ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาวช่วยลดการเกิดซ้ำของไข้รูมาติกและการดำเนินของโรคไขข้อและโรคหัวใจรูมาติกได้หรือไม่

ใจความสำคัญ

ในผู้ที่เคยเป็นไข้รูมาติกมาก่อน (ร่างกายทำร้ายตัวเองเพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย) หรือมีโรคหัวใจรูมาติก (หัวใจได้รับความเสียหายระยะยาวเนื่องจากไข้รูมาติก):

- การใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาว (โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุกเดือนหรือรับประทานเป็นเม็ดทุกวัน) น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้รูมาติกได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

- ยาปฏิชีวนะที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจช่วยลดการดำเนินของโรคหัวใจระยะเริ่มต้น (แย่ลง) เมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานที่จะเปรียบเทียบยาปฏิชีวนะที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อกับยาปฏิชีวนะที่รับประทานสำหรับการดำเนินของโรคหัวใจระยะลุกลาม

- ยาปฏิชีวนะอาจไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการแพ้รุนแรง (ภาวะภูมิแพ้รุนแรง)

โรคหัวใจรูมาติกคืออะไร

โรคหัวใจรูมาติกเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจในกลุ่มคนอายุน้อยทั่วโลก และคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 1 ใน 3 ของคนหนึ่งล้านคนทุกปี โรคไข้รูมาติกจะเกิดขึ้นเมื่อระบบป้องกันของร่างกายทำงานผิดพลาด มักเกิดจากการติดเชื้อที่ลำคอ โดยต่อสู้กับหัวใจแทนที่จะต่อสู้กับแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อลิ้นหัวใจ (ประตูระหว่างห้องต่างๆ ในหัวใจ) ซึ่งเรียกว่าโรคหัวใจรูมาติก ยาปฏิชีวนะฆ่าแบคทีเรียที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้รูมาติก

เราต้องการค้นหาอะไร

เราต้องการทราบว่ายาปฏิชีวนะมีประสิทธิภาพในการลดโอกาสการเป็นไข้รูมาติกอีก ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจรูมาติกหรือไม่

เราทำอะไรไปแล้วบ้าง

เราได้รวมการศึกษาที่ให้ยาปฏิชีวนะแบบสุ่มแก่ผู้ที่เคยเป็นไข้รูมาติกหรือโรคหัวใจรูมาติกในอดีตหรือไม่ให้ (เช่น จากการโยนเหรียญ) เราสนใจในการเปรียบเทียบระหว่างยาปฏิชีวนะในระยะยาวกับการไม่ใช้ยา และการเปรียบเทียบเพนิซิลลินฉีดกล้ามเนื้อในระยะยาวกับยาปฏิชีวนะแบบรับประทานในระยะยาว ผู้เข้าร่วมในการศึกษาที่เรารวมไว้เคยมีไข้รูมาติกหรือโรคหัวใจรูมาติกมาก่อน แต่มีอายุเท่าใดก็ได้ เราได้ค้นหาเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงไข้รูมาติกที่กลับมาเป็นซ้ำ (ไข้รูมาติกกลับมาเป็นซ้ำ) โรคหัวใจรูมาติกที่แย่ลง (ความก้าวหน้าของโรคหัวใจรูมาติก) ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ (หัวใจอักเสบ) ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด (ภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรมและเหตุการณ์ของทารกในครรภ์/ทารกแรกเกิด) การเสียชีวิต (อัตราการเสียชีวิต) ผู้ป่วยปฏิบัติตามการรักษาของตนหรือไม่ (การปฏิบัติตามการรักษา) ปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจที่เป็นอันตราย (อาการแพ้อย่างรุนแรง) ภาวะแทรกซ้อน เช่น การบาดเจ็บของเส้นประสาท และผู้ป่วยพึงพอใจกับการใช้ยาปฏิชีวนะหรือไม่

เราพบอะไร

เราพบการศึกษา 11 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 3951 ราย) เพื่อช่วยเราตอบคำถามการทบทวนวรรณกรรมของเรา ผู้เข้าร่วมการศึกษาเหล่านี้มีอายุเฉลี่ย 12.3 ปี และเป็นชาย 50.6% ส่วนใหญ่เคยมีอาการไข้รูมาติกมาก่อน

เราพบว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาว (โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุกเดือนหรือรับประทานเป็นเม็ดทุกวัน) เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้ยายาปฏิชีวนะ น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้รูมาติกซ้ำหลายครั้งได้ การฉีดเข้ากล้ามเนื้อน่าจะได้ผลดีกว่าการใช้ยาแบบรับประทาน หากคุณตรวจพบโรคหัวใจรูมาติกระยะเริ่มแรกจากการตรวจ echocardiogram (การสแกนที่ใช้คลื่นเสียงเพื่อดูโครงสร้างภายในของหัวใจ) การฉีดยาปฏิชีวนะเพนิซิลลินเข้ากล้ามเนื้อทุกเดือนเมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะนั้นน่าจะช่วยลดความเสี่ยงที่ปัญหาหัวใจเหล่านี้จะแย่ลงได้ เราพบหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าการฉีดยาปฏิชีวนะเข้ากล้ามเนื้อเมื่อเทียบกับการไม่ฉีดยาปฏิชีวนะอาจไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่ส่งผลต่อการหายใจ (ภาวะแพ้รุนแรง) สูงมาก แต่มีโอกาสเกิดรอยแดงบริเวณที่ฉีดและอาการแพ้ยาปฏิชีวนะสูงกว่า ไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บของเส้นประสาท และไม่มีหลักฐานว่าการฉีดยาปฏิชีวนะจะดีกว่ายาเม็ดในการป้องกันไม่ให้โรคหัวใจรูมาติกแฝง (ระยะเริ่มต้น) แย่ลงหรือไม่

หลักฐานมีข้อจำกัดอะไรบ้าง

งานวิจัยที่รวมอยู่ส่วนใหญ่ (9 ฉบับ) ไม่ได้ดำเนินการในประเทศที่มีรายได้น้อย ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหัวใจรูมาติกมากที่สุด ซึ่งทำให้ผลลัพธ์เหล่านี้มีความเกี่ยวข้องน้อยลงสำหรับคนในประเทศเหล่านี้ ยังมีข้อมูลไม่มากนักเกี่ยวกับคำถามสำคัญอื่น ๆ นอกเหนือจากการกลับมาเป็นซ้ำของไข้รูมาติกหรือการแย่ลงของโรคหัวใจรูมาติก หลักฐานยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ อีกบางประการ เราได้ทำเครื่องหมายในการศึกษา 6 ฉบับที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปกปิด (ผู้เข้าร่วมการศึกษาหรือเจ้าหน้าที่ทราบว่าตนได้รับยาปฏิชีวนะหรือไม่และอาจตอบแบบสอบถามโดยอิงจากข้อมูลนี้) เป็นไปได้ที่คนในงานวิจัยที่รวมอยู่หลายฉบับจะทราบว่าตนกำลังได้รับการรักษาใด การศึกษา 4 ฉบับนี้อาจมีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการจัดกลุ่มคนแบบสุ่ม สำหรับผลลัพธ์บางส่วนในการตรวจสอบเรามีเพียงการศึกษาเดียว

จำเป็นต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพสูงมากขึ้นซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับส่วนต่างๆ ของโลกที่โรคไข้รูมาติกเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคหัวใจรูมาติกระยะเริ่มต้น (แฝง) ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันมากที่สุด

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานมีอยู่ในปัจจุบันถึงวันที่ 10 มีนาคม 2024 แม้ว่านี่จะเป็นการทบทวนวรรณกรรมล่าสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่หลักฐานส่วนใหญ่ในการทบทวนวรรณกรรมนี้มาจากช่วงปี ค.ศ. 1950 ถึง 1960 ดังนั้นวิธีการรักษาบางอย่างอาจล้าสมัยไปแล้ว

บทนำ

ไข้รูมาติกเป็นภาวะอักเสบเรื้อรังที่ไม่ก่อให้เกิดหนองของเชื้อกรุ๊ป A Streptococcus pharyngitis ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ใน 2 ถึง 4 สัปดาห์หลังจากการติดเชื้อ หลังจากมีไข้รูมาติก ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจรูมาติก (rheumatic heart disease; RHD) ในภายหลัง ซึ่งส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต RHD ยังคงเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือดทั่วโลกในกลุ่มคนอายุน้อย (อายุ < 25 ปี) วรรณกรรมในประวัติศาสตร์ให้หลักฐานที่สรุปผลไม่ได้ว่าการป้องกันด้วยยาปฏิชีวนะมีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำของโรคไข้รูมาติกและการเกิด RHD เชื่อกันว่ายาปฏิชีวนะจะออกฤทธิ์โดยลดการสะสมของ เชื้อ Streptococcus กลุ่ม A และช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization; WHO) ได้มอบหมายให้มีการทบทวนเรื่องนี้เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติในอนาคต

วัตถุประสงค์

1. เพื่อประเมินผลของการใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาวเทียบกับการไม่ใช้ยา (กลุ่มควบคุม) ต่อการป้องกันการเกิดซ้ำของไข้รูมาติกและภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องในผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้รูมาติกหรือ RHD มาก่อน

2. เพื่อประเมินผลของการใช้เพนิซิลลินฉีดเข้ากล้ามเนื้อระยะยาวเทียบกับยาปฏิชีวนะโดยการกินระยะยาวเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำของไข้รูมาติกและภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องในผู้ป่วยที่เคยเป็นไข้รูมาติกหรือ RHD มาก่อน

วิธีการสืบค้น

เราได้สืบค้นอย่างเป็นระบบในเว็บไซต์ CENTRAL, MEDLINE, Embase, Conference Proceedings Citation Index-Science, clinical trial registers, ISRCTN.com และรายการอ้างอิงโดยไม่มีข้อจำกัดด้านภาษาหรือวันที่จนถึงวันที่ 10 มีนาคม 2024

เกณฑ์การคัดเลือก

เราหาการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมหรือการทดลองแบบกึ่งสุ่ม ที่มีคำอธิบายเป็นภาษาใดก็ได้ รวมไปถึงผู้เข้าร่วมที่เคยเป็นไข้รูมาติกและ/หรือ RHD มาก่อนในทุกช่วงอายุ โดยอยู่ในชุมชนหรือในโรงพยาบาล รวมการศึกษาหากเปรียบเทียบการป้องกันด้วยยาปฏิชีวนะกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ และการป้องกันด้วยเพนิซิลลินฉีดทางกล้ามเนื้อเทียบกับการป้องกันด้วยยาปฏิชีวนะโดยการกิน

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราใช้ระเบียบวิธีการมาตรฐานที่ Cochrane กำหนด และทำ meta-analysis ด้วย risk ratios (RR) และ Peto odds ratios (Peto OR) ผลลัพธ์หลักของเราคือการกลับมาเป็นซ้ำของไข้รูมาติก การเปนมากขึ้นหรือความรุนแรงของ RHD และภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจ ผลลัพธ์รองของเราได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรม (เหตุการณ์ที่เกิดกับมารดาและทารกในครรภ์) อัตราการเสียชีวิต การปฏิบัติตามการรักษา เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และความยอมรับของผู้เข้าร่วม เราทำการประเมินความเสี่ยงของการมีอคติอย่างครอบคลุมและความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้วิธีการของ GRADE

ผลการวิจัย

เรารวบรวมการศึกษา 11 ฉบับ (RCTs 7 ฉบับ และ การทดลองแบบกึ่งสุ่ม 4 ฉบับ) ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 3951 ราย การศึกษาส่วนใหญ่ที่รวมอยู่ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดาในช่วงทศวรรษปี 1950 ถึง 1960 ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ที่เคยเป็นไข้รูมาติกมาก่อนและได้รับการวินิจฉัยโดยใช้ modified Jones criteria (mJC) (การศึกษา 4 ฉบับ) มีอายุเฉลี่ย 12.3 ปี และเป็นชาย 50.6% เราประเมินการศึกษาส่วนใหญ่ที่รวมอยู่ว่ามีความเสี่ยงของการมีอคติสูง โดยส่วนใหญ่เป็นอคติที่เกี่ยวกับการปกปิด (blinding bias) และอคติในการติดตามผู้เข้าร่วม (attrition bias)

การเปรียบเทียบที่ 1: ยาปฏิชีวนะกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

การวิเคราะห์ meta-analysis รวมข้อมูลของ RCTs 6 ฉบับ ให้หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางว่าโดยรวมแล้วยาปฏิชีวนะ (ชนิดรับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ) น่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไข้รูมาติกซ้ำได้อย่างมาก (0.7% เทียบกับ 1.7% ตามลำดับ) (risk ratio (RR) 0.39, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.22 ถึง 0.69; ผู้เข้าร่วม 1721 ราย) ผู้ที่มี RHD ระยะเริ่มต้นหรือไม่รุนแรง มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการป้องกันด้วยยาปฏิชีวนะทางกล้ามเนื้อมากที่สุด (8.1%) เมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (0.7%) (RR 0.09, 95% CI 0.03 ถึง 0.29; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 818 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ยาปฏิชีวนะอาจไม่ส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วย RHD ระยะท้าย (RR 1.23, 95% CI 0.78 ถึง 1.94; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 994 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) ยาปฏิชีวนะอาจไม่ส่งผลต่อความเสี่ยงของอาการแพ้รุนแรง (Peto odds ratio (OR) 7.39, 95% CI 0.15 ถึง 372; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 818 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) หรือการบาดเจ็บของเส้นประสาทไซแอติก (Peto OR 7.39, 95% CI 0.15 ถึง 372; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 818 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ แต่มีแนวโน้มว่ามีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของปฏิกิริยาไวเกิน (RR 137, 8.51 ถึง 2210; การศึกษา 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 894 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และปฏิกิริยาเฉพาะที่ (RR 29, 1.74 ถึง 485; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 818 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)

การเปรียบเทียบที่ 2: ยาปฏิชีวนะแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อเทียบกับยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน

การวิเคราะห์รวมผลลัพธ์ของ RCTs 2 ฉบับ แสดงให้เห็นว่าการให้ benzathine benzylpenicillin ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อการป้องกันมีแนวโน้มที่จะช่วยลดการเกิดซ้ำของไข้รูมาติกได้อย่างมากเมื่อเทียบกับยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน (0.1% เทียบกับ 1% ตามลำดับ) (RR 0.07, 95% CI 0.02 ถึง 0.26; ผู้เข้าร่วม 395 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) นอกจากนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า benzyl penicillin แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะดีกว่ายาปฏิชีวนะแบบรับประทานในการลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตในบริบทของ RHD หรือไม่ (Peto OR 0.22, 95% CI 0.01 ถึง 4.12; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 431 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นมากขึ้นของ RHD แฝงหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ รวมถึงอาการแพ้อย่างรุนแรง การบาดเจ็บของเส้นประสาทไซแอติก อาการแพ้/ไวเกินที่เกิดขึ้นในภายหลัง และปฏิกิริยาในบริเวณที่ฉีดยา

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การทบทวนวรรณกรรมนี้แสดงหลักฐานว่าการป้องกันด้วยยาปฏิชีวนะน่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไข้รูมาติกซ้ำได้เมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ และการฉีดเบนซาทีนเบนซิลเพนิซิลลินเข้ากล้ามเนื้อน่าจะดีกว่ายาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน (ดีกว่าประมาณ 10 เท่า) นอกจากนี้ การฉีด benzathine benzylpenicillin เข้ากล้ามเนื้อน่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการดำเนินโรคของ RHD แฝงได้ หลักฐานยังคงขาดแคลน แต่การใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้ยาอาจไม่ส่งผลต่อความเสี่ยงของอาการแพ้รุนแรงหรือการบาดเจ็บของเส้นประสาทไซแอติก แต่มีแนวโน้มมีความเสี่ยงต่อปฏิกิริยาไวเกินและปฏิกิริยาเฉพาะที่เพิ่มขึ้น ยาปฏิชีวนะอาจไม่ส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุในผู้ป่วย RHD ระยะท้ายเมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่มีหลักฐานใดที่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลของเพนิซิลลินที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเมื่อเทียบกับยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานต่อการดำเนินของ RHD แฝงและอาการไม่พึงประสงค์ และมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยสำหรับการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ สิ่งสำคัญคือการตีความผลการค้นพบเหล่านี้ในบริบทของข้อจำกัดที่สำคัญ รวมถึงสิ่งต่อไปนี้: การศึกษาที่รวมอยู่ส่วนใหญ่ดำเนินการมานานกว่า 50 ปีที่แล้ว หลาย ๆ การศึกษาเกิดขึ้นก่อนมีการศึกษาด้วยคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจในปัจจุบัน วิธีการวิจัยมักมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอคติ มีการใช้การรักษาที่ล้าสมัย มีเพียงการศึกษาวิจัยเดียวที่ทำใน RHD แฝง และมีข้อกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการสรุปผลไปยังภูมิภาคที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจว่าใครจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการป้องกัน

บันทึกการแปล

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ สาขาวิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 30 กันยายน 2024 Edit โดย ศ พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 29 มกราคม 2025

การอ้างอิง
Bray JJH, Thompson S, Seitler S, Ali SA, Yiu J, Salehi M, Ahmad M, Pelone F, Gashau H, Shokraneh F, Ahmed N, Cassandra M, Marijon E, Celermajer DS, Providencia R. Long-term antibiotic prophylaxis for prevention of rheumatic fever recurrence and progression to rheumatic heart disease. Cochrane Database of Systematic Reviews 2024, Issue 9. Art. No.: CD015779. DOI: 10.1002/14651858.CD015779.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า