[การรักษา uveitis ที่เกี่ยวข้องกับโรคไขข้ออักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุเด็กและเยาวชน (JIA): tumour necrosis factor (TNF) ทำงานได้ดีเพียงใด]

ข้อความสำคัญ

Adalimumab ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์สำหรับการรักษา uveitis ที่เกี่ยวข้องกับ JIA ในขณะที่หลักฐานมีจำกัดสำหรับ etanercept เราไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่ายาเหล่านี้ป้องกันการสูญเสียการมองเห็นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาอาจใช้เวลาไม่นานพอที่จะตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของการมองเห็น ผลข้างเคียงจากสารยับยั้ง TNF มักจะไม่รุนแรง แม้ว่าผลข้างเคียงที่ร้ายแรงอาจเกิดขึ้นได้

uveitis ที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุเด็กและเยาวชนคืออะไร

โรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุเด็กและเยาวชน (JIA) เป็นภาวะไขข้อเรื้อรังที่พบบ่อยที่สุดในวัยเด็กและทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อ (โรคข้ออักเสบ) ผู้ที่เป็นโรค JIA บางคนก็มีการอักเสบของดวงตาที่เรียกว่าม่านตาอักเสบเช่นกัน หากตรวจพบและรักษาไม่ดีพอ ม่านตาอักเสบอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อดวงตาถาวร ความบกพร่องทางสายตา หรือตาบอดได้

uveitis ที่เกี่ยวข้องกับ JIA ได้รับการรักษาอย่างไร

มียาหลายชนิดสำหรับรักษาภาวะ uveitis ที่เกี่ยวข้องกับ JIA กลุ่มยาที่เรียกว่าสารยับยั้ง tumor necrosis factor (TNF) เป็นหนึ่งในการรักษาที่ใช้สำหรับ JIA และ JIA-U การรักษาเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่โปรตีนที่เรียกว่า 'tumor necrosis factor' ที่ทำให้เกิดการอักเสบ ยาเหล่านี้ไปกดภูมิคุ้มกันเพื่อลดการอักเสบและป้องกันความเสียหายของดวงตา

เราต้องการทราบอะไร

จุดประสงค์หลักของการทบทวนนี้คือเพื่อตรวจสอบว่าสารยับยั้ง TNF สามารถปรับปรุงอาการของโรคยูเวียอักเสบที่เกี่ยวข้องกับ JIA ได้หรือไม่ และเพื่อสรุปอันตรายที่เป็นไปได้ของการรักษาเหล่านี้

เราทำอะไร

เราค้นหาเอกสารทางการแพทย์สำหรับการศึกษาที่เปรียบเทียบสารยับยั้ง TNF กับยาหลอกสำหรับม่านตาอักเสบที่เกี่ยวข้องกับ JIA เราสรุปหลักฐานสำหรับผลลัพธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและให้คะแนนความเชื่อมั่นในหลักฐาน เนื่องจากการศึกษาที่รวบรวมมานั้นไม่ได้วัดหรือรายงานผลลัพธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของเรา เราจึงสรุปหลักฐานเพิ่มเติมเป็นรายงานโดยการศึกษาแต่ละรายการ

เราพบอะไร

เราพบการศึกษาที่เกี่ยวข้องสามเรื่องที่มีผู้เข้าร่วม 134 คน การศึกษา 2 ฉบับ ตรวจสอบสารยับยั้ง TNF ที่เรียกว่า adalimumab และการศึกษา 1 ฉบับ ตรวจสอบสารยับยั้ง TNF ที่เรียกว่า etanercept การศึกษาแต่ละเรื่องวัดผลของยาที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะเปรียบเทียบการศึกษาและหาข้อสรุป การวิเคราะห์เบื้องต้นของเราไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสารยับยั้ง TNF และยาหลอก โดยคำนึงถึงความเสี่ยงของความสำเร็จในการรักษาหรือความล้มเหลวในการรักษา ในการทบทวนผลลัพธ์ที่ประเมินในแต่ละการศึกษา สารยับยั้ง TNF ช่วยเพิ่มโอกาสของความสำเร็จในการรักษาและลดความเสี่ยงของความล้มเหลวในการรักษาเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก การศึกษา 1 ฉบับ พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับ adalimumab สามารถลดจำนวนยาหยอดตาที่ใช้ได้มากกว่ากลุ่มที่ได้ยาหลอก ซึ่งบ่งชี้ว่า adalimumab อาจลดการอักเสบได้

ผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับยารวมถึงปฏิกิริยาในบริเวณที่ฉีดและการติดเชื้อมักไม่รุนแรงและพบได้บ่อยกว่าในกลุ่มที่ได้สารยับยั้ง TNF อาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็พบได้บ่อยกว่าในกลุ่มที่ได้สารยับยั้ง TNF ผลข้างเคียงโดยรวมคล้ายกับที่พบในการใช้รักษาโรคอื่นๆ

มันหมายความว่าอะไร

การตรวจสอบของเราแนะนำว่า adalimumab ซึ่งเป็นสารยับยั้ง TNF ตัวหนึ่ง ช่วยเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงอาการทางตาของม่านตาอักเสบ และลดโอกาสที่เยื่อบุม่านตาอักเสบจะแย่ลงเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก

หลักฐานเป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานเป็นปัจจุบันจนถึง 3 กุมภาพันธ์ 2022

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

Adalimumab ดูเหมือนจะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการรักษาและลดโอกาสที่การรักษาจะล้มเหลวเมื่อเทียบกับยาหลอก หลักฐานมีข้อสรุปน้อยกว่าเกี่ยวกับผลการรักษาในเชิงบวกด้วย etanercept อาการไม่พึงประสงค์จากการทดลอง JIA-U สอดคล้องกับโปรไฟล์ผลข้างเคียงที่ทราบแล้วของสารยับยั้ง TNF ต้องมีการวัดผลลัพธ์ JIA-U ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานเพื่อให้การประเมินเป็นเนื้อเดียวกันและเพื่อให้สามารถเปรียบเทียบและวิเคราะห์ชุดข้อมูลหลายชุดได้

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

Uveitis เป็นอาการแสดงภายนอกข้อที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุเด็กและเยาวชน (JIA) และเป็นภาวะที่อาจคุกคามสายตาซึ่งมีลักษณะของการอักเสบในลูกตา การรักษาในปัจจุบันสำหรับโรคม่านตาอักเสบที่เกี่ยวข้องกับ JIA (JIA-U) ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ หลักฐานจากการสังเกต และแนวทางที่เป็นเอกฉันท์ ส่งผลให้มีความแตกต่างกันอย่างมากในทางปฏิบัติ

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารยับยั้ง tumor necrosis factor (TNF) ที่ใช้ในการรักษา JIA-U

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้นใน Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL); Ovid MEDLINE; Embase.com; PubMed; Latin American and Caribbean Health Sciences Literature Database (LILACS); ClinicalTrials.gov, และ the World Health Organization (WHO) International Clinical Trials Registry Platform (ICTRP) เราค้นหาฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2022

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการศึกษาวิจัยแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (RCTs) ที่เปรียบเทียบสารยับยั้ง TNF กับยาหลอกในผู้เข้าร่วมที่มีการวินิจฉัยโรค JIA และม่านตาอักเสบซึ่งมีอายุระหว่าง 2 ถึง 18 ปี

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้วิธีการมาตรฐานของ Cochrane และให้คะแนนความแน่นอนของเนื้อความของหลักฐานสำหรับผลลัพธ์เจ็ดรายการโดยใช้การจำแนก GRADE

ผลการวิจัย: 

เรารวม RCTs 3 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 134 คน

การศึกษา 1 ฉบับ ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาสุ่มผู้เข้าร่วมเพื่อใช้ etanercept หรือยาหลอก (N = 12) การศึกษา 2 ฉบับ ซึ่งการศึกษา 1 ฉบับ ดำเนินการในสหราชอาณาจักร (N = 90) และอีกการศึกษา 1 ฉบับ ดำเนินการในฝรั่งเศส (N = 32) สุ่มผู้เข้าร่วมใช้ adalimumab หรือยาหลอก การศึกษาทั้งหมดมีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำ การประมาณการโดยรวมเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าสารยับยั้ง TNF อาจส่งผลให้เกิดความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในความสำเร็จของการรักษาที่กำหนดเป็น 0 เพื่อติดตามเซลล์ในการให้คะแนนมาตรฐานของ Uveitis Nomenclature (SUN); หรือลดลงสองขั้นตอนในกิจกรรมตามการจัดระดับ SUN (อัตราส่วนความเสี่ยงโดยประมาณ (RR) 0.66; 95% ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 0.21 ถึง 2.10; การศึกษา 2 ฉบับ; ผู้เข้าร่วม 43 คน; หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำ) หรือความล้มเหลวในการรักษาที่กำหนดเป็นสองขั้นที่เพิ่มขึ้นตามระดับ SUN (RR 0.31; 95% CI 0.01 ถึง 7.15; การศึกษา 1 ฉบับ; ผู้เข้าร่วม 31 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) การวิเคราะห์เพิ่มเติมโดยใช้คำจำกัดความของการทดลองแต่ละฉบับเกี่ยวกับการตอบสนองต่อการรักษาและความล้มเหลว ชี้ให้เห็นถึงผลการรักษาในเชิงบวกของสารยับยั้ง TNF; RR ของความสำเร็จในการรักษาเท่ากับ 2.60 (95% CI 1.30 ถึง 5.20; การศึกษา 3 ฉบับ; ผู้เข้าร่วม 124 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) และ RR ของความล้มเหลวในการรักษา 0.23 (95% CI 0.11 ถึง 0.50; การศึกษา 3 ฉบับ; ผู้เข้าร่วม 133 คน) หลักฐานเกือบทั้งหมดเกี่ยวกับ adalimumab และหลักฐานเกี่ยวกับ etanercept นั้นมีจำกัดมาก สำหรับผลลัพธ์รอง การศึกษาหนึ่งชี้ให้เห็นว่า adalimumab อาจมีผลต่อความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำหลังจากการชักนำให้โรคสงบใน 3 เดือนเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย (RR 2.50, 95% CI 0.31 ถึง 20.45; ผู้เข้าร่วม 90 คน; หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมาก) และการมองเห็น แต่หลักฐานไม่แน่นอนมาก ค่าเฉลี่ยความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลงคะแนในระยะยาวของ logMAR ในช่วง 6 เดือนคือ -0.01 (95% CI –0.06 ถึง 0.03) และ -0.02 (95% CI –0.07 ถึง 0.03) โดยใช้การวัด logMAR ที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด ตามลำดับ (หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำ) หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำจากการศึกษาหนึ่งชี้ให้เห็นว่าการรักษาด้วย adalimumab ส่งผลให้ปริมาณการใช้สเตียรอยด์เฉพาะที่ลดลงใน 6 เดือน (อัตราส่วนอันตราย 3.58; 95% CI 1.24 ถึง 10.32; ผู้เข้าร่วม 74 คนที่ได้รับสเตียรอยด์เฉพาะที่หนึ่งหรือมากกว่าต่อวันที่การตรวจวัดพื้นฐาน) อาการไม่พึงประสงค์รวมถึงปฏิกิริยาในบริเวณที่ฉีดและการติดเชื้อพบได้บ่อยในกลุ่มสารยับยั้ง TNF เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงพบไม่บ่อย

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว Edit โดย ผกากรอง 5 มกราคม 2023

Tools
Information