การส่องกล้องทางช่องท้องในการวินิจฉัยการกระจายของมะเร็งรังไข่

เหตุใดการปรับปรุงการวินิจฉัยการกระจายมะเร็งรังไข่จึงมีความสำคัญ
มะเร็งรังไข่เป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิต (เสียชีวิต) สูง สตรีจำนวนมาก (75%) ได้รับการวินิจฉัยเมื่อโรคอยู่ในขั้นสูงแล้ว และสตรี 140,000 คนเสียชีวิตจากโรคนี้ในแต่ละปีทั่วโลก การรักษาประกอบด้วยการผ่าตัด debulking (การกำจัดเนื้องอกให้ได้มากที่สุดในระหว่างการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง โดยปกติผ่านการผ่าตัดแนวตั้งยาวที่หน้าท้อง) และให้เคมีบำบัด 6 รอบ ลำดับของการรักษาทั้งสองอย่างนี้ขึ้นอยู่กับการกระจายของโรค (การแพร่กระจาย) และสุขภาพโดยทั่วไปของผู้ป่วย เป้าหมายของการผ่าตัด debulding คือการกำจัดเนื้องอกที่มองเห็นได้ทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้มีเนื้องอกตกค้างที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. เมื่อการประเมินการวินิจฉัยชี้ว่าเป้าหมายของการผ่าตัดลดขนาดไม่สามารถทำได้ การรักษาเบื้องต้นอาจใช้เคมีบำบัด 3 รอบเพื่อลดขนาดเนื้องอกในขั้นแรก ตามด้วยการผ่าตัดเอาเนื้องอกออกและต่อด้วยเคมีบำบัดต่อไปเพื่อให้ครบ 6 รอบของเคมีบำบัด

เพื่อวินิจฉัยการแพร่กระจายของโรคทำโดยการตรวจร่างกาย การตรวจอัลตราซาวนด์ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในช่องท้อง (CT scan) และการวัดค่าของตัวบ่งชี้มะเร็ง (เลือด) การวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้สตรีมีการผ่าตัด debulking เบื้องต้นไม่สำเร็จ

จุดมุ่งหมายของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร
จุดมุ่งหมายของการทบทวนนี้คือเพื่อตรวจสอบว่า laparoscopy (การผ่าตัดผ่านรูเล็กๆเพื่อดูภายในช่องท้อง) นั้นแม่นยำหรือไม่ในการทำนายว่าสตรีสามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกที่มองเห็นออกทั้งหมดได้สำเร็จหรือไม่ หรืออย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้มีเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม.หลงเหลืออยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะช่วยหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในสตรีที่ควรจะรักษาด้วยเคมีบำบัดก่อน

ผลลัพธ์หลักในการทบทวนนี้คืออะไร
การทบทวนนี้รวมการศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 18 ฉบับ โดย 11 เรื่องถูกเพิ่มเข้ามาสำหรับการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมนี้ และดูที่กลุ่มสตรี 14 กลุ่ม สตรีทั้งหมด 1563 คนได้รับการส่องกล้องเพื่อประเมินความการกระจายของโรคในช่องท้อง การศึกษา 2 ฉบับสรุปว่าการส่องกล้องตรวจสามารถระบุผู้หญิงที่ไม่สามารถผ่าตัด debulding ได้อย่างเหมาะสม (โดยมีเนื้องอกที่ > 1 ซม. เหลือหลังการผ่าตัด) (อัตราการส่องกล้องเป็นบวกลวงต่ำ) และในสตรีทุกคนการวินิจฉัยนั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากการส่องกล้องแนะนำว่าการผ่าตัดนั้นเป็นไปได้ สตรีบางคนมีการผ่าตัดเบื้องต้นที่ไม่เหมาะสมโดยที่เนื้องอกเหลือ > 1 ซม.) สำหรับผู้หญิงทุกๆ 100 คนที่อ้างถึงการผ่าตัดเบื้องต้นหลังการส่องกล้อง ระหว่าง 4 ถึง 46 คนจะเหลือเนื้องอกที่มองเห็นได้

ผลการศึกษาในการทบทวนนี้เชื่อถือได้เพียงใด
ข้อจำกัดของการทบทวนนี้คือมีเพียงสองการศึกษาที่ทำการส่องกล้องเพื่อวินิจฉัย จากนั้นจึงพยายามทำการผ่าตัดเปิดช่องท้องเพื่อลดขนาดของก้อนในสตรีทุกคน การศึกษาอื่นทำการผ่าตัดหน้าท้องเฉพาะเมื่อการส่องกล้องแนะนำว่าสามารถตัดเนื้องอกให้เหลือก้อนขนาด < 1 ซม. ได้ การวินิจฉัยที่ถูกต้องในการส่องกล้องจึงไม่ได้รับการยืนยันเมื่อมีการทำนายว่าจะมีเนื้องอกเหลือมากกว่า 1 ซม. ซึ่งเรียกว่าอคติจากการตรวจสอบหรือ verification bias

ผลของการตรวจสอบนี้นำไปใช้กับใคร
การศึกษาบางฉบับที่ใช้สำหรับการทบทวนนี้ยังรวมถึงสตรีที่ได้รับการผ่าตัด debulking surgery หลังการให้เคมีบำบัดหรือการกลับเป็นซ้ำ แต่ส่วนใหญ่ สตรีที่รวมอยู่คือผู้ที่วางแผนสำหรับการผ่าตัด debulding เบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้น ผลลัพธ์ที่นำเสนอในการทบทวนนี้จึงใช้ได้กับสตรีทุกคนที่ถูกกำหนดให้ต้องทำ primary debulking surgery

การทบทวนนี้มีประโยชน์อย่างไร
การศึกษาในการทบทวนนี้ชี้ให้เห็นว่าการส่องกล้องสามารถวินิจฉัยการกระจายของโรคได้อย่างแม่นยำ เมื่อทำการตรวจวินิจฉัยหลังการตามมาตรฐานแล้ว สตรีจำนวนน้อยลงที่จะได้รับการผ่าตัด debulding ที่ไม่ประสบผลสำเร็จและส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยน้อยลง แต่ยังคงมีสตรีที่ได้รับการผ่าตัดผ่านหน้าท้องซึ่งมีผลว่ามีเนื้องอกตกค้าง > 1 ซม. หลังการผ่าตัด

การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นปัจจุบันเพียงใด
ผู้ทบทวนค้นหาและใช้การศึกษาที่ตีพิมพ์ตั้งแต่เริ่มฐานข้อมูลจนถึงเดือนกรกฎาคม 2018

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การส่องกล้องอาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุสตรีที่เป็นโรคที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากไม่มีสตรีคนไหนที่ไม่ได้ถูกผ่าตัดอย่างไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม สตรีบางคนมีการผ่าตัด debulking เบื้องต้นที่ไม่ค่อยเหมาะสม แม้ว่าการส่องกล้องจะทำนายการผ่าตัดว่าจะสามารถผ่าตัดโรคออกได้หมด และข้อมูลก็มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอคติในการยืนยัน เนื่องจากมีการศึกษาเพียงสองเรื่องที่ทำการศึกษามาตรฐานอ้างอิง (debulking laparotomy) ในสตรีที่ตรวจด้วยวิธีส่องกล้อง (laparoscopy) และพบว่าให้ผลบวกคือสามารถผ่าตัดได้ การใช้แบบจำลองการทำนายไม่เพิ่มความไว และจะส่งผลให้มีการผ่าตัดในสตรีโดยไม่จำเป็นมากขึ้น เนื่องจากมีความจำเพาะที่ต่ำลง

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

นี่คือการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมของ Cochrane ที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2014 ฉบับที่ 2

การปรากฏของโรคที่ตกค้างหลังการผ่าตัด debulking ขั้นต้นเป็นปัจจัยการพยากรณ์โรคที่มีนัยสำคัญอย่างมากในสตรีที่เป็นมะเร็งรังไข่ระยะลุกลาม ในสตรีมากถึง 60% จะมีเนื้องอกที่เหลือ > 1 ซม. หลังการผ่าตัดขจัดก้อนเนื้อเบื้องต้น (หมายถึงการผ่าตัดที่ยังคงเหลือรอยโรคไว้) สตรีเหล่านี้อาจได้รับประโยชน์จากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด neoadjuvant (NACT) ก่อนการผ่าตัดลดขนาดเป็นช่วงๆ แทนการผ่าตัดลดขนาดขั้นปฐมภูมิ ตามด้วยเคมีบำบัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเลือกสตรีที่เหมาะสมที่จะรักษาด้วยการผ่าตัดลดขนาดเบื้องต้นและตามด้วยเคมีบำบัดจากผู้ที่จะได้รับประโยชน์จาก NACT ก่อนการผ่าตัด

วัตถุประสงค์: 

เพื่อตรวจสอบว่าการส่องกล้องผ่านช่องท้อง นอกเหนือจากการตรวจวินิจฉัยตามแบบแผนในสตรีที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะลุกลามนั้นแม่นยำในการทำนายความสามารถในการผ่าตัดออกได้ของโรคได้หรือไม่

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหา Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL; 2018, Issue 6) ใน Cochrane Library; MEDLINE ผ่าน Ovid, Embase ผ่าน Ovid, MEDION และ Science Citation Index และ Conference Proceedings Citation Index (ISI Web of Science) จนถึงเดือนกรกฎาคม 2018 เรายังตรวจสอบข้อมูลอ้างอิงของการศึกษาระดับปฐมภูมิที่ระบุและการทบทวนบทความ

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการศึกษาที่ประเมินความแม่นยำในการวินิจฉัยของการส่องกล้องผ่านช่องท้องเพื่อพิจารณาความสามารถในการผ่าตัดโรคในสตรีที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะลุกลามและวางแผนที่จะรับการผ่าตัด primary debulking surgery

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวน 2 คน ประเมินคุณภาพของการศึกษาที่นำเข้ามาอย่างอิสระโดยใช้ QUADAS-2 และดึงข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและคุณลักษณะของผู้เข้าร่วม การทดสอบดัชนี เงื่อนไขเป้าหมาย และมาตรฐานอ้างอิง เราดึงข้อมูลสำหรับตารางสองต่อสองและสรุปสิ่งเหล่านี้แบบกราฟิก เราคำนวณความไวและความจำเพาะและค่าพยากรณ์เชิงลบ

ผลการวิจัย: 

เรารวบรวมการศึกษา 18 ฉบับ รายงานในกลุ่มสตรี 14 กลุ่ม (รวมผู้เข้าร่วม 1563 คน) โดยการศึกษา 1 ฉบับเป็นการศึกษาแบบ randomized controlled trial (RCT) การประเมินด้วยการส่องกล้องแนะนำว่าโรคมีความเหมาะสมสำหรับการผ่าตัด debulking surgery ที่ดีที่สุด (ไม่มีโรคหลงเหลือที่มองเห็นด้วยตาเปล่าหรือโรคที่ตกค้างขนาดน้อยกว่า 1 ซม. (ค่าพยากรณ์เชิงลบ)) ในสตรี 54% ถึง 96% ที่ได้รับการผ่าตัดตกเอาโรคออกทั้งหมดที่มองเห็นด้วยตาเปล่า (ไม่มีโรคที่มองเห็นได้เมื่อสิ้นสุดการผ่าตัดส่องกล้อง) ) และในสตรี 69% ถึง 100% ที่ได้รับการผ่าตัด debulking surgery ได้ผลดีคือ เนื้องอกตกค้าง < 1 ซม. หลังการส่องกล้อง)

มีเพียงการศึกษา 2 ฉบับเท่านั้นที่หลีกเลี่ยงอคติในการตรวจสอบแบบยืนยันบางส่วนโดยการผ่าตัดผ่านหน้าท้องในผู้หญิงทุกคนโดยไม่ขึ้นกับผลการตรวจผ่านกล้อง และให้ข้อมูลเพื่อคำนวณความไวและความจำเพาะ การศึกษา 2 ฉบับนี้ไม่มีการตรวจด้วยการส่องกล้องที่ผิดพลาดคือ ผลบวกลวง (กล่าวคือ ไม่มีสตรีใดที่ได้รับการส่องกล้องซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ และจากนั้นการผ่าตัด debulking surgery ทำได้เหมาะสมที่สุด (ไม่มีโรคเหลือมากกว่า 1 ซม.))

เนื่องจากการรวมข้อมูลที่แตกต่างกันจำนวนมากจึงไม่สามารถทำการวิเคราะห์เมตต้าได้

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว Edit โดย ผกากรอง 30 พฤศจิกายน 2022

Tools
Information