วิธีการตรวจสอบและระบุสาเหตุของการตายคลอด

ประเด็นคืออะไร

สาเหตุของการตายคลอดมีหลายสาเหตุ เช่น มารดามีความดันโลหิตสูงหรือเป็นเบาหวานก่อนตั้งครรภ์ การติดเชื้อ เช่น มาลาเรีย เอชไอวี หรือซิฟิลิส ความผิดปกติแต่กำเนิดในทารก ปัญหาการทำงานของรก และการตั้งครรภ์ต่อเนื่องหลัง วันที่ครบกำหนด บางครั้งทารกเสียชีวิตจากสาเหตุหลายประการ การตายของทารกจนตายคลอดเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงสำหรับพ่อแม่ ครอบครัว และชุมชน เพื่อป้องกันการตายคลอด เราต้องเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมจึงเกิดขึ้น การเข้าใจสาเหตุที่ทารกเสียชีวิตอาจช่วยพ่อแม่รับมือกับความเศร้าโศก และช่วยพวกเขาในการวางแผนการดูแลสำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต

การทดสอบและการสอบสวนต่างๆ สามารถทำได้เพื่อช่วยค้นหาสาเหตุที่ทารกเสียชีวิต การทดสอบและการตรวจสอบเหล่านี้แตกต่างกันไปในระดับของความเชี่ยวชาญที่จำเป็น ระดับความลึกซึ้ง และค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน การทดสอบ ขั้นตอน หรือแนวทางในการตรวจสอบและระบุสาเหตุของการตายคลอด ได้แก่ การดูประวัติการรักษาของบิดามารดา ปัญหาใดๆ ระหว่างตั้งครรภ์ การตรวจมารดา (เช่น อัลตราซาวนด์ การเจาะน้ำคร่ำ การตรวจแอนติบอดี) การตรวจทารกที่ตายคลอด การตรวจร่างกาย สายสะดือและรก และสัมภาษณ์ผู้ให้บริการดูแลและผู้ให้การช่วยเหลือ เพื่อหาสาเหตุโดยไม่ต้องตรวจทารก (ชันสูตรศพด้วยวาจา) ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางมาตรฐานในการตรวจสอบสาเหตุของการตายคลอด

ทำไมเรื่องนี้จึงมีความสำคัญ

การค้นหาสาเหตุของการตายคลอดอาจเป็นเรื่องยากทางอารมณ์สำหรับครอบครัว และมีค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงสำหรับบริการด้านสุขภาพและบางครั้งสำหรับผู้ปกครอง การทดสอบและการตรวจสอบบางอย่างอาจมีประโยชน์มากกว่าวิธีอื่นในการระบุสาเหตุของการตายคลอด มีความจำเป็นต้องประเมินอย่างเป็นระบบว่าแนวทางใดเป็นประโยชน์มากที่สุดในการค้นหาสาเหตุของการตายคลอด วิธีต่างๆ ที่คุ้มค่าคุ้มราคา ผลกระทบทางอารมณ์และสังคมต่อผู้ปกครอง ผลกระทบของการสอบสวนที่มีต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต และผลลัพธ์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ในอนาคต

เราพบหลักฐานอะไร

เราค้นหาหลักฐานเมื่อ 27 มิถุนายน 2017 ไม่มีการทดลองทีเข้าเกณฑ์ในการทบทวนววรณกรรมนี้ เราไม่รวม 5 การทดลองเนื่องจากไม่ใช่การทดลองแบบสุ่มที่มีการควบคุม

สิ่งนี้หมายความว่าอะไร

ไม่มีหลักฐานเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการตรวจสอบสาเหตุของการตายคลอด การค้นหาสาเหตุของการเสียชีวิตของทารกเป็นองค์ประกอบสำคัญของการดูแลการคลอดบุตรที่มีคุณภาพในทุกสถานการณ์ การทดลองในอนาคตในหัวข้อนี้จะเป็นประโยชน์ แต่การทดลองดังกล่าวจะต้องได้รับการออกแบบในลักษณะที่ทำให้ผู้ปกครองทุกคนในการทดลองยังคงได้รับมาตรฐานการดูแลขั้นต่ำในพื้นที่ของตน การทดลองต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงความต้องการ ความกังวล และคุณค่าของผู้ปกครองและครอบครัวอย่างเต็มที่ การประเมินตัวแปรทางจิตสังคมในระยะยาว ต้นทุนทางเศรษฐกิจในการให้บริการด้านสุขภาพ และผลกระทบต่อการดูแลการตั้งครรภ์และผลลัพธ์ที่ตามมาควรพิจารณาในการทดลองในอนาคตด้วย

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐาน RCT เกี่ยวกับประสิทธิผลของวิธีการในการตรวจสอบและระบุสาเหตุของการตายคลอด การค้นหาสาเหตุของการตายคลอดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการดูแลการคลอดบุตรที่มีคุณภาพ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าวิธีการเหล่านี้มีผลต่อผลลัพธ์ทางจิตสังคมของพ่อแม่และครอบครัว อัตราการวินิจฉัยสาเหตุของการตายคลอด การดูแลและการจัดการของ การตั้งครรภ์ที่ตามมาภายหลังการตายคลอด เนื่องจากไม่มีการทดลอง การทบทวนนี้จึงไม่สามารถบอกการปฏิบัติทางคลินิกเกี่ยวกับการสอบสวนการตายคลอดและการสอบสวนเฉพาะที่จะระบุสาเหตุได้

RCTs ในอนาคตที่ตอบคำถามการวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ แต่บริบทที่ใช้ทำการทดลองและการออกแบบต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ การทดลองต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงความต้องการ ความกังวล และคุณค่าของผู้ปกครองและครอบครัวอย่างเต็มที่ การประเมินตัวแปรทางจิตสังคมในระยะยาว ต้นทุนทางเศรษฐกิจในการให้บริการด้านสุขภาพ และผลกระทบต่อการดูแลการตั้งครรภ์และผลลัพธ์ที่ตามมาควรพิจารณาในการทดลองในอนาคตด้วย

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การระบุสาเหตุของการตายคลอดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันการตายคลอดแบบปฐมภูมิและการให้การดูแลที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งครรภ์ครั้งต่อๆ ไป มีการสอบสวนที่หลากหลาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนและโอกาสในการเพิ่มภาระทางอารมณ์แก่ผู้ปกครอง จึงจำเป็นต้องประเมินผลของวิธีการเหล่านี้อย่างเป็นระบบต่อผลลัพธ์สำหรับผู้ปกครอง รวมถึงผลลัพธ์ทางจิตสังคม ต้นทุนทางเศรษฐกิจ และอัตราการวินิจฉัยสาเหตุของการตายคลอด

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินผลของการทดสอบ ระเบียบการ หรือแนวทางต่าง ๆ ในการตรวจสอบและหาสาเหตุของการตายคลอดต่อผลลัพธ์สำหรับผู้ปกครอง รวมถึงผลลัพธ์ทางจิตสังคม ต้นทุนทางเศรษฐกิจ และอัตราการวินิจฉัยสาเหตุของการตายคลอด

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหา Cochrane Pregnancy and Childbirth's Trials Register (31 สิงหาคม 2017), ClinicalTrials.gov และ WHO International Clinical Trials Registry Platform ( ICTRP ) (15 พฤษภาคม 2017)

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เราวางแผนที่จะรวม randomized controlled trials (RCTs), quasi-RCTs และ cluster-RCTs เราวางแผนที่จะรวมการศึกษาที่ตีพิมพ์เป็นบทคัดย่อเท่านั้นถ้ามีข้อมูลเพียงพอเพื่อให้เราประเมินคุณสมบัติในการศึกษาได้ เราวางแผนที่จะคัด cross-over trials ออก

ผู้เข้าร่วมรวมถึงผู้ปกครอง (รวมถึงมารดา บิดา และคู่ครอง) ที่เคยมีการตายคลอดที่อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป

การทบทวนวรรณกรรมนี้เน้นที่วิธีการสำหรับการตรวจสอบและหาสาเหตุของการตายคลอด วิธีการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีความหลากหลาย แต่อาจรวมถึง:

* ทบทวนประวัติมารดาและครอบครัว และประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดปัจจุบัน
* ประวัติทางคลินิกของการเจ็บป่วยในปัจจุบัน;
* การตรวจมารดา (เช่น อัลตราซาวนด์, การเจาะน้ำคร่ำ, การตรวจแอนติบอดี ฯลฯ );
* การตรวจทารกที่ตายคลอด (รวมถึงการชันสูตรศพเต็มรูปแบบ การชันสูตรศพบางส่วน หรือส่วนประกอบที่ไม่ ลุกล้ำ เช่น การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) การสแกนด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) และการถ่ายภาพรังสี)
* การตรวจสายสะดือ;
* การตรวจรกรวมทั้งจุลพยาธิวิทยา (การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ของเนื้อเยื่อรก) และ
* การชันสูตรศพด้วยวาจา (สัมภาษณ์กับผู้ให้บริการดูแลและผู้ให้การช่วยเหลือเพื่อสืบหาสาเหตุโดยไม่ต้องตรวจทารก)

เราวางแผนที่จะรวมการทดลองที่ประเมินการทดสอบ โปรโตคอล หรือแนวปฏิบัติใดๆ (หรือชุดทดสอบ/โปรโตคอล/แนวทางปฏิบัติ) เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการตายคลอด เปรียบเทียบกับกรณีที่ไม่มีการทดสอบ โปรโตคอล หรือแนวทางปฏิบัติ หรือการดูแลตามปกติ (รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ใน ความเป็นมา โปรดดูคำอธิบายของวิธีการ)

นอกจากนี้เรายังวางแผนที่จะรวมการทดลองที่เปรียบเทียบการทดสอบ โปรโตคอล หรือแนวทางปฏิบัติใดๆ (หรือการทดสอบ/โปรโตคอล/แนวทางปฏิบัติร่วมกัน) เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการตายคลอดกับอีกวิธีการหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การใช้โปรโตคอลการตรวจสอบที่จำกัดเมื่อเทียบกับโปรโตคอลการสอบสวนที่ครอบคลุม

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คนประเมินการเข้าเกณฑ์ของการทดลองอย่างอิสระ

ผลการวิจัย: 

เราไม่รวม 5 การศึกษาที่ไม่ใช่ RCT ไม่มีการทดลองที่เข้าเกณฑ์ในการทบทวนววรณกรรมนี้

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อ 13 ตุลาคม 2021

Tools
Information