ดนตรีบำบัดสำหรับผู้ที่มีปัญหาการใช้สารเสพติด

วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรม

เรามีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าดนตรีบำบัดที่ให้นอกเหนือไปจากการดูแลตามมาตรฐานนั้นมีประสิทธิผลสำหรับผู้ที่มีปัญหาการใช้สารเสพติด ในแง่ของการส่งผลต่อความอยากสารเสพติด แรงจูงใจในการรักษา และแรงจูงใจในการมีสติสัมปชัญญะ/การเลิกยาเสพย์ติด เรายังสนใจในหลักฐานเกี่ยวกับผลต่อภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้อาการกำเริบ

ใจความสำคัญ

ดนตรีบำบัดที่เป็นการรักษา 'เสริม' ในการรักษามาตรฐาน จะช่วยลดความอยากสารและเพิ่มแรงจูงใจในการรักษาสำหรับผู้ใหญ่ในบริบทของการล้างพิษและการฟื้นฟูสมรรถภาพ ดนตรีบำบัดที่กินเวลานานกว่าครั้งเดียวสัมพันธ์กับการลดความอยากสารเสพติดได้มากขึ้น ไม่มีหลักฐานของผลต่ออาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล แรงจูงใจให้มีสติสัมปชัญญะ/การเลิกยาเสพย์ติด หรือการคงอยู่ในรักษา ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์

ทำไมการทบทวนวรรณกรรมนี้จึงสำคัญ

การทบทวนวรรณกรรมนี้สามารถช่วยในการพิจารณาว่าดนตรีบำบัดมีผลดีในบางแง่มุมต่อการใช้สารที่เป็นปัญหาและแรงจูงใจในการรักษาหรือไม่

การทบทวนนี้ศึกษาอะไร

การใช้สารเสพติดคือการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยาผิดกฎหมายและยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ โดยมีหรือไม่มีแอลกอฮอล์ แม้ว่าสารเหล่านี้จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหรือส่งผลเสียต่อการอยู่ในสังคม ประมาณ 35 ล้านคนทั่วโลกมีส่วนร่วมในการใช้ยาเสพติด และมากกว่า 3 ล้านคนเสียชีวิตในแต่ละปีเป็นผลมาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตราย ดนตรีบำบัดตอบสนองความต้องการทางร่างกายและจิตใจของผู้ที่ได้รับการบำบัดการใช้สารเสพติด ผ่านการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมทางดนตรีที่หลากหลายและเปิดกว้าง ซึ่งช่วยให้เกิดกระบวนการต่างๆทางประสาทชีวภาพ จิตวิทยาและสังคม ที่ส่งเสริมสุขภาพ นักบำบัดด้วยดนตรีคือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ใช้การรักษาทางดนตรีโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยจัดการกับอารมณ์ รับมือกับสิ่งกระตุ้น เรียนรู้การควบคุมตนเอง และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

ผลลัพธ์หลักของการตรวจสอบคืออะไร

เรารวม 21 การศึกษา ใน 1984 คน ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้รับการวินิจฉัยว่ามีการใช้สารเสพติด โดย 52% รายงานว่าพวกเขาใช้แอลกอฮอล์ ใน 2 การศึกษา ผู้เข้าร่วมมีการวินิจฉัยเกี่ยวกับสุขภาพจิตร่วมด้วย การศึกษาทั้งหมดทำในสถานที่ทำการล้างพิษหรือสถานบำบัดการใช้สารในระยะยาว การศึกษาเปรียบเทียบดนตรีบำบัดร่วมกับการดูแลมาตรฐานกับการดูแลแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียวหรือกับการรักษาประเภทอื่นที่เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาสำหรับการใช้สารเสพติด เช่น การบำบัดด้วยวาจา คุณภาพของการทดลองที่ดำเนินการและผลลัพธ์ที่รายงานนั้นแตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเราในผลลัพธ์

ผลการวิจัยของเราชี้ให้เห็นว่าดนตรีบำบัดร่วมกับการดูแลมาตรฐานมีแนวโน้มลดความอยากสารเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลมาตรฐานเพียงอย่างเดียวสำหรับผู้ที่ช้สารเสพติดซึ่งได้รับการรักษาในสถานที่ทำการล้างพิษและการฟื้นฟูในระยะสั้น วิธีการทางดนตรีบำบัดที่กินเวลานานกว่าครั้งเดียวมีความเกี่ยวข้องกับการลดความอยากสารได้มากขึ้น นอกจากนี้ ดนตรีบำบัดยังช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการรักษา/เปลี่ยนแปลงมากกว่าการดูแลแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียว และอาจปรับปรุงแรงจูงใจในการรักษา/เปลี่ยนแปลงได้มากกว่าการรักษาอื่นๆ เราไม่พบหลักฐานว่าดนตรีบำบัดมีผลต่ออาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล และแรงจูงใจในการมีสติสัมปชัญญะ/การเลิกยาเสพย์ติด

เรามีความเชื่อมั่นในระดับต่ำถึงปานกลางในการผลที่ได้นี้ และขอเตือนว่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะนำผลนี้ไปใช้ในบริบทอื่นๆ เนื่องจากการศึกษาที่รวบรวมไว้ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยนักวิจัยคนเดียวกันในหน่วยล้างพิษเดียวกัน

เรารู้ว่าความอยากสารเสพติดจะลดลงได้ดีกว่าเมื่อมีดนตรีบำบัดมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เราไม่ทราบว่าจำนวนครั้งของดนตรีบำบัดที่ได้รับส่งผลต่อผลลัพธ์อื่นๆ หรือไม่ นอกจากนี้ เราไม่ทราบว่าดนตรีบำบัดแบบใดแบบหนึ่งได้ผลดีกว่าแบบอื่นๆ สำหรับผลลัพธ์เหล่านี้

มีเพียงการศึกษาเดียวที่รายงานแหล่งที่มาของเงินทุน (โครงการวิจัยและพัฒนาคีย์แห่งชาติของจีน ผู้ให้ทุนหลัก)

การทบทวนวรรณกรรมนี้ทันสมัยแค่ไหน

หลักฐานนี้เป็นข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

ผลลัพธ์จากการทบทวนนี้ชี้ให้เห็นว่า MT เป็น 'การเสริม' การรักษาร่วมกับการดูแลมาตรฐานสามารถนำไปสู่การลดความอยากสารเสพติดในระดับปานกลาง และสามารถเพิ่มแรงจูงใจในการรักษา/เปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ที่มี SUD ที่ได้รับการรักษาในการล้างพิษและในบริบทการฟื้นฟูระยะสั้น ความอยากสารลดได้มากขึ้นเกี่ยวข้องกับ MT ที่กินเวลานานกว่าครั้งเดียว เรามีความเชื่อมั่นในระดับปานกลางถึงต่ำในการค้นพบของเรา เนื่องจากการศึกษาที่รวบรวมมานั้นถูกลดระดับความเชื่อมั่นลงเนื่องจากความไม่แม่นยำ และการศึกษาที่รวมส่วนใหญ่ดำเนินการโดยนักวิจัยคนเดียวกันในหน่วยการล้างพิษเดียวกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการถ่ายทอดผลการค้นพบ

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การใช้สารเสพติด (SUD) คือการใช้สารออกฤทธิ์ทางจิตอย่างน้อยหนึ่งชนิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงแอลกอฮอล์ แม้จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ การทำงาน และความสัมพันธ์ทางสังคมก็ตาม การใช้สารที่เป็นปัญหาได้เพิ่มขึ้น 10% ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2013 และการใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดเกี่ยวข้องกับ 5.3% ของการเสียชีวิตทั้งหมด ยังไม่ทราบผลโดยตรงของดนตรีบำบัด (MT) ต่อการใช้สารที่เป็นปัญหา แต่อาจช่วยบรรเทาอาการทางจิตที่เกี่ยวข้องและลดความอยากสารเสพติดนั้นได้

วัตถุประสงค์: 

เพื่อเปรียบเทียบผลของดนตรีบำบัด (MT) ที่ใช้ร่วมกับการดูแลแบบมาตรฐานกับการดูแลแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียว หรือกับการดูแลแบบมาตรฐานพร้อมวิธีการควบคุมเชิงรุกต่ออาการทางจิต ความอยากสารเสพติด แรงจูงใจในการรักษา และแรงจูงใจที่จะเลิกยาหรือสงบได้

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหาฐานข้อมูลต่อไปนี้ (ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึง 1 กุมภาพันธ์ 2021): Cochrane Drugs and Alcohol Specialized Register; CENTRAL; MEDLINE (PubMed); 8 ฐานข้อมูลอื่นๆ และ 2 การลงทะเบียนการทดลอง เราค้นด้วยมือรายการอ้างอิงของการศึกษาที่ได้มาทั้งหมดและการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบที่เกี่ยวข้อง

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการศึกษาวิจัยแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมโดยเปรียบเทียบ MT กับการดูแลแบบมาตรฐานกับการดูแลแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียว หรือ MT บวกกับการดูแลแบบมาตรฐานกับการรักษาแบบแอคทีฟ บวกกับการดูแลแบบมาตรฐานสำหรับผู้ที่มี SUD

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้วิธีการมาตรฐานของ Cochrane

ผลการวิจัย: 

เรารวบรวม 21 การทดลอง ใน 1984 คน เราพบหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นปานกลางของผลลัพท์ปานกลางซึ่งสนับสนุนว่า MT บวกกับการดูแลแบบมาตรฐานดีกว่าการดูแลแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียวสำหรับความอยากสารเสพติด (ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยมาตรฐาน (SMD) –0.66, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) –1.23 ถึง –0.10; 3 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 254 คน ) โดยมีความแตกต่างของกลุ่มย่อยอย่างมีนัยสำคัญซึ่งบ่งชี้ว่าความอยากในกลุ่ม MT ลดลงมากขึ้นเป็นเวลาหนึ่งถึงสามเดือน และผลเล็กน้อยถึงปานกลางซึ่งสนับสนุน MT สำหรับแรงจูงใจในการรักษา/การเปลี่ยนแปลง (SMD 0.41, 95% CI 0.21 ถึง 0.61; 5 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 408) เราไม่พบหลักฐานชัดเจนว่ามีประโยชน์ต่อภาวะซึมเศร้า (SMD –0.33, 95% CI –0.72 ถึง 0.07; 3 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 100 คน) หรือแรงจูงใจในการมีสติสัมปชัญญะ/ไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพย์ติด (SMD 0.22, 95% CI –0.02 ถึง 0.47; 3 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 269 คน) แม้ว่าขนาดของผลลัพธ์จะมีตั้งแต่ผลที่ดีไปจนถึงไม่มีผล และเราไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลนี้ ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นประโยชน์ต่อความวิตกกังวล (ความแตกต่างเฉลี่ย (MD) –0.17, 95% CI –4.39 ถึง 4.05; 1 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 60 คน) แม้ว่าเราจะไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับผลลัพธ์นี้ ไม่มีผลที่มีความหมายสำหรับการคงอยู่ในรักษาของผู้เข้าร่วมที่ได้รับ MT ร่วมกับการดูแลแบบมาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียว (risk ratio (RR) 0.99, 95% 0.93 ถึง 1.05; 6 การศึกษา, ผู้เข้าร่วม 199 คน)

มีผลปานกลางต่อแรงจูงใจในการรักษา/การเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบ MT ร่วมกับการดูแลแบบมาตรฐานกับการรักษาเชิงรุกอื่นร่วมกับการดูแลแบบมาตรฐาน (SMD 0.46, 95% CI –0.00 ถึง 0.93; 5 การศึกษา, ผู้เข้าร่วม 411 คน) และความเชื่อมั่นในผลลัพธ์อยู่ในระดับปานกลาง . เราไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนของผลของ MT ต่อแรงจูงใจที่จะมีสติสัมปชัญญะ/ไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพย์ติด เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาเชิงรุก แม้ว่าขนาดของผลจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ผลที่ดีจนถึงไม่มีผล และเราไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลลัพธ์ (MD 0.34, 95% CI – 0.11 ถึง 0.78; 3 การศึกษา, ผู้เข้าร่วม 258 คน) ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนของผลต่อความอยากสารเสพติด (SMD –0.04, 95% CI –0.56 ถึง 0.48; 3 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 232 คน), ภาวะซึมเศร้า (MD –1.49, 95% CI –4.98 ถึง 2.00; 1 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 110 คน) , หรือการใช้สาร (RR 1.05, 95% CI 0.85 ถึง 1.29; 1 การศึกษา ผู้เข้าร่วม 140 คน) ในการติดตามผลที่หนึ่งเดือนเมื่อเปรียบเทียบ MT ร่วมกับการดูแลแบบมาตรฐานกับการรักษาเชิงรุกร่วมกับการดูแลแบบมาตรฐาน ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียง

ความเสี่ยงชองอคติในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมไม่ชัดเจนในการศึกษาส่วนใหญ่ เนื่องจากคำอธิบายกระบวนการสุ่มและการปกปิดกลุ่มที่ไม่สมบูรณ์ การศึกษาทั้งหมดมีม่ชัดเจนในเรื่อง ความเสี่ยงต่อ ไdetection bias เนื่องจากขาดการปกปิดของผู้ประเมินผลลัพธ์สำหรับผลลัพธ์เชิงอัตวิสัย (ส่วนใหญ่ใช้วิธีรายงานตนเอง) เราตัดสินว่าอคติที่เกิดจากการขาดการปกปิดดังกล่าวจะไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม ในทำนองเดียวกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังผู้เข้าร่วมและผู้ให้บริการ MT เราถือว่าความรู้ในการได้รับการบำบัดประเภทนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อผลการรักษา ดังนั้นการศึกษาทั้งหมดจึงมีความเสี่ยงต่ำที่จะมีอคติด้านประสิทธิภาพสำหรับผลลัพธ์เชิงอัตวิสัย

เราลดระดับผลลัพธ์ทั้งหมดลงหนึ่งระดับสำหรับความไม่แม่นยำเนื่องจากการไม่ได้ขนาดข้อมูลที่เหมาะสม และสองระดับสำหรับผลลัพธ์ที่มีขนาดตัวอย่างต่ำมาก

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อ 4 กรกฎาคม 2022 edit ผกากรอง 20ตุลาคม 2022

Tools
Information