ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การนวดแก้ปวดหลังส่วนล่าง

คำถามการทบทวนวรรณกรรม

การนวดบำบัดมีผลกับคนที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างอย่างไร

ความเป็นมา

อาการ LBP เกิดขึ้นได้บ่อยมาก แม้อาการปวดหลังส่วนใหญ่จะดีขึ้นได้โดยไม่ต้องรักษาทางการแพทย์ แต่ประมาณ 10% ของอาการปวดหลังจะคงอยู่นาน 3 เดือนหรือมากกว่านั้น มีวิธีการบำบัดมากมายที่ใช้ในการรักษาอาการปวดและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีอาการปวดหลัง การนวดเป็นหนึ่งในการบำบัดประเภทนี้

วันที่สืบค้น

เราได้อัปเดตการค้นหาในวันที่ 7 สิงหาคม ปี 2014 และรวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมเพิ่มเติมอีก 12 ฉบับ ในการอัปเดตการทบทวนวรรณกรรมนี้

ลักษณะของการศึกษา

โดยรวมแล้ว เราได้รวม RCT จำนวน 25 ฉบับและผู้เข้าร่วม 3096 รายในการอัปเดตการทบทวนวรรณกรรมครั้งนี้ มีการทดลองเพียงฉบับเดียวที่รวบรวมผู้ป่วยที่เป็น LBP เฉียบพลัน (มีอาการปวดเป็นระยะเวลาน้อยกว่า 4 สัปดาห์) ในขณะที่การทดลองอื่นๆ ทั้งหมดรวมผู้ป่วยที่เป็น LBP กึ่งเฉียบพลัน (4 ถึง 12 สัปดาห์) หรือ LBP เรื้อรัง (12 สัปดาห์ขึ้นไป) ในการศึกษาทั้ง 3 ฉบับ การนวดจะใช้เครื่องมือกล (เช่น แท่งโลหะเพื่อเพิ่มแรงกดบนผิวหนังหรือเครื่องมือสั่นสะเทือน) และในการทดลองที่เหลือจะเป็นการนวดโดยใช้มือ ความรุนแรงและคุณภาพของความเจ็บปวดเป็นผลลัพธ์ที่พบได้บ่อยที่สุดในการศึกษาเหล่านี้ รองลงมาคือการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหลัง เช่น การเดิน การนอนหลับ การก้มตัว และการยกน้ำหนัก

แหล่งทุนของการศึกษา

การศึกษาวิจัย 7 ฉบับไม่ได้รายงานแหล่งที่มาของเงินทุน ส่วนการศึกษาวิจัย 16 ฉบับได้รับทุนจากองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร การศึกษาวิจัย 1 ฉบับรายงานว่าไม่ได้รับเงินทุนใดๆ และมีการศึกษาวิจัยอีก 1 ฉบับได้รับทุนจากวิทยาลัยนักบำบัดนวด

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

มีการศึกษา 8 ฉบับที่เปรียบเทียบการนวดกับการแทรกแซงที่ไม่คาดว่าจะไม่ช่วยเพิ่มผลลัพธ์ (กลุ่มควบคุมที่เป็นแบบ inactive) และมีการศึกษา 13 ฉบับที่เปรียบเทียบการนวดกับการแทรกแซงอื่นๆ ที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ (กลุ่มควบคุมที่เป็นแบบ active controls) การนวดให้ผลดีกว่ากลุ่มควบคุมแบบ inactive ในด้านอาการปวดและการทำงานของร่างกายในระยะสั้น แต่ไม่เป็นเช่นนั้นในการติดตามผลระยะยาว การนวดให้ผลดีกว่ากลุ่มควบคุมแบบมีการรักษา (active controls) ในด้านอาการปวด ทั้งในการติดตามผลระยะสั้นและระยะยาว แต่เราไม่พบความแตกต่างในด้านการทำงานของร่างกาย ไม่ว่าจะในการติดตามผลระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตาม ไม่มีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงในระหว่างการทดลองเหล่านี้ อาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยที่สุด คือ ความรุนแรงของอาการปวดที่เพิ่มขึ้นในผู้เข้าร่วม 1.5% ถึง 25%

คุณภาพของหลักฐานงานวิจัย

คุณภาพของหลักฐานสำหรับการเปรียบเทียบทั้งหมดได้รับการจัดระดับเป็น "ต่ำ" หรือ "ต่ำมาก" ซึ่งหมายความว่าเรามีความเชื่อมั่นในผลลัพธ์เหล่านี้น้อยมาก เนื่องจากการศึกษาวิจัยที่รวมอยู่ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและมีข้อบกพร่องในเชิงวิธีการ

บทนำ

อาการปวดหลังส่วนล่าง (Low-back pain; LBP) เป็นปัญหาทางระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูกที่พบบ่อยที่สุดและมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในสมัยนี้ ผู้ใหญ่ 70% ถึง 80% เคยประสบกับโรคนี้ในบางช่วงของชีวิต การบำบัดด้วยการนวดสามารถลดความเจ็บปวดและช่วยให้ร่างกายกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินผลการบำบัดด้วยการนวดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างแบบไม่จำเพาะ

วิธีการสืบค้น

เราค้นหา PubMed จนถึงเดือนสิงหาคม 2014 และฐานข้อมูลต่อไปนี้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2014: MEDLINE, EMBASE, CENTRAL, CINAHL, LILACS, Index to Chiropractic Literature และ Proquest Dissertation Abstracts เราได้ตรวจสอบรายการอ้างอิงด้วย ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา

เกณฑ์การคัดเลือก

เราได้รวบรวมเฉพาะการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมของผู้ใหญ่ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างแบบไม่จำเพาะซึ่งจำแนกเป็นแบบเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน และเรื้อรัง การนวดหมายถึงการนวดเนื้อเยื่ออ่อนโดยใช้มือหรืออุปกรณ์เครื่องกล เราแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบออกเป็น 2 ประเภท คือ กลุ่มควบคุมแบบ inactive (ซึ่งรวมถึงการบำบัดหลอก กลุ่มรอรับการรักษา หรือการไม่ได้รับการรักษา) และกลุ่มควบคุมแบบมีการรักษา (active control) (ซึ่งรวมถึงการดัดจัดกระดูก การเคลื่อนไหวข้อต่อ การกระตุ้นไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) การฝังเข็ม การดึง การผ่อนคลาย กายภาพบำบัด การออกกำลังกาย หรือการให้ความรู้เพื่อการดูแลตนเอง)

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราใช้ขั้นตอนวิธีการมาตรฐานของ Cochrane และปฏิบัติตามแนวปฏิบัติ CBN ผู้เขียน 2 คนดำเนินการเลือกบทความ ดึงข้อมูล และการประเมินเชิงวิจารณ์ อย่างอิสระต่อกัน

ผลการวิจัย

โดยรวมแล้ว เราได้รวบรวมการทดลองทั้งหมด 25 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 3096 ราย) ในการอัปเดตการทบทวนวรรณกรรมครั้งนี้ การทดลองส่วนใหญ่ได้รับทุนจากองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร การทดลอง 1 ฉบับ รวบรวมผู้เข้าร่วมที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเฉียบพลัน ส่วนการทดลองที่เหลือรวบรวมผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างกึ่งเฉียบพลันหรือเรื้อรัง (CLBP) ในการทดลอง 3 ฉบับ ใช้เครื่องมือกลในการนวด และการทดลองที่เหลือใช้เพียงมือเท่านั้น ประเภทอคติที่พบบ่อยที่สุดในการศึกษาเหล่านี้คืออคติด้านประสิทธิภาพและการวัด เนื่องจากการปกปิดผู้เข้าร่วม นักกายภาพบำบัด และผลการวัดนั้นทำได้ยาก เราตัดสินว่าคุณภาพของหลักฐานอยู่ในระดับ "ต่ำ" ถึง "ต่ำมาก" และเหตุผลหลักในการลดระดับหลักฐานคือ ความเสี่ยงของการมีอคติ และความไม่แม่นยำ ไม่มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเสี่ยงของการมีอคติในการตีพิมพ์ การนวดมีประสิทธิผลในระยะสั้นในการลดอาการปวดในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างแบบเฉียบพลัน เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการรักษา (SMD -1.24, CI 95%: -1.85 ถึง -0.64) แต่ไม่แสดงผลในด้านการฟื้นฟูการทำหน้าที่ของร่างกาย (SMD -0.50, CI 95%: -1.06 ถึง 0.06) สำหรับอาการปวดหลังส่วนล่างแบบกึ่งเฉียบพลันและเรื้อรัง การนวดให้ผลดีกว่ากลุ่มควบคุมที่เป็น inactive controls ในการลดอาการปวด (SMD -0.75, ช่วงความเชื่อมั่น 95%: -0.90 ถึง -0.60; ผู้เข้าร่วม = 761 คน; จำนวนการศึกษา = 7 ฉบับ) และในด้านการทำหน้าที่ของร่างกาย (SMD -0.72, ช่วงความเชื่อมั่น 95%: -1.05 ถึง -0.39; ผู้เข้าร่วม = 725 คน; จำนวนการศึกษา = 6 ฉบับ) ในระยะสั้น แต่ไม่พบผลในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับการรักษา (active controls) พบว่าการนวดช่วยลดอาการปวดได้ดีกว่า ทั้งในระยะสั้น (SMD -0.37, ช่วงความเชื่อมั่น 95%: -0.62 ถึง -0.13; ผู้เข้าร่วม = 964 คน; จำนวนการศึกษา = 12 ฉบับ) และในระยะยาว (SMD -0.40, ช่วงความเชื่อมั่น 95%: -0.80 ถึง -0.01; ผู้เข้าร่วม = 757 คน; จำนวนการศึกษา = 5 ฉบับ) แต่ไม่พบความแตกต่างในด้านการทำหน้าที่ของร่างกาย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่มีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงในระหว่างการทดลองเหล่านี้ ความรุนแรงของอาการปวดที่เพิ่มขึ้นเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยที่สุดในผู้เข้าร่วม 1.5% ถึง 25%

ข้อสรุปของผู้วิจัย

เรามีความเชื่อมั่นน้อยมากว่าการนวดสามารถรักษาอาการ LBP ได้อย่างมีประสิทธิผล อาการปวดหลังส่วนล่างเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน และเรื้อรัง มีการช่วยลดความเจ็บปวดด้วยการนวดเฉพาะในการติดตามผลระยะสั้น การศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างแบบกึ่งเฉียบพลันและเรื้อรัง มีการฟื้นฟูสมรรถภาพการใช้งานร่างกายได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการรักษา อย่างไรก็ตาม ผลดังกล่าวปรากฏเฉพาะในการประเมินผลในระยะสั้นเท่านั้น การนวดมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

บันทึกการแปล

ผู้แปล แพทย์หญิงชุติมา ชุณหะวิจิตร วันที่ 3 มิถุนายน 2025

การอ้างอิง
Furlan AD, Giraldo M, Baskwill A, Irvin E, Imamura M. Massage for low-back pain. Cochrane Database of Systematic Reviews 2015, Issue 9. Art. No.: CD001929. DOI: 10.1002/14651858.CD001929.pub3.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า