ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การบำบัดทางจิตวิทยาสำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิต

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

การบำบัดทางจิตวิทยาได้ผลและปลอดภัยสำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิตหรือไม่ มีความแตกต่างระหว่างการบำบัดทางจิตวิทยาที่แตกต่างกันหรือไม่

ความเป็นมา

โรคจิตเป็นความเจ็บป่วยทางจิตที่มีการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและการรับรู้เป็นอาการหลงผิด (ความเชื่อผิด ๆ ) ภาพหลอน (เห็นหรือได้ยินสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นหรือได้ยิน) และสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงวัยรุ่น เมื่อมีการเจ็บป่วยวัยรุ่นต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตซึ่งมักจะสั่งจ่ายยาให้ อย่างไรก็ตามควบคู่ไปกับการใช้ยาวัยรุ่นที่เป็นโรคจิตมักจะได้รับประโยชน์จากการบำบัดทางจิตวิทยาที่เหมาะสมกับวัย (การบำบัดด้วยการพูดคุย) เช่น การฟื้นฟูทักษะการรู้คิด การให้สุขภาพจิตศึกษา ครอบครัวบำบัดและจิตบำบัดแบบกลุ่ม การบำบัดเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการทางสังคมและจิตใจ เช่นการรวมกลุ่มกับเพื่อน และจัดการกับการถูกตีตราและการถูกกีดกัน เราได้ตรวจสอบผลของการบำบัดเหล่านี้สำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิตโดยใช้ข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มมีกลุ่มควบคุม

วิธีสืบค้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลของ Cochrane Schizophrenia สืบค้นการทดลองที่ได้ลงทะเบียนการทดลองในฐานข้อมูลของพวกเขาในเดือนพฤษภาคม 2016 และมีนาคม 2019 ที่มีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นที่เป็นโรคจิตเข้ากลุ่มการบำบัดรูปแบบต่างๆ กลุ่มการรักษาอาจรวมถึงการบำบัดทางจิตใจ (ได้รับหรือไม่ได้การรักษาตามปกติ) การรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว การรักษาตามปกติหรือการบำบัดทางจิตใจอื่น ๆ (ได้รับหรือไม่ได้รับการรักษาตามปกติ)

ผลการทดลอง

บทวิจารณ์นี้ประกอบด้วยการทดลองเพียง 7 รายการ ที่ดำเนินการวิจัยในส่วนต่างๆ ของโลก การทดลองเปรียบเทียบการบำบัดทางจิตวิทยาที่แตกต่างกันหลายอย่างกับการรักษาตามปกติหรือกับการบำบัดทางจิตวิทยารูปแบบอื่น ๆ และพวกเขารายงานการประเมินผลลัพธ์ที่แตกต่างกันทำให้เราเปรียบเทียบการศึกษาหนึ่งกับอีกการศึกษาหนึ่งได้ยาก เราสนใจผลของการรักษาเหล่านี้ที่มีต่อผลลัพธ์หลัก 7 ประการ ได้แก่ สภาวะทั่วไป (global state) สภาพจิต ผลข้างเคียงการรักษา การทำหน้าที่การรู้คิด การทำหน้าที่ทั่วไป การใช้บริการและการออกจากการศึกษาก่อนกำหนด ไม่มีการศึกษาที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการบำบัด

ผลการศึกษา

ผลเฉพาะของการบำบัดทางจิตวิทยาเพียงอย่างเดียว (PIs เปรียบเทียบกับ การบำบัดทางจิตวิทยาร่วมกับการรักษาตามปกติ (TAU))

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยที่เรารวบรวมมาแสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยปรับปรุงความจำระยะสั้น (การรู้คิด) แต่การรักษาตามปกติอาจได้ผลดีกว่าการบำบัดแบบการฟื้นฟูการรู้คิด (CRT) ในการพัฒนาสภาพจิต การบำบัดแบบกลุ่มอาจมีประโยชน์ในการปรับปรุงสภาวะทั่วไป (global state) การวิเคราะห์อื่น ๆ ทั้งหมดสำหรับผลลัพธ์หลักแสดงให้เห็นว่า การบำบัดทางจิตวิทยามีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยเมื่อเปรียบเทียบกับ การได้รับการรักษาตามปกติ

ผลกระทบสัมพัทธ์ (relative effects) ของ PI (เปรียบเทียบ PI ประเภทหนึ่งกับ PI ประเภทอื่น)

การวิเคราะห์ของเราไม่พบความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างการบำบัดทางจิตวิทยาประเภทต่างๆ

บทสรุป

การบำบัดทางจิตวิทยาบางประเภทอาจส่งผลดีต่อผลลัพธ์ที่เลือกศึกษา แต่โดยรวมแล้วการศึกษาส่วนใหญ่ให้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ทั้งหมดของเรามาจากข้อมูลจากการศึกษาจำนวนน้อยที่มีผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวนน้อย นอกจากนี้เรายังมีความกังวลเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ที่การศึกษาเหล่านี้ใช้ ดังนั้นจึงมีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของผลการวิจัยเหล่านี้ เราไม่สามารถสรุปได้อย่างมั่นใจตามหลักฐานนี้ การศึกษาต่อไปในอนาคตจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ระเบียบการวิจัยในรูปแบบการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม

บทนำ

โรคจิตเป็นความเจ็บป่วยที่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและการรับรู้ส่งผลให้เกิดอาการหลงผิดและภาพหลอน โรคจิตพบค่อนข้างน้อยในวัยรุ่น แต่อาจส่งผลร้ายแรงได้ ยารักษาโรคจิตเป็นแนวทางหลักในการรักษาและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิผล อย่างไรก็ตามมีหลักฐานใหม่ ๆ เกี่ยวกับการบำบัดทางจิตวิทยาเช่น การบำบัดด้วยการฟื้นฟูการรู้คิด สุขภาพจิตศึกษา ครอบครัวบำบัด และจิตบำบัดแบบกลุ่มที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิต

วัตถุประสงค์

การบำบัดทางจิตวิทยาได้ผลและปลอดภัยสำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิตหรือไม่

วิธีการสืบค้น

เราสืบค้นจากฐานข้อมูลการศึกษาโรคจิตเภทที่อยู่ในทะเบียนงานวิจัยแบบทดลองของ Cochrane รวมถึงทะเบียนการทดลองทางคลินิก (งานวิจัยล่าสุด วันที่ 8 มีนาคม 2019)

เกณฑ์การคัดเลือก

การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมทั้งหมดเปรียบเทียบการบำบัดทางจิตวิทยากับการรักษาตามปกติหรือการบำบัดทางจิตวิทยารูปแบบอื่น ๆ สำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิต สำหรับการวิเคราะห์เราได้รวมการทดลองที่ตรงตามเกณฑ์การคัดเข้าและรายงานบนฐานข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราคัดกรองการศึกษาอย่างเป็นอิสระและเชื่อถือได้และเราประเมินความเสี่ยงของการมีอคติของการศึกษาที่นำเข้ามาในการทบทวน สำหรับข้อมูลที่มีสองกลุ่มเราคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยง (RR) และช่วงความเชื่อมั่น 95% (CIs) บนฐานข้อมูลของจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่กำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มการทดลอง ข้อมูลต่อเนื่องนำเสนอด้วยผลต่างของค่าเฉลี่ย (MD) และช่วงความเชื่อมั่น 95% CIs เราใช้แบบจำลองแบบสุ่ม (random-effects model) สำหรับการวิเคราะห์ทั้งหมด เรารายงานตารางสรุปผลการวิจัยโดยใช้ GRADE

ผลการวิจัย

การทบทวนในการศึกษานี้นำมาจากการศึกษา 7 เรื่อง (n = 319) ที่ประเมินการบำบัดทางจิตวิทยาที่แตกต่างกันที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติ ไม่มีการรายงานของการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในการศึกษาใดเลย ไม่มีการศึกษาใดที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากภาคอุตสาหกรรม ด้านล่างนี้เราสรุปผลลัพธ์หลักจากการเปรียบเทียบจากผลการศึกษา 4 เรื่องจาก 6 เรื่องและความเชื่อมั่นของผลลัพธ์เหล่านี้ (อิงตาม GRADE) การให้ค่าคะแนนทั้งหมดใช้การประเมินค่าเฉลี่ยของค่าคะแนนที่ประเมินครั้งสุดท้าย

Cognitive Remediation Therapy (CRT) + Treatment-as-Usual (TAU) เทียบกับ TAU

การศึกษา 2 เรื่องเปรียบเทียบกลุ่มที่ได้รับการเพิ่ม CRT ให้กับผู้เข้าร่วมงานวิจัยที่ได้รับการรักษาตามปกติ (TAU) กับ กลุ่มที่ได้รับการรักษาตามปกติ (TAU) เพียงอย่างเดียว มีการศึกษา 1 เรื่องที่รายงาน Global state (CGAS, ค่าคะแนนสูง = ดี) ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสองกลุ่มที่ศึกษา (MD -4.90, 95% CI -11.05 ถึง 1.25; ผู้เข้าร่วมวิจัย = 50 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง, ความเชื่อมั่นต่ำมาก) การศึกษา 1 เรื่องที่รายงานสภาพจิต (PANSS, ค่าคะแนนสูง = ไม่ดี) ค่าคะแนนในกลุ่มที่ได้รับการรักษาตามปกติ (TAU) ลดลงอย่างชัดเจน (MD 8.30, 95% CI 0.46 ถึง 16.14; ผู้เข้าร่วมวิจัย = 50 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) ผู้เข้าร่วมวิจัยในกลุ่ม CRT มีจำนวนมากกว่าที่มีค่าคะแนนการพัฒนาการทำหน้าที่การรู้คิดดีขึ้นมากขึ้นอย่างชัดเจน (ใช้การทดสอบ Memory digit span) เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนอาสาสมัครที่มีการพัฒนาขึ้นในกลุ่มที่ได้รับการรักษาตามปกติ (TAU) (1 การศึกษา, n = 31, RR 0.58, 95% CI 0.37 ถึง 0.89; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) สำหรับการทำหน้าที่ทั่วไป (VABS, ค่าคะแนนสูง = ดี) ผลการวิเคราะห์ของเราไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มที่ได้รับการรักษา (MD 5.90, 95% CI -3.03 ถึง 14.83; ผู้เข้าร่วม = 50; การศึกษา = 1; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) จำนวนผู้เข้าร่วมที่ออกจากการศึกษาก่อนกำหนดจากแต่ละกลุ่มมีความใกล้เคียงกัน (RR 0.93, 95% CI 0.32 ถึง 2.71; ผู้เข้าร่วม = 91; การศึกษา = 2; ความเชื่อมั่นต่ำ)

กลุ่มจิตสังคมบำบัด (GPT) ร่วมกับการรักษาตามปกติ (TAU) เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับการรักษาตามปกติอย่างเดียว

มีการศึกษา 1 เรื่อง ประเมินผลของการเพิ่ม GPT ในกลุ่มผู้ร่วมวิจัยที่ได้รับการรักษาด้วยยาตามปกติ คะแนนของ Global state (CGAS, ค่าคะแนนสูง = ดี) ในกลุ่ม GPT สูงกว่าอย่างชัดเจน (MD 5.10, 95% CI 1.35 ถึง 8.85; ผู้เข้าร่วม = 56 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) แต่ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มสำหรับคะแนนสภาพจิต (PANSS, ค่าคะแนนสูง = แย่, MD -4.10, 95% CI -8.28 ถึง 0.08; ผู้เข้าร่วม = 56 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง, ความเชื่อมั่นต่ำมาก) และไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มในเรื่องจำนวนผู้เข้าร่วมที่ออกจากการศึกษาก่อนกำหนด (RR 0.43, 95% CI 0.15 ถึง 1.28; ผู้เข้าร่วม = 56 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก)

โปรแกรมการฟื้นฟูการรู้คิด (CRP) ร่วมกับโปรแกรมการให้สุขภาพจิตศึกษา (PTP) เปรียบเทียบกับ PTP อย่างเดียว

มีการศึกษา 1 เรื่อง ประเมินผลของการรวมการบำบัดทางจิตวิทยาสองประเภท (CRP + PTP) เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับ PTP เพียงอย่างเดียว คะแนน Global state (GAS ค่าคะแนนสูง = ดี) ไม่แตกต่างกันอย่างชัดเจน (MD 1.60, 95% CI -6.48 ถึง 9.68; ผู้เข้าร่วม = 25 คน; การศึกษา = 1 คน; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) เช่นเดียวกับคะแนนสภาพจิต (รวม BPRS ค่าคะแนนสูง = ไม่ดี, MD -5.40, 95% CI -16.42 ถึง 5.62; ผู้เข้าร่วม = 24 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) และคะแนนการทำงานของการรู้คิด (SPAN-12, คะแนนสูง = ดี, MD 2.40, 95% CI -2.67 ถึง 7.47; ผู้เข้าร่วม = 25 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก)

กลุ่มที่ได้รับสุขภาพจิตศึกษา (PE) ร่วมกับครอบครัวบำบัดแบบหลายครอบครัว (MFT) เปรียบเทียบกับ กลุ่มบำบัดแบบไม่มีโครงสร้าง (NSGT) ( NSGT , การประเมินผลระยะยาว)

มีการศึกษา 1 เรื่อง เปรียบเทียบ (PE + MFT) กับ NSGT การวิเคราะห์คะแนน Global state (CGAS, ค่าคะแนนสูง = ดี, MD 3.38, 95% CI -4.87 ถึง 11.63; ผู้เข้าร่วม = 49 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) และคะแนนสภาพจิต (รวม PANSS, ค่าคะแนนสูง = แย่, MD -8.23, 95% CI -17.51 ถึง 1.05; ผู้เข้าร่วม = 49 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจน จำนวนผู้เข้าร่วมวิจัยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (RR 0.84, 95% CI 0.36 ถึง 1.96; ผู้เข้าร่วม = 49 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง) และจำนวนผู้เข้าร่วมวิจัยที่ออกจากการศึกษาก่อนกำหนดจากแต่ละกลุ่มมีความใกล้เคียงกัน (RR 0.52, 95% CI 0.10 ถึง 2.60; ผู้เข้าร่วม = 55 คน; การศึกษา = 1 เรื่อง; ความเชื่อมั่นต่ำ)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การประมาณการผลลัพธ์หลักของการศึกษาส่วนใหญ่มีความเท่าเทียมกัน เราเสนอผลลัพธ์ของการศึกษาไว้ 4 รายการและได้นำเสนอไว้ในตาราง SOF เมื่อเทียบกับการรักษาตามปกติ กลุ่มที่ได้รับ CRT อาจมีผลในเชิงบวกต่อการทำหน้าที่การรู้คิด อย่างไรก็ตามในการศึกษาเดียวกันนี้ก็รายงานว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาตามปกติ ก็ได้รับผลเชิงบวกต่อสภาพจิต การศึกษาอื่นที่เปรียบเทียบ GPT กับ TAU รายงานผลว่า กลุ่มที่ได้รับ GPT อาจมีผลเชิงบวกต่อ Global state อย่างไรก็ตามการประมาณผลลัพธ์การศึกษาสำหรับผลลัพธ์หลักทั้งหมดในการทบทวนของเราควรได้รับการพิจารณาด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมากเนื่องจากข้อมูลอ้างอิงมาจากการศึกษาจำนวนน้อยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติ ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์เหล่านี้และจำเป็นต้องมีการศึกษาที่มีกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่และมีคุณภาพการวิจัยที่ดีขึ้นก่อนที่จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลของการบำบัดทางจิตวิทยาสำหรับวัยรุ่นที่เป็นโรคจิต

บันทึกการแปล

แปลโดย สมพร รุ่งเรืองกลกิจ ภาควิชาการพยาบาลจิตเวช คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 15 เมษายน 2021

Citation
Datta SS, Daruvala R, Kumar A. Psychological interventions for psychosis in adolescents. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 7. Art. No.: CD009533. DOI: 10.1002/14651858.CD009533.pub2.