ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การเพิ่ม Abiraterone acetate โดยร่วมกับการบำบัดด้วยการยับยั้งฮอร์โมนเพศชายในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายที่ไวต่อฮอร์โมน

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

จุดมุ่งหมายของการทบทวนนี้คือเพื่อค้นหาว่าผลของการเพิ่ม abiraterone ในผู้ชายที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งได้รับและยังคงตอบสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมนเป็นอย่างไร

ความเป็นมา

Abiraterone acetate เป็นยาที่สกัดกั้นผลของฮอร์โมนเพศชายและทำให้การเติบโตของมะเร็งต่อมลูกหมากช้าลง

ผู้ชายมากกว่า 15% ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากจะมีโรคที่แพร่กระจายเกินต่อมลูกหมากไปแล้ว อีก 15% ถึง 30% ของผู้ที่ได้รับการรักษาเบื้องต้นจะพบว่ามีการกลับมาของมะเร็ง การรักษาด้วยฮอร์โมน (ยาลดระดับฮอร์โมนเพศชาย) เป็นการรักษาหลักสำหรับโรคระยะที่มีการแพร่กระจาย แต่ไม่ได้ผลตลอดไป การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ศึกษาว่ายาที่ขัดขวางการเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากเช่น abiraterone acetate สามารถรักษาโรคได้ดีขึ้นได้หรือไม่

ลักษณะของการศึกษา

เราพบการศึกษาสองชิ้น (โดยเฉพาะการศึกษาที่สุ่มว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาแบบใด) โดยมีผู้ชายทั้งหมด 2201 คน การศึกษาเปรียบเทียบ abiraterone acetate และการรักษาด้วยการยับยั้งฮอร์โมนเทียบกับการรักษาด้วยการยับยั้งฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว ในการศึกษาหนึ่ง ผู้ที่รวมอยู่ในนั้นส่วนใหญ่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่มีความเสี่ยงสูงและเคยได้รับการรักษาเบื้องต้นมาก่อน ในการศึกษาอื่น ๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับการรักษาต่อมลูกหมากมาก่อน หลักฐานเป็นปัจจุบันจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2020

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

การเพิ่ม abiraterone acetate ในการรักษาด้วยการยับยั้งฮอร์โมนช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยรวม แต่อาจไม่ใช่คุณภาพชีวิต อาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตจากมะเร็งและลดการลุกลามของโรค อย่างไรก็ตามยังมีผลข้างเคียงที่รุนแรงและเป็นอันตรายต่อชีวิตเพิ่มขึ้นซึ่งอาจนำไปสู่การยุติการรักษาด้วย abiraterone acetate

คุณภาพของหลักฐาน

เราตัดสินว่าเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับสูงสำหรับอัตราการรอดชีวิตโดยรวม (ระยะเวลาจนถึงเสียชีวิตจากสาเหตุใด ๆก็ตาม ) และผลข้างเคียงที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งหมายความว่าการประมาณการของเราน่าจะใกล้เคียงกับผลกระทบที่แท้จริงสำหรับผลลัพธ์เหล่านี้ ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับปานกลางสำหรับคุณภาพชีวิต การมีชีวิตอยู่รอดจากมะเร็ง (ระยะเวลาจนถึงเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก) ระยะเวลาจนมีการลุกลามของตัวโรคและการหยุดการรักษาเนื่องจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งหมายความว่าค่าประมาณของเราน่าจะใกล้เคียงกับผลที่เกิดขึ้นจริง แต่มีข้อจำกัด บางประการในการศึกษาที่ทำให้ความเชื่อมั่นในผลลัพธ์ของเราลดลง

บทนำ

การรักษาด้วยการยับยั้งฮอรโมนเพศชาย (ADT) หรือที่เรียกว่าการรักษาด้วยฮอร์โมนเป็นการรักษาหลักสำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายมานานแล้ว ยาเสริมตัวอื่นจะเก็บไว้ใช้เฉพาะใน โรคระยะที่การรักษาด้วยการยับยั้งฮอร์โมนเริ่มไม่ได้ผล Abiraterone เป็นยาที่มีการยอมรับเพื่อใช้ในโรคระยะที่ยังมีการตอบสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินผลของการใช้ abiraterone acetate ในระยะแรกร่วมกับ ADT สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดแพร่กระจายที่ไวต่อการรักษาด้วยฮอร์โมนที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัย

วิธีการสืบค้น

เราค้นหา CENTRAL, MEDLINE, Embase, ฐานข้อมูลอื่น ๆ อีก 6 แห่ง, ทะเบียนการทดลอง 2 รายการ, วรรณกรรมที่ไม่ได้ตีพิมพ์ และเอกสารหรือหนังสือที่รวบรวมบทความวิจัยในงานประชุม จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2020 เราไม่มีข้อจำกัดเรื่องภาษาหรือสถานะการตีพิมพ์เผยแพร่

เกณฑ์การคัดเลือก

เราได้รวมการทดลองแบบสุ่มซึ่งชายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่ไวต่อการรักษาด้วยฮอร์โมนได้รับยา abiraterone acetate และ prednisolone ร่วมกับ ADT หรือ ADT เพียงอย่างเดียว

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวนสองคนเลือกและดึงข้อมูลจากรายงานการศึกษาที่รวบรวมได้อย่างเป็นอิสระต่อกัน เราทำการวิเคราะห์ทางสถิติ
เรารวมผลลัพธ์โดยใช้ random-effects model เราจัดอันดับคุณภาพของหลักฐานตามเกณฑ์ GRADE

ผลการวิจัย

จากการค้นหาพบการทดลองแบบสุ่มควบคุม 2 การศึกษา โดยชาย 2201 คนถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับ abiraterone acetate 1000mg วันละครั้งร่วมกับ prednisolone ขนาด 5 mg และ ADT หรือ ADT อย่างเดียว ในการทดลอง LATITUDE อายุเฉลี่ยและช่วงของผู้ชายในกลุ่มศึกษาคือ 68 (38 ถึง 89) ปีและ 67 (33 ถึง 92) ปีในกลุ่มควบคุม ผู้ชายเกือบทั้งหมดในการศึกษานี้ (97.6%) เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากโดยมีคะแนน Gleason อย่างน้อย 8 (ISUP grade group 4)

ผลลัพธ์หลัก

การใช้ abiraterone acetate เพิ่มจาก ADT ช่วยลดความน่าจะเป็นของการเสียชีวิตจากสาเหตุใด ๆ เมื่อเทียบกับ ADT เพียงอย่างเดียว (hazard ratio [HR] 0.64, ช่วงความเชื่อมั่น 95% [CI] 0.56 ถึง 0.73; 2 RCTs, 2201 คน; ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับสูง); เทียบได้กับการเสียชีวิตน้อยลง 163 คนต่อผู้ชาย 1000 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายที่ไวต่อฮอร์โมน (น้อยลง 210 ถึง 115 คน) ที่เวลา 5 ปี

การใช้ Abiraterone acetate เพิ่มจาก ADT อาจมีผลให้คุณภาพชีวิตเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลยเมื่อเทียบกับ ADT เพียงอย่างเดียวโดยวัดจาก Functional Assessment of Cancer Therapy-prostate total score (FACT-P; ช่วง 0 ถึง 156; ค่าที่สูงกว่าแสดงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น) ที่ 12 เดือน (ค่าเฉลี่ยความแตกต่าง [MD] 2.90 คะแนน, 95% CI 0.11 ถึง 5.60; 1 RCT, 838 คน; ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับปานกลาง)

ผลลัพธ์รอง

Abiraterone บวก ADT เพิ่มความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ระดับ III ถึง V เมื่อเทียบกับ ADT เพียงอย่างเดียว (อัตราส่วนความเสี่ยง [RR] 1.34, 95% CI 1.22 ถึง 1.47; 1 RCT, 1199 คน;ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับสูง); เทียบได้กับเหตุการณ์ระดับ III ถึง V ที่เพิ่มขึ้น 162 คนต่อผู้ชาย 1000 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายที่ไวต่อฮอร์โมน (เพิ่ม 105 ถึง 224 คน) โดยมีการติดตามผู้ป่วยเฉลี่ยที่ 30 เดือน

Abiraterone acetate เพิ่มเติมจาก ADT อาจช่วยลดความน่าจะเป็นของการเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อเทียบกับ ADT เพียงอย่างเดียว (HR 0.58, 95% CI 0.50 ถึง 0.68; 2 RCTs, 2201 คน; ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับปานกลาง) เทียบได้กับการเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยลง 120 คนต่อผู้ชาย 1000 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายที่ไวต่อฮอร์โมน (95% CI น้อยลง 145 คนถึงน้อยลง 90 คน) หลังจากการติดตามผู้ป่วยเฉลี่ยที่ 30 เดือน

การใช้ abiraterone acetate เพิ่มเติมจาก ADT อาจลดความน่าจะเป็นของการลุกลามของโรคเมื่อเทียบกับการใช้ ADT เพียงอย่างเดียว (HR 0.35, 95% CI 0.26 ถึง 0.49; 2 RCTs, 2097 คน; ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับปานกลาง) เทียบได้กับอุบัติการณ์การลุกลามของโรคน้อยลง 369 ต่อผู้ชาย 1000 คนที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจายที่ไวต่อฮอร์โมน (น้อยลง 456 ถึงน้อยลง 256 คน) หลังจากการติดตามผู้ป่วยเฉลี่ยที่ 30 เดือน

การใช้ abiraterone acetate เพิ่มเติมจาก ADT อาจเพิ่มความเสี่ยงในการหยุดการรักษาเนื่องจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เมื่อเทียบกับ ADT เพียงอย่างเดียว (RR 1.50, 95% CI 1.17 ถึง 1.92; 1 RCT, 1199 คน; ความเชื่อมั่นของหลักฐานอยู่ในระดับ) เทียบได้กับชาย 51 คน (95% CI เพิ่มขึ้น 17 คน ถึง เพิ่มขึ้น 93 คน) ที่หยุดการรักษาเพิ่มขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่อผู้ชาย 1000 คนที่ได้รับการรักษาด้วย abiraterone acetate และ ADT เมื่อเทียบกับ ADT เพียงอย่างเดียวหลังจากการติดตามผู้ป่วยเฉลี่ยที่ 30 เดือน

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การใช้ abiraterone acetate เพิ่มจากการบำบัดด้วยการยับยั้งฮอร์โมนเพศชายช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยรวม แต่อาจไม่ช่วยด้านคุณภาพชีวิต นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มการอยู่รอดจากตัวโรคและชะลอการดำเนินโรคเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยฮอร์โมนอย่างเดียว อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ระดับ III ถึง V จะเพิ่มขึ้นและอาจมีความเสี่ยงที่จะหยุดการรักษาเนื่องจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์

บันทึกการแปล

แปลโดย นพ.ศุภณัฏฐ์ ลุมพิกานนท์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

การอ้างอิง
Sathianathen NJ, Oestreich MC, Brown SJane, Gupta S, Konety BR, Dahm P, Kunath F. Abiraterone acetate in combination with androgen deprivation therapy compared to androgen deprivation therapy only for metastatic hormone-sensitive prostate cancer. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 12. Art. No.: CD013245. DOI: 10.1002/14651858.CD013245.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า