ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประโยชน์และความเสี่ยงของยาขยายหลอดลมแบบสูดดมในทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนดเพื่อป้องกันและรักษาโรคปอดคืออะไร

ใจความสำคัญ

• เราพบการศึกษาเพียง 2 ฉบับ ที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาขยายหลอดลมแบบสูดลมหายใจเข้า (ยาที่ขยายทางเดินหายใจเพื่อช่วยการหายใจ) เพื่อป้องกันโรคปอดเรื้อรังในทารกที่คลอดก่อนกำหนด

• หลักฐานจากการศึกษา 1 ฉบับชี้ให้เห็นว่าการใช้ยา salbutamol ขยายหลอดลมอาจไม่ได้ให้ผลดีไปกว่ายาหลอก (ยาปลอม) ในการป้องกันการเสียชีวิตหรือโรคปอดเรื้อรัง

• ไม่ชัดเจนว่ายา salbutamol มีผลต่อความเสี่ยงของภาวะปอดรั่วหรือไม่ (ภาวะปอดแฟบ); ไม่มีการศึกษาใดรายงานผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ (ไม่ต้องการหรือเป็นอันตราย) ของยาขยายหลอดลม

โรคปอดเรื้อรังในทารกแรกเกิดคืออะไร

ทารกแรกเกิดที่คลอดเร็วเกินไป (ทารกคลอดก่อนกำหนด) โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต โรคปอด และความบกพร่องทางสมองมากกว่าทารกที่เกิดตามกำหนดคลอดหรือในระยะเวลาใกล้เคียง ตัวอย่างเช่น ทารกเหล่านี้บางคนมีความบกพร่องทางสติปัญญา ตาบอด หรือหูหนวก โรคปอดเรื้อรังเป็นปัญหาที่พบบ่อยในทารกคลอดก่อนกำหนดที่ไม่สามารถหายใจได้เองและต้องการสิ่งช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นออกซิเจนหรือเครื่องช่วยหายใจ (อุปกรณ์สำหรับช่วยในการหายใจ)

ยาขยายหลอดลมแบบพ่นคืออะไร

ยาขยายหลอดลมแบบพ่นเป็นยาที่สามารถขยายทางเดินอากาศในปอดได้ พวกมันถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคปอดเรื้อรัง เนื่องจากมีศักยภาพในการเปิดทางเดินหายใจเล็ก ๆ ในปอดของทารกที่คลอดก่อนกำหนด การให้ยาขยายหลอดลมแก่ทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจสามารถป้องกันโรคปอดเรื้อรังได้ ยาขยายหลอดลมสามารถสูดได้ (ผ่านเครื่องพ่นยาหรือที่เรียกว่าพัพเฟอร์) รับประทานทางปากหรือฉีด หรือรับผ่านเครื่องพ่นละอองยา (อุปกรณ์ที่ทำให้ยาขยายหลอดลมเป็นสเปรย์หรือหมอกที่ง่ายต่อการสูด) ผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมต่ำ อัตราการเต้นของหัวใจเร็ว จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ อาการสั่น ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และปอดยุบ

เราต้องการค้นหาอะไร

เราต้องการทราบว่ายาขยายหลอดลมสามารถลดความเสี่ยงของ:

• การเสียชีวิตหรือโรคปอดเรื้อรัง หรือ

• นำไปสู่ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมต่ำ อัตราการเต้นของหัวใจเร็ว จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ อาการสั่น ความดันโลหิตสูง และระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือ

• ทำให้เกิดภาวะปอดรั่ว (ปอดแฟบ)

เราทำอะไรไปแล้วบ้าง

เราค้นหาการศึกษาที่ศึกษาเกี่ยวกับยาขยายหลอดลมในทารกที่คลอดเร็วเกินไป เราเปรียบเทียบและสรุปผลการศึกษา และประเมินความน่าเชื่อถือต่อหลักฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วิธีการศึกษาและขนาดของการศึกษา

ผู้วิจัยค้นพบอะไร

เรารวบรวมการศึกษา 2 ฉบับในการทบทวนวรรณกรรมของเรา แต่หนึ่งในนั้นไม่ได้รายงานผลลัพธ์ที่เราสนใจ ในอีกการศึกษา ทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนด 173 คนที่เสี่ยงต่อโรคปอดเรื้อรังได้รับการรักษาด้วย salbutamol ยาขยายหลอดลม หรือยาหลอก

Salbutamol อาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่สร้างความแตกต่างเลยต่อการเสียชีวิตและโรคปอดเรื้อรังเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก ยังไม่ชัดเจนว่ายา salbutamol มีผลต่อความเสี่ยงของภาวะปอดรั่วหรือไม่ salbutamol ในการศึกษานี้ให้ในขนาด 200 ไมโครกรัมทุกๆ 4 ชั่วโมง เป็นเวลา 28 วัน

การศึกษาไม่ได้รายงานถึงผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ของ salbutamol

ไม่มีการศึกษาที่กำลังดำเนินการอยู่ของผลของยาขยายหลอดลมต่อทารกที่คลอดก่อนกำหนด

หลักฐานมีข้อจำกัดอะไรบ้าง

เราไม่มั่นใจในหลักฐานเกี่ยวกับการเสียชีวิตและโรคปอดเรื้อรัง เนื่องจากผลลัพธ์ที่สมบูรณ์มีแค่การศึกษาเดียวเท่านั้น

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานเป็นข้อมูลล่าสุดถึง เดือนพฤษภาคม 2023

บทนำ

โรคปอดเรื้อรัง (chronic lung disease; CLD) เกิดขึ้นบ่อยในทารกคลอดก่อนกำหนดและสัมพันธ์กับโรคทางเดินหายใจ ยาขยายหลอดลมมีศักยภาพต่อการขยายทางเดินหายใจขนาดเล็กในปอดที่มีภาวะกล้ามเนื้อหนาตัว การเพิ่มการปฏิบัติที่สอดคล้องและปริมาตรอากาศที่หายใจเข้า และการลดการต้านทานในทางเดินหายใจ มีการบันทึกไว้ด้วยการใช้ยาขยายหลอดลมในทารกที่มีภาวะโรคปอดเรื้อรัง ดังนั้นยาขยายหลอดลมจึงได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่ามีบทบาทในการป้องกันและรักษาโรคปอดเรื้อรัง แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ที่ดีทางคลินิกหรือไม่ นี่คือการปรับปรุงของการทบทวนวรรณกรรมของ Cochrane ปี 2016

วัตถุประสงค์

เพื่อตรวจสอบผลของยาขยายหลอดลมแบบสูดดมที่ใช้เป็นการป้องกันหรือการรักษาโรคปอดเรื้อรัง (CLD) ต่อการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ของการคลอดก่อนกำหนดในทารกที่มีความเสี่ยงที่ถูกระบุว่ามีภาวะโรคปอดเรื้อรัง

วิธีการสืบค้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลได้สืบค้นใน CENTRAL, MEDLINE, Embase, CINAHL และทะเบียนการทดลอง 3 แหล่ง ตั้งแต่ปี 2016 ถึงพฤษภาคม 2023 นอกจากนี้ ผู้ทบทวนยังดำเนินการตรวจสอบเอกสารอ้างอิง ค้นหาจากการอ้างอิง และติดต่อกับผู้วิจัยเพื่อระบุการศึกษาเพิ่มเติม

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวมการทดลองแบบสุ่มและแบบกึ่งสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมที่ศึกษาในทารกคลอดก่อนกำหนดที่อายุครรภ์น้อยกว่า 32 สัปดาห์ ที่เปรียบเทียบยาขยายหลอดลมกับการไม่มีการรักษาหรือได้รับยาหลอก โรคปอดเรื้อรัง หมายถึง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจที่อายุ 28 วัน หรือที่อายุ 36 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่มารดามีประจำเดือนครั้งสุดท้าย (36 weeks' postmenstrual age) การเริ่มต้นการรักษาด้วยยาขยายหลอดลมเพื่อป้องกันโรคปอดเรื้อรังจะต้องเริ่มภายใน 2 สัปดาห์หลังคลอด การรักษาโรคปอดเรื้อรังของทารกจะต้องเริ่มก่อนออกจากหน่วยดูแลทารกแรกเกิด วิธีการต้องมีการให้ยาขยายหลอดลมโดยใช้เครื่องพ่นยาหรือการสูดพ่นยาชนิด metered dose inhaler ตัวเปรียบเทียบคือไม่มีวิธีการรักษาหรือได้รับยาหลอก

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราใช้ระเบียบวิธีการวิจัยมาตรฐานที่ Cochrane กำหนดไว้ ผลลัพธ์ที่สำคัญได้แก่ การเสียชีวิตภายในระยะเวลาทดลอง; โรคปอดเรื้อรัง (หมายถึง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจที่อายุ 28 วัน หรือที่อายุ 36 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่มารดามีประจำเดือนครั้งสุดท้าย) ผลข้างเคียงของยาขยายหลอดลม ได้แก่ ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (ระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำ), ภาวะหัวใจเต้นเร็ว, ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ, อาการสั่น, ความดันโลหิตสูงและน้ำตาลในเลือดสูง และภาวะปอดรั่ว เราใช้แนวทาง GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานสำหรับแต่ละผลลัพธ์

ผลการวิจัย

เรารวบรวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม 2 ฉบับ ไว้ในการอัปเดตการทบทวนวรรณกรรมนี้ มีเพียงการทดลอง 1 ฉบับเท่านั้นที่ให้ข้อมูลผลลัพธ์ที่นำมาใช้ได้ การทดลองนี้ดำเนินการในหน่วยดูแลผู้ป่วยวิกฤตทารกแรกเกิด 6 แห่งในฝรั่งเศสและโปรตุเกส และมีผู้เข้าร่วม 173 คน ที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 31 สัปดาห์ ทารกในกลุ่มทดลองที่ได้รับ salbutamol เพื่อป้องกันโรคปอดเรื้อรัง

หลักฐานแสดงให้เห็นว่า salbutamol อาจส่งผลให้มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างเลยในอัตราการเสียชีวิต (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 1.08, ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 95% 0.50 ถึง 2.31; risk difference (RD) 0.01, 95% CI -0.09 ถึง 0.11; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) หรือ โรคปอดเรื้องรัง ที่ 28 วัน (RR 1.03, 95% CI 0.78 ถึง 1.37; RD 0.02, 95% CI -0.13 ถึง 0.17; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก

หลักฐานยังไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับผลของ salbutamol ต่อภาวะปอดรั่ว การทดลอง 1 ฉบับ ที่มีข้อมูลที่นำมาใช้ได้ รายงานว่าไม่มีความแตกต่างที่เกี่ยวข้องระหว่างกลุ่ม โดยไม่ได้ระบุจำนวนของเหตุการณ์ (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก)

ผู้วิจัยในการศึกษานี้ไม่ได้รายงานว่ามีผลข้างเคียงเกิดขึ้นหรือไม่

เราไม่พบการทดลองที่เข้าเกณฑ์ที่ประเมินการใช้ยาขยายหลอดลมในการรักษาทารกที่มีโรคปอดเรื้อรัง

เราพบว่าไม่มีการศึกษาที่กำลังดำเนินการอยู่

ข้อสรุปของผู้วิจัย

หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำจากการทดลอง 1 ฉบับ แสดงให้เห็นว่าการป้องกันด้วยยาขยายหลอดลมแบบสูดพ่นอาจส่งผลให้เกิดความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างเลยในอุบัติการณ์การเสียชีวิตหรือ โรคปอดเรื้อรัง ในทารกคลอดก่อนกำหนด เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก หลักฐานมีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับผลของ salbutamol ต่อภาวะปอดรั่ว และไม่มีรายงานเกี่ยวกับอุบัติการณ์ของผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เราไม่พบการทดลองที่ศึกษาการใช้ยาขยายหลอดลมในการรักษาโรคปอดเรื้อรัง

จำเป็นต้องมีการทดลองทางคลินิกเพิ่มเติมเพื่อประเมินบทบาทของยาขยายหลอดลมในการป้องกันโรคหรือการรักษาโรคปอดเรื้อรัง นักวิจัยที่ศึกษาผลของยาขยายหลอดลมแบบสูดดมในทารกที่คลอดก่อนกำหนดควรมีผลลัพธ์ทางคลินิกที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากผลลัพธ์ทางกลไกของปอด (pulmonary mechanical outcomes)

บันทึกการแปล

แปลโดย นายฎลกร จำปาหวาย วันที่ 8 กรกฎาคม 2024

Citation
Ng G, Bruschettini M, Ibrahim J, da Silva O. Inhaled bronchodilators for the prevention and treatment of chronic lung disease in preterm infants. Cochrane Database of Systematic Reviews 2024, Issue 4. Art. No.: CD003214. DOI: 10.1002/14651858.CD003214.pub4.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า