วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร
จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรมนี้คือ เพื่อค้นหาว่าโปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมที่ให้การประสานงานการดูแลและบริการอื่น ๆ สำหรับเด็กที่มีโรคที่มีความซับซ้อนทางการแพทย์ ช่วยปรับปรุงผลลัพธ์สำหรับเด็กกลุ่มนี้และครอบครัวของพวกเขาหรือไม่ และมีผลกระทบต่อการใช้และค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพหรือการบริการหรือไม่
ใจความสำคัญ
การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมสำหรับเด็กที่มีโรคที่มีความซับซ้อนทางการแพทย์ยังมีจำกัด และควรปฏิบัติต่อผลการวิจัยด้วยความระมัดระวัง
โปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมอาจเพิ่มความพึงพอใจของเด็กและครอบครัวด้วยการดูแลที่จัดให้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าจะปรับปรุงสุขภาพของเด็กและผู้ปกครอง การทำงาน และคุณภาพชีวิตได้หรือไม่ และมีผลกระทบอะไรบ้างต่อค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายต่อครอบครัวอย่างไร
เราต้องการค้นหาอะไร
เราต้องการทราบว่าโปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมมีประสิทธิผลสำหรับเด็กที่มีความซับซ้อนทางการแพทย์หรือไม่ โปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมจะให้การประสานงานการดูแลที่ช่วยสื่อสารระหว่างสมาชิกของทีมดูแลเด็ก และมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมที่สุด การประสานงานการดูแลอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น การวางแผนการรักษา การติดตามผลลัพธ์และการใช้ทรัพยากร การประสานงานการเยี่ยมเยียนกับแพทย์ การหลีกเลี่ยงการทดสอบและบริการที่ไม่จำเป็น การแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและครอบครัว การวางแผนออกจากโรงพยาบาล และการฝึกอบรมผู้ดูแลและการบริการใกล้บ้าน เราต้องการดูว่าโปรแกรมการดูแลเหล่านี้ปรับปรุงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัวของพวกเขา ปรับปรุงคุณภาพของการดูแลสุขภาพที่มอบให้พวกเขา ลดจำนวนการไปโรงพยาบาลและจำนวนผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ต่างๆที่เด็ก ๆ ต้องพบหรือไม่ และรวมถึงว่าจะเป็นการลดต้นทุนของการดูแลสุขภาพหรือไม่ นอกจากนี้เรายังต้องการทราบว่าเด็กทุกคนสามารถเข้าถึงโปรแกรมเหล่านี้ได้หรือไม่ และโปรแกรมดังกล่าวมีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่
เราทำอะไรบ้าง
เราค้นหาวรรณกรรมอย่างละเอียดและพบการศึกษาในเด็กอายุ 0 ถึง 21 ปีที่ถือว่ามีความซับซ้อนทางการแพทย์ กล่าวคือ มีอาการเรื้อรังที่ทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงานซึ่งทำให้ต้องการรักษาพยาบาลที่สูง ซึ่งส่งผลให้ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น เรารวบรวมการศึกษาที่เปรียบเทียบเด็กที่ได้รับการดูแลแบบครอบคลุมกับเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลนี้หรือผู้ที่ได้รับการดูแลตามปกติโดยไม่มีการประสานงานในการดูแล การดูแลอาจเป็นแบบโรงพยาบาล โครงการความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและชุมชน หรือตามชุมชน
เราพบอะไร
เราพบการศึกษา 4 ฉบับที่มีเด็กทั้งหมด 912 คนในฐานะผู้เข้าร่วมที่เปรียบเทียบการดูแลแบบครอบคลุมกับการดูแลในโรงพยาบาลตามมาตรฐานโดยไม่มีการประสานงานและการดูแลเป็นพิเศษสำหรับเด็กที่มีโรคที่มีความซับซ้อนทางการแพทย์ การศึกษาเหล่านี้ล้วนมีข้อจำกัด เราพบว่าการดูแลแบบครอบคลุมอาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อสุขภาพของผู้ปกครอง การทำงานและคุณภาพชีวิต การไปแผนกฉุกเฉิน และการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การดูแลอย่างครอบคลุมอาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อสุขภาพของเด็ก การทำงาน และคุณภาพชีวิต และต้นทุนต่อระบบการรักษาพยาบาล อาจปรับปรุงความพึงพอใจของเด็กและครอบครัวเล็กน้อยและการรับรู้ในการดูแลและการให้บริการ ไม่มีข้อมูลจากการศึกษาว่าเด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลที่ครอบคลุมหรือไม่ มีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่ และครอบครัวต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร โดยรวมแล้ว คุณภาพของการวิจัยอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง ดังนั้นเราจึงไม่แน่ใจเกี่ยวกับประสิทธิผลของการดูแลอย่างครอบคลุมสำหรับเด็กที่มีความซับซ้อนทางการแพทย์ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถสรุปผลที่ชัดเจนได้
หลักฐานมีข้อจำกัดอะไรบ้าง
มีการศึกษาที่ตรงตามเกณฑ์สำหรับการทบทวนนี้มีจำนวนจำกัด การศึกษาทั้ง 4 ฉบับที่เราพบทั้งหมดมาจากอเมริกาเหนือ และเราไม่มีข้อมูลจากประเทศอื่น มีการศึกษาเพียง 1 ฉบับเท่านั้นที่ประเมินผลของการประสานงานการดูแลที่มีต่อสุขภาพของผู้ปกครอง การทำงาน และคุณภาพชีวิต และไม่มีการศึกษาใดที่ประเมินค่าใช้จ่ายของครอบครัวหรือผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ความแตกต่างของผู้เข้าร่วมและสิ่งแทรกแซงที่ตรวจสอบในการศึกษาทั้ง 4 ฉบับถือเป็นข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเมื่อตีความผลลัพธ์
หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน
ผู้ทบทวนค้นหาการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงเดือนพฤษภาคม 2023
อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
เด็กที่มีโรคที่มีความซับซ้อนทางการแพทย์ (children with medical complexity; CMC) ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยในเด็กแต่กำลังเพิ่มขึ้น ไม่ว่าการวินิจฉัยจะเป็นเช่นไร ตามคำจำกัดความแล้ว CMC ทั้งหมดมีข้อจำกัดด้านการทำงานที่คล้ายคลึงกันและมีความต้องการด้านการรักษาพยาบาลที่สูง มีข้อเสนอแนะว่าการปรับปรุงแง่มุมต่างๆ ของการให้การดูแลสุขภาพสำหรับ CMC จะปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตสำหรับเด็กและครอบครัวของพวกเขา และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ เป็นผลให้มีการจัดตั้งโปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมโดยเฉพาะในโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อตอบสนองความต้องการของ CMC อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าโปรแกรมดังกล่าวมีประสิทธิภาพหรือไม่
วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์หลักของเราคือการประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลที่ครอบคลุมซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการประสานงานการดูแลและด้านอื่น ๆ ของการดูแลสุขภาพสำหรับเด็กที่เป็น CMC และเพื่อประเมินว่าประสิทธิผลของโปรแกรมดังกล่าวแตกต่างกันตามการบริบทและโครงสร้างของโปรแกรมหรือไม่ เรามุ่งเป้าที่จะประเมินประสิทธิผลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของเด็กและผู้ปกครอง การทำงาน และคุณภาพชีวิต คุณภาพการดูแล จำนวนครั้งในการดูแลสุขภาพ ความต้องการด้านการรักษาพยาบาลที่ไม่ได้รับการตอบสนอง และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล
วิธีการสืบค้น
เราสืบค้นจาก CENTRAL, MEDLINE, Embase และ CINAHL จนถึง พฤษภาคม 2023 นอกจากนี้เรายังค้นหาการลงทะเบียนการวิจัยและรายการอ้างอิงจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เกณฑ์การคัดเลือก
การทดลองแบบสุ่มและแบบไม่สุ่ม มีการควบคุมการศึกษาก่อน-หลัง และการศึกษาอนุกรมเวลาที่ถูกขัดจังหวะถูกรวมในการศึกษานี้ มีการศึกษาที่เปรียบเทียบการลงทะเบียนในโปรแกรมการดูแลแบบครอบคลุมกับการไม่ลงทะเบียนในโปรแกรม/การรักษาตามปกติ ผู้เข้าร่วมเป็นเด็กที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์สำหรับคำจำกัดความของ CMC ซึ่งได้แก่ (i) ภาวะเรื้อรัง (ii) มีข้อจำกัดด้านการทำงาน (iii) ความต้องการด้านสุขภาพและบริการอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น และ (iv) ค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น การศึกษาที่รวมผลลัพธ์ประเภทต่อไปนี้ ได้แก่ สุขภาพ; คุณภาพการดูแล การใช้ประโยชน์ ความครอบคลุมและการเข้าถึง การใช้ทรัพยากรและต้นทุน ความเท่าเทียม; และผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์
การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้ทบทวนวรรณกรรมสองคนคัดลอกข้อมูล ประเมินความเสี่ยงของอคติในแต่ละการศึกษาที่รวบรวมมา และประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานตามเกณฑ์ของ GRADE อย่างอิสระต่อกัน หากเป็นไปได้ ข้อมูลจะแสดงใน forest plot และรวมเข้าด้วยกัน เราไม่สามารถทำการวิเคราะห์ meta-analysis สำหรับการเปรียบเทียบและผลลัพธ์ได้ ดังนั้นเราจึงใช้วิธีการสังเคราะห์แบบมีโครงสร้าง
ผลการวิจัย
เรารวบรวมการศึกษา 4 ฉบับ โดยมีผู้เข้าร่วมที่วินิจฉัย CMC ทั้งหมด 912 คน การศึกษาที่รวบรวมทั้งหมดเป็นการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมที่ดำเนินการในโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา ผู้เข้าร่วมมีความหลากหลายในการศึกษาที่รวบรวมมา อย่างไรก็ตาม การศึกษาทั้ง 4 ฉบับ รวมเด็กที่มีความเจ็บป่วยที่ซับซ้อนและเรื้อรังและมีความต้องการการรักษาพยาบาลที่สูง แม้ว่าจุดมุ่งหมายหลักของสิ่งแทรกแซงจะคล้ายคลึงกันในการศึกษาทั้ง 4 ฉบับ แต่องค์ประกอบของสิ่งแทรกแซงมีความแตกต่างกัน ในการศึกษาทั้ง 4 ฉบับ สิ่งแทรกแซงเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของการประสานงานการดูแล ในการศึกษา 2 ฉบับ เกี่ยวข้องกับเด็กที่ได้รับการดูแลจากทีมสหสาขาวิชาชีพ ในขณะที่ในการศึกษา 1 ฉบับ การแทรกแซงมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงผู้ประสานงานการดูแลพยาบาลวิชาชีพขั้นสูง และการศึกษาอีก 1 ฉบับ เกี่ยวข้องกับพยาบาลผู้ประกอบวิชาชีพ-กุมารแพทย์ที่ร่วมมือกับครอบครัว ความเสี่ยงของการมีอคติในการศึกษาทั้ง 4 ฉบับนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละโดเมน โดยประเด็นหลักเกี่ยวข้องกับการขาดการปกปิดของผู้เข้าร่วม บุคลากร และผู้ประเมินผลลัพธ์ การปกปิดการจัดสรรที่ไม่เพียงพอ และข้อมูลผลลัพธ์ที่ไม่สมบูรณ์
การดูแล CMC อย่างครอบคลุมเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลตามปกติอาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างเลยต่อสุขภาพของเด็ก การทำงาน และคุณภาพชีวิตที่ 12 หรือ 24 เดือน (การศึกษา 3 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 404 คน) และเราประเมินหลักฐานสำหรับผลลัพธ์ในหมวดหมู่นี้ (สุขภาพเด็ก -ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตและสถานภาพการทำงาน) มีความเชื่อมั่นต่ำ สำหรับ CMC การดูแลแบบครอบคลุมอาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อสุขภาพของผู้ปกครอง การทำงาน และคุณภาพชีวิตเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลตามปกติที่ 12 เดือน (การศึกษา 1 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 117 คน) และเราประเมินหลักฐานสำหรับผลลัพธ์นี้ว่ามีความเชื่อมั่นปานกลาง การดูแล CMC ที่ครอบคลุมเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลตามปกติอาจปรับปรุงความพึงพอใจของเด็กและครอบครัวและการรับรู้เกี่ยวกับการดูแลและการให้บริการที่ 12 เดือนได้เล็กน้อย (การศึกษา 3 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 453 คน) อย่างไรก็ตาม เราประเมินหลักฐานสำหรับผลลัพธ์เหล่านี้ว่ามีความเชื่อมั่นต่ำ สำหรับ CMC การดูแลแบบครอบคลุมอาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยกับจำนวนการเข้ารับการรักษาพยาบาล (การตรวจที่แผนกฉุกเฉิน) และจำนวนวันที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล) เมื่อเทียบกับการดูแลตามปกติที่ 12 เดือน (การศึกษา 3 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 668 คน) และเราได้ประเมิน หลักฐานสำหรับผลลัพธ์เหล่านี้มีความเชื่อมั่นปานกลาง
การศึกษาที่รวบรวม 3 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 668 คน) รายงานผลลัพธ์ด้านต้นทุนและมีผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกัน โดยการศึกษาหนึ่งรายงานต้นทุนการรักษาพยาบาลที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ 12 เดือนในกลุ่มแทรกแซงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม มีการศึกษา 1 ฉบับรายงานว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม และการศึกษาอีก 1 ฉบับ รายงานค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลทั้งหมดในกลุ่มแทรกแซงเพิ่มขึ้นมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม โดยรวมแล้ว การดูแลแบบครอบคลุมอาจทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลโดยรวมใน CMC มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างเลย อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ใช้ในการวัดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลทั้งหมดแตกต่างกันไปในแต่ละการศึกษา และความเชื่อมั่นของหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์นี้อยู่ในระดับต่ำ ไม่มีการศึกษาใดที่ประเมินค่าใช้จ่ายของครอบครัว
ข้อสรุปของผู้วิจัย
ข้อค้นพบของการทบทวนนี้ควรได้รับการปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ที่รวมมาได้มีจำนวนและคุณภาพที่จำกัด โดยรวมแล้ว ความเชื่อมั่นของหลักฐานสำหรับประสิทธิผลของการดูแล CMC แบบครอบคลุมมีตั้งแต่ต่ำถึงปานกลางในผลลัพธ์ และขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปผลที่ชัดเจน มีความจำเป็นที่จะต้องมีการทดลองแบบสุ่มคุณภาพสูงมากขึ้นโดยมีความสอดคล้องกันของประชากรเป้าหมายและองค์ประกอบการแทรกแซง วิธีการรายงานผลลัพธ์ และระยะเวลาติดตามผล เช่นเดียวกับการวิเคราะห์ต้นทุนทั้งหมด โดยคำนึงถึงทั้งต้นทุนของครอบครัวและต้นทุนของระบบการรักษาพยาบาล
แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 2 มกราคม 2025
