวิตกกังวล ผลลัพธ์ของผู้เข้าร่วมเหล่านี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับผู้เข้าร่วม 120 คนที่เริ่มโปรแกรมที่เหมือนกันแต่เริ่มทำหลังการผ่าตัด

หลังการผ่าตัด การเตรียมร่างกายก่อนการผ่าตัดอาจปรับปรุงความสามารถในการทำงาน โดยพิจารณาจากการทดสอบการเดิน 6 นาทีที่สี่และแปดสัปดาห์ (ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (MD) 26.02, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) -13.81 ถึง 65.85; การศึกษา 2 ฉบับ; n = 131; และ MD 26.58, 95% CI -8.88 ถึง 62.04; 2 การศึกษา n = 140); อย่างไรก็ตาม ความแน่นอนของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำและต่ำมาก ตามลำดับ เนื่องจากความเสี่ยงร้ายแรงของอคติ ความไม่ชัดเจน และความไม่สอดคล้องกัน หลังการเตรียมพร้อมร่างกายก่อนการผ่าตัด ความสามารถในการทำงานก่อนการผ่าตัดดีขึ้น โดยมีความแตกต่างของค่าเฉลี่ยที่สำคัญทางคลินิกที่ 24.91 เมตร (95% CI 11.24 ถึง 38.57; การศึกษา 3 ฉบับ; n = 225) ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับปานกลางเนื่องจากการลดระดับลงเนื่องจากความเสี่ยงของการมีอคติอย่างร้ายแรง ผลของการเตรียมร่างกายก่อนการผ่าตัดต่อจำนวนภาวะแทรกซ้อน (RR 0.95, 95% CI 0.70 ถึง 1.29; การศึกษา 3 ฉบับ; n = 250), การเข้ารับการตรวจแผนกฉุกเฉิน (RR 0.72, 95% CI 0.39 ถึง 1.32; การศึกษา 3 ฉบับ; n = 250) และ การรับเข้าอยู่โรงพยาบาลซ้ำ (RR 1.20, 95% CI 0.54 ถึง 2.65; การศึกษา 3 ฉบับ; n = 250) ซึ่งมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่สำคัญ ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากการลดระดับเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะมีอคติและความไม่แม่นยำ ไม่สามารถวิเคราะห์ผลกระทบต่อ VO 2 สูงสุด, ความแข็งแรงของมือที่จับ, ระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล, อัตราการตาย, คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ, การกลับไปทำกิจกรรมตามปกติ, ความปลอดภัยของโปรแกรมและอัตราการปฏิบัติตามข้อกำหนดไม่สามารถวิเคราะห์เชิงปริมาณได้เนื่องจากข้อมูลที่ขาดหายไปหรือไม่เพียงพอ การศึกษาที่รวบรวมไม่ได้รายงานความแตกต่างระหว่างกลุ่มสำหรับคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล ไม่มีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เหลืออยู่หรือรายงานอย่างไม่เพียงพอในการศึกษาที่รวบรวม

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย ผกากรอง 22 พฤศจิกายน 2023

Tools
Information