ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แมกนีเซียมซัลเฟตสำหรับรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันในเด็กอายุไม่เกินสองปี

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

ผู้วิจัยต้องการประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของแมกนีเซียมซัลเฟตในการรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันในเด็กอายุไม่เกิน 2 ปี

ที่มาและความสำคัญ

โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและมักพบในเด็กอายุไม่เกิน 2 ปี การติดเชื้อจะทำให้ทางเดินหายใจเล็กๆ ในปอดถูกอุดกั้น ก่อให้เกิดอาการไอ, หายใจหอบ และหายใจลำบาก การรักษาตามปกติเป็นการดูแลแบบประคับประคอง ซึ่งรวมถึงการให้สารน้ำและออกซิเจนที่มีความชื้นอย่างเพียงพอ มีโอกาสที่เด็กที่ติดเชื้อบางคนอาจต้องได้รับการดูแลใน ICU

ช่วงเวลาที่สืบค้น

หลักฐานที่มีจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2020

ลักษณะของการศึกษา

ผู้วิจัยได้รวบรวมการศึกษา 4 ฉบับ (เด็ก 564 คน) ที่ดำเนินการในประเทศกาตาร์, ตุรกี, อิหร่านและอินเดีย มีการศึกษา 3 ฉบับ ศึกษาในเด็กที่เป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบในระดับปานกลางถึงรุนแรง การศึกษาเหล่านี้ได้เปรียบเทียบระหว่างแมกนีเซียมซัลเฟตที่ให้ทางหลอดเลือดดำ (intravenous) หรือเป็นแบบละอองฝอย (nebulised) กับการรักษาหลอก (เรียกว่ายาหลอก - สิ่งที่ดูคล้ายการรักษาด้วยแมกนีเซียมซัลเฟต) หรือยาขยายหลอดลม (salbutamol หรือ epinephrine) หรือน้ำเกลือ (hypertonic saline) หรือการไม่ได้รับยาใดๆ

แหล่งเงินทุนของการวิจัย

มีการศึกษา 1 ฉบับ ได้รับทุนจากโรงพยาบาลและ การศึกษาอีก 1 ฉบับ ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัย ส่วนการศึกษา 2 ฉบับที่เหลือไม่ได้รายงานแหล่งเงินทุน

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปว่าแมกนีเซียมซัลเฟตที่ให้ทางหลอดเลือดดำหรือแบบพ่นละอองฝอย (ไม่ว่าจะเป็นตัวยาเพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ) จะทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้นในการรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กอายุไม่เกินสองปี และยังไม่สามารถระบุได้ว่าแมกนีเซียมซัลเฟตช่วยลดการเสียชีวิต, ปัญหาทางการแพทย์ที่ไม่คาดคิดระหว่างการรักษา, เวลาที่นอนโรงพยาบาล หรือความรุนแรงของโรค (ตามคะแนนจากการประเมินทางคลินิกของแพทย์) อย่างไรก็ตาม การศึกษาไม่ได้รายงานเวลาที่ใช้ในการฟื้นตัว

ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน

โดยรวมแล้ว ผู้วิจัยไม่แน่ใจในผลลัพธ์เหล่านี้มากนัก

บทนำ

โรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันเป็นความเจ็บป่วยที่เป็นภาระอย่างมากต่อเด็ก, ครอบครัวและสถานพยาบาล ส่วนใหญ่จะพบในเด็กที่อายุน้อยกว่าสองปี การรักษาประกอบด้วยการ ให้สารน้ำอย่างเพียงพอ, การเสริมออกซิเจนที่มีความชื้น และการพ่นยาละอองฝอย (nebulisation) เช่น salbutamol, epinephrine และ hypertonic saline แต่ทว่า ประสิทธิผลของแมกนีเซียมซัลเฟตสำหรับการรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันยังไม่ชัดเจน

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินประสิทธิผลของแมกนีเซียมซัลเฟตในการรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันในเด็กอายุไม่เกินสองปี

วิธีการสืบค้น

ผู้วิจัยได้สืบค้นจากฐานข้อมูล CENTRAL, MEDLINE, Embase, CINAHL, LILACS และคลังลงทะเบียนงานวิจัยอีก 2 แหล่ง จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2020 และได้ติดต่อคณะผู้ทำการวิจัยเพื่อหาการศึกษาเพิ่มเติม รวมไปถึงสืบค้นจาก หนังสือประมวลผลการประชุมทางวิชาการ (conference proceedings) และรายการอ้างอิงของการศึกษาที่คัดเลือกมา โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์แล้วหรือยังไม่ได้เผยแพร่ก็ตามล้วนมีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือก

เกณฑ์การคัดเลือก

การศึกษาแบบ Randomized controlled trials (RCTs) และ quasi-RCTs ที่เปรียบเทียบระหว่างการให้แมกนีเซียมซัลเฟตเพียงอย่างเดียวหรือให้ร่วมกับการรักษาอื่น กับการให้ยาหลอกหรือการรักษาแบบอื่น ในเด็กอายุไม่เกิน 2 ปีที่เป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน ผลลัพธ์หลักคือเวลาในการฟื้นตัว, อัตราการเสียชีวิตและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ผลลัพธ์รอง ได้แก่ ระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาล, คะแนนความรุนแรงทางคลินิกที่ 0 ถึง 24 ชั่วโมงและ 25 ถึง 48 ชั่วโมงหลังการรักษา, ผลการทดสอบสมรรถภาพปอด (pulmonary function test), การเข้ารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลภายใน 30 วัน, ระยะเวลาที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ และระยะเวลาที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนัก

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยตามมาตรฐานของ Cochrane และใช้วีธี GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐาน

ผลการวิจัย

ผู้วิจัยได้รวบรวม RCT 4 ฉบับ (เด็ก 564 คน) มีการศึกษา 1 ฉบับ ได้รับทุนจากโรงพยาบาลและ การศึกษาอีก 1 ฉบับ ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัย ส่วนการศึกษา 2 ฉบับที่เหลือไม่ได้รายงานแหล่งเงินทุน การรักษาที่เป็นคู่เปรียบเทียบแตกต่างกันไประหว่างการทดลองทั้ง 4 ฉบับ การศึกษาดำเนินการในประเทศกาตาร์, ตุรกี, อิหร่านและอินเดีย ผู้วิจัยประเมินงานวิจัย 2 ฉบับว่ามีความเสี่ยงของการมีอคติโดยรวมต่ำ และอีก 2 ฉบับ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอคติโดยรวมไม่ชัดเจน ความน่าเชื่อถือของหลักฐานสำหรับผลลัพธ์และการเปรียบเทียบทั้งหมดอยู่ในระดับต่ำมาก ยกเว้นข้อเดียว คือ อัตราการเข้ารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลภายใน 30 วันหลังจากกลับบ้านของกลุ่มแมกนีเซียมซัลเฟตเทียบกับยาหลอก โดยไม่มีการศึกษาใดที่รายงานระยะเวลาในการฟื้นตัว, ระยะเวลาที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ, ระยะเวลาที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนัก หรือผลการทดสอบสมรรถภาพปอด

ไม่มีรายงานการเสียชีวิตหรือผลข้างเคียงของแมกนีเซียมซัลเฟตเมื่อเทียบกับยาหลอก (1 RCT, เด็ก 160 คน), ประสิทธิผลของแมกนีเซียมซัลเฟตต่อความรุนแรงทางคลินิกไม่แน่นอน (ที่ 0 ถึง 24 ชั่วโมง: mean difference (MD) ของ Wang score 0.13, 95% confidence interval (CI) -0.28 ถึง 0.54; และที่ 25 ถึง 48 ชั่วโมง: MD ของ Wang score -0.42, 95% CI -0.84 ถึง -0.00), แมกนีเซียมซัลเฟตอาจเพิ่มอัตราการเข้ารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลภายใน 30 วันหลังจากกลับบ้าน (risk ratio (RR) 3.16, 95% CI 1.20 ถึง 8.27; เด็ก 158 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ)

ไม่มีการรายงานผลลัพธ์หลักใดๆ ในการศึกษาที่เปรียบเทียบแมกนีเซียมซัลเฟตกับ hypertonic saline (1 RCT, เด็ก 220 คน) ประสิทธิผลไม่ชัดเจนในเรื่องระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาล (MD 0.00 วัน, 95% CI -0.28 ถึง 0.28) และต่อคะแนนความรุนแรงทางคลินิก Respiratory Distress Assessment Instrument (RDAI) ที่ 25 ถึง 48 ชั่วโมง (MD 0.10, 95% CI -0.39 ถึง 0.59)

ไม่มีรายงานการเสียชีวิตหรือผลข้างเคียงของแมกนีเซียมซัลเฟตเมื่อให้หรือไม่ให้ร่วมกับ salbutamol เทียบกับการให้ salbutamol (1 RCT, เด็ก 57 คน), ประสิทธิผลต่อระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลไม่ชัดเจน (แมกนีเซียมซัลเฟต: 24 ชั่วโมง (95% CI 25.8 ถึง 47.4), แมกนีเซียมซัลเฟต + salbutamol: 20 ชั่วโมง (95% CI 15.3 ถึง 39.0), และ salbutamol: 24 ชั่วโมง (95% CI 23.4 ถึง 76.9))

ไม่มีการรายงานผลลัพธ์หลักใดๆ ในการศึกษาที่เปรียบเทียบแมกนีเซียมซัลเฟต + epinephrine กับการไม่ได้รับยาใดๆ หรือ normal saline + epinephrine (1 RCT, เด็ก 120 คน) ประสิทธิผลชัดเจนสำหรับระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล (MD -0.40 ชั่วโมง, 95% CI -3.94 ถึง 3.14) และสำหรับคะแนน RDAI (0 ถึง 24 ชั่วโมง: MD -0.20, 95% CI -1.06 ถึง 0.66; และ 25 ถึง 48 ชั่วโมง: MD -0.90, 95% CI -1.75 ถึง -0.05)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ยังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอที่จะบ่งบอกประสิทธิผลและความปลอดภัยของแมกนีเซียมซัลเฟตในการรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลันในเด็กอายุไม่เกิน 2 ปี และไม่มีการศึกษาใดที่รายงานระยะเวลาในการฟื้นตัว, ระยะเวลาที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ, ระยะเวลาที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนัก หรือผลการทดสอบสมรรถภาพปอด ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในบางการศึกษา สิ่งที่จำเป็นในอนาคตคือ การศึกษา RCT ที่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อประเมินผลของแมกนีเซียมซัลเฟตในการรักษาเด็กที่เป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน และควรมีการวัดผลลัพธ์ที่สำคัญ เช่น ระยะเวลาในการฟื้นตัว และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์

บันทึกการแปล

ผู้แปล นพ.จักรพงศ์ รู้ปิติวิริยะ วันที่ 23 ธันวาคม 2020

การอ้างอิง
Chandelia S, Kumar D, Chadha N, Jaiswal N. Magnesium sulphate for treating acute bronchiolitis in children up to two years of age. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 12. Art. No.: CD012965. DOI: 10.1002/14651858.CD012965.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า