การเปรียบเทียบเทคนิค Active Cycle of Breathing (ACBT) กับวิธีอื่นๆ ในการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจในผู้ที่เป็นโรคซิสติก ไฟโบรซิส

คำถามที่ตรวจสอบ

ผลกระทบของเทคนิคการหายใจแบบ active cycle (ACBT) เมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ของการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจในผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิส

ความเป็นมา

การติดเชื้อเรื้อรังเป็นเรื่องที่พบบ่อยในโรคซิสติกไฟโบรซีสและการติดเชื้อซ้ำๆ อาจทำให้ปอดเสียหายและเป็นโรคได้ ผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิสใช้การรักษาโดยการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจเพื่อล้างเสมหะและปรับปรุงการทำงานของปอด ACBT ใช้วิธีหายใจร่วมกัน 3 วิธีเพื่อคลายและระบายเสมหะ นี่เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้

วันที่ค้นหา

หลักฐานเป็นปัจจุบันถึง : 29 มีนาคม 2021

ลักษณะการศึกษา

ในขณะที่เรารวมการศึกษา 22 ฉบับ ที่เปรียบเทียบ ACBT กับการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจอื่นๆ ในการทบทวน มีเพียงการศึกษา 8 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 259 คน) ที่รายงานข้อมูลที่เราสามารถรวมไว้ในการวิเคราะห์ การศึกษาทั้ง 8 ฉบับ เปรียบเทียบเทคนิคต่างๆ: ACBT ถูกนำมาเปรียบเทียบกับการระบายออกอัตโนมัติ, อุปกรณ์สั่นทางเดินหายใจ, อุปกรณ์กดหน้าอกความถี่สูง, ความดันหายใจอกจเป็นบวก, กายภาพบำบัดทรวงอกแบบเดิม และ ACBT ร่วมกับการออกกำลังกาย การศึกษาส่วนใหญ่ใช้เวลาวันเดียว แต่มีการศึกษา 2 ฉบับที่ใช้เวลาระหว่าง 1 ถึง 3 ปี ผู้เข้าร่วมมีอายุตั้งแต่ 6 ถึง 63 ปี และส่วนใหญ่ (59%) เป็นเพศชาย

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

เราพบว่า ACBT เทียบเคียงได้กับการรักษาอื่นๆ ในผลลัพธ์ เช่น คุณภาพชีวิต ความชอบส่วนตัว ความทนทานต่อการออกกำลังกาย การทำงานของปอด น้ำหนักเสมหะ ความอิ่มตัวของออกซิเจน และจำนวนครั้งของอาการกำเริบของปอด เราไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าเทคนิคใดดีกว่าเทคนิคอื่น จำเป็นต้องมีการศึกษาที่ยาวนานขึ้นเพื่อประเมินผลของ ACBT ต่อผลลัพธ์ที่สำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิส เช่น คุณภาพชีวิตและความชอบส่วนตัว

ความเชื่อมั่นของหลักฐาน

เรามีความมั่นใจเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในหลักฐาน และคิดว่าการวิจัยเพิ่มเติมมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อข้อสรุปของการทบทวนนี้สำหรับวิธีการที่ใช้ (interventions) ใดๆ ที่วิเคราะห์

การศึกษาหลายฉบับไม่ได้ให้รายละเอียดเพียงพอเกี่ยวกับวิธีการเพื่อตรวจสอบว่ามีอคติที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์หรือไม่ การศึกษาหลายฉบับไม่ได้รายงานว่าพวกเขาตัดสินใจได้อย่างไรว่าใครจะได้รับการรักษาแบบใด และพวกเขาแน่ใจได้อย่างไรว่าผู้ที่จัดคนเข้ากลุ่มการรักษาต่างๆ และผู้ที่กำลังประเมินผลนั้นไม่รู้ว่าแต่ละคนอยู่ในกลุ่มใด การศึกษาที่รวบรวมมาส่วนใหญ่มีการออกแบบแบบไขว้กัน (ซึ่งผู้คนมีการรักษาแบบหนึ่งแล้วเปลี่ยนไปใช้แบบที่สอง) และการศึกษาจำนวนมากไม่ได้รายงานระยะเวลาระหว่างการรักษาที่แตกต่างกัน เนื่องจากเป็นไปได้ว่าการรักษาครั้งแรกอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรักษาครั้งต่อไป เราจึงรวมเฉพาะผลลัพธ์จากการรักษาครั้งแรกเท่านั้น การศึกษาจำนวนมากไม่ได้รายงานผลลัพธ์แยกต่างหากสำหรับช่วงการรักษาแรก ดังนั้นเราจึงไม่รวมผลลัพธ์เหล่านี้ในการทบทวนของเรา

ผู้เข้าร่วมทุกคนรู้ว่าพวกเขาอยู่ในกลุ่มการรักษาใด (ไม่สามารถปิดบังเทคนิคกายภาพบำบัดที่แตกต่างกันได้) สิ่งนี้อาจส่งผลต่อผลลัพธ์สำหรับผลลัพธ์บางอย่างที่รายงานด้วยตนเอง เช่น คุณภาพชีวิต ความชอบส่วนตัว หรือความทนทานต่อการออกกำลังกาย แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่มีตัวชี้วัดมากกว่า เช่น การทำงานของปอด

การศึกษาส่วนใหญ่ติดตามผู้ที่เข้าร่วมเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือน และติดตามผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่แบบนี้ตลอดระยะเวลาการศึกษาทั้งหมด 2 ใน 3 ของการศึกษาที่มีการติดตามแบบระยะยาว มี 10% ของผู้ที่เข้าร่วมนั้นออกจากการศึกษาก่อนการสิ้นสุดการศึกษา ผลการศึกษาอาจได้รับผลกระทบหากผู้ที่ออกจากการศึกษาไม่ได้กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในกลุ่มการรักษาต่างๆ

กว่าครึ่งของการศึกษาได้ตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมใช้วิธีระบายเสมหะจากทางเดินหายใจที่พวกเขาควรจะทำ การศึกษาส่วนใหญ่รายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่วางแผนไว้ทั้งหมด

ข้อค้นพบของการทบทวนมีจำกัด เนื่องจากมีการศึกษาไม่มากนักที่ทำการเปรียบเทียบแบบเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาระยะยาวไม่มากนัก และการศึกษาที่เรารวมไว้ไม่ได้รายงานข้อมูลที่เพียงพอ

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนหรือปฏิเสธการใช้ ACBT เหนือการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจอื่น ๆ และ ACBT เทียบได้กับการรักษาอื่น ๆ ในผลลัพธ์ เช่น ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม คุณภาพชีวิต ความทนทานต่อการออกกำลังกาย การทำงานของปอด น้ำหนักเสมหะ ความอิ่มตัวของออกซิเจน และ จำนวนของการกำเริบของโรคปอด จำเป็นต้องมีการศึกษาระยะยาวเพื่อประเมินผลของ ACBT ต่อผลลัพธ์ที่สำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิสอย่างเพียงพอมากขึ้น เช่น คุณภาพชีวิตและความพึงพอใจ

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

ผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิส (cystic fibrosis; CF) จะมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจเรื้อรังอันเป็นผลมาจากการสะสมของเสมหะภายในปอด การติดเชื้อซ้ำ ๆ มักทำให้ปอดเสียหายและเป็นโรค การบำบัดด้วยการล้างทางเดินหายใจมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการขับเสมหะ เพิ่มการผลิตเสมหะ และปรับปรุงการทำงานของทางเดินหายใจ เทคนิคการหายใจแบบ active cycle (ACBT) เป็นวิธีการเคลียร์ทางเดินหายใจที่ใช้วงจรของเทคนิคเพื่อคลายสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ รวมถึงการควบคุมการหายใจ การฝึกขยายทรวงอก และเทคนิคการหายใจออกโดยการออกแรง นี่เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้

วัตถุประสงค์: 

เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลทางคลินิกของ ACBT กับการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจวิธีอื่น ๆ ใน CF

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหา Cochrane Cystic Fibrosis Trials Register ซึ่งรวบรวมจากการค้นหาฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และการสืบค้นด้วยมือของวารสารและหนังสือบทคัดย่อการประชุม เรายังค้นหาการลงทะเบียนการทดลองทางคลินิกและรายการอ้างอิงของบทความและการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบที่เกี่ยวข้อง

วันที่ค้นหาครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2021

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการศึกษาแบบ randomised controlled clinical studies หรือ quasi-randomised controlled clinical studies รวมถึงการศึกษาแบบ cross-over studies ซึ่งเปรียบเทียบ ACBT กับการระบายเสมหะจากทางเดินหายใจวิธีอื่น ๆ ใน CF

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ประพันธ์ 2 คนคัดกรองบทความแต่ละบทความ ดึงข้อมูลและประเมินความเสี่ยงของการมีอคติของการศึกษาแต่ละฉบับอย่างเป็นอิสระต่อกัน เราใช้ GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของเราในหลักฐานที่ประเมินคุณภาพชีวิต ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ปริมาณการหายใจออกอย่างใช้แรงในหนึ่งวินาที (FEV 1) % ที่ทำนาย ปริมาตรอากาศที่ได้จากการหายใจออกอย่างเร็วและแรงที่สุด 1 ครั้ง จากตําแหน่งหายใจเข้าเต็มที่ (forced vital capacity, FVC) % ที่คาดการณ์ น้ำหนักเสมหะ และจำนวนครั้งที่มีอาการกำเริบที่ปอด

ผลการวิจัย: 

การค้นหาของเราพบการศึกษา 99 ฉบับ ซึ่งมี 22 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 559 คน) ตรงตามเกณฑ์การคัดเลือก การศึกษาแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม 8 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 259 คน) รวมอยู่ในการวิเคราะห์ การศึกษา 5 ฉบับ เป็นการศึกษาแบบ cross-over design การศึกษาที่เหลืออีก 14 ฉบับ เป็นการศึกษาแบบ cross-over design ที่มีรายงานไม่เพียงพอสำหรับการประเมินที่สมบูรณ์ ขนาดการศึกษามีตั้งแต่ 7 ถึง 65 คน อายุของผู้เข้าร่วมมีตั้งแต่ 6 ถึง 63 ปี (อายุเฉลี่ย 18.7 ปี) ในการศึกษา 13 ฉบับ ติดตามผลในวันเดียว อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมระยะยาว 2 ฉบับ โดยมีการติดตามผล 1 ถึง 3 ปี การศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้รายงานเกี่ยวกับรายการคุณภาพที่สำคัญ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่ไม่ชัดเจนของอคติในแง่ของการสร้างลำดับแบบสุ่ม การปกปิดการจัดสรร และการปกปิดกลุ่มของผู้ประเมินผลลัพธ์ เนื่องจากธรรมชาติของวิธีการที่ใช้ (intervention) ไม่มีการศึกษาใดที่สามารถปกปิดกลุ่มผู้เข้าร่วมหรือบุคลากรที่ให้ intervention อย่างไรก็ตาม การศึกษาส่วนใหญ่รายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่วางแผนไว้ทั้งหมด มีการติดตามอย่างเพียงพอ ประเมินการปฏิบัติตาม และใช้การวิเคราะห์แบบความตั้งใจที่จะปฏิบัติ ( intention-to-treat analysis)

การศึกษาที่รวบรวมไว้เปรียบเทียบ ACBT กับระบบระบายออกอัตโนมัติ อุปกรณ์ช่วยสั่นทางเดินหายใจ (AOD) อุปกรณ์กดหน้าอกความถี่สูง กายภาพบำบัดทรวงอกแบบเดิม (CCPT) ความดันช่วยหายใจเป็นบวก (PEP) และการออกกำลังกาย เราไม่พบความแตกต่างในคุณภาพชีวิตระหว่างการรักษาด้วย ACBT และ PEP, AOD, เทคนิคการหายใจอื่นๆ หรือการออกกำลังกาย (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่มีความแตกต่างในความชอบส่วนบุคคลระหว่าง ACBT กับเทคนิคการหายใจอื่นๆ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) การศึกษา 1 ฉบับ ที่เปรียบเทียบ ACBT กับ ACBT บวกกับการออกกำลังกายโดยใช้ท่าทางรายงานว่าไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) เราไม่พบความแตกต่างในการทำงานของปอด (การทำนายปริมาณการหายใจออกแบบบังคับในหนึ่งวินาที (FEV1) % predicted และ forced vital capacity (FVC) % predicted) ความอิ่มตัวของออกซิเจนหรือเสมหะที่ขับออกระหว่าง ACBT และเทคนิคอื่นใด (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่มีความแตกต่างในจำนวนของการกำเริบของปอดระหว่างผู้ที่ใช้ ACBT และผู้ที่ใช้ CCPT (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) หรือ ACBT ร่วมกับการออกกำลังกาย (หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมาก) ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบเดียวที่รายงานผลลัพธ์นี้

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย ผกากรอง 17 มีนาคม 2023

Tools
Information