สูตรแมกนีเซียมซัลเฟตที่แตกต่างกันให้กับมารดาเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด

ทารกที่เกิดก่อนกำหนด - ก่อนอายุครรภ์ประมาณ 37 สัปดาห์ - มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหรือป่วยหนักมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาเกิดเร็วมาก มีการให้ยาหลายชนิดแก่ผู้หญิงเพื่อพยายามหยุดทารกไม่ให้เกิดมาเร็วเกินไป แมกนีเซียมซัลเฟตเป็นยาตัวหนึ่งที่ใช้เมื่อผู้หญิงเข้าสู่ภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะแสดงให้เห็นแล้วว่าแมกนีเซียมซัลเฟตไม่ได้ช่วยป้องกันไม่ให้ทารกเกิดเร็วเกินไป แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้วิธีให้แมกนีเซียมซัลเฟตที่ปลอดภัยที่สุดและดีที่สุดหากมีการใช้สำหรับมารดาที่เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด มีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการใช้แมกนีเซียมซัลเฟตในปริมาณสูงสำหรับสตรีที่เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด คือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตของทารก (มีการแสดงให้เห็นว่าแมกนีเซียมซัลเฟตช่วยป้องกันและรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษในสตรีที่มีความดันโลหิตสูงในระหว่างตั้งครรภ์ และในมารดาที่เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด ยาปริมาณต่ำสามารถปกป้องสมองของทารกและปรับปรุงผลลัพธ์ในระยะยาวสำหรับทารกได้ การใช้งานเหล่านี้ครอบคลุมอยู่ในการทบทวน Cochrane อื่นๆ)

การทบทวนนี้พบการทดลอง 3 ฉบับ (เกี่ยวข้องกับสตรี 360 คนและทารก) แต่การศึกษา 1 ฉบับไม่ได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องใดๆ การทดลองมีขนาดเล็กและได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะมีอคติต่ำหรือไม่ชัดเจน การทดลองไม่ได้รายงานผลลัพธ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการทบทวนวรรณกรรมนี้ เราพบหลักฐานที่จำกัดที่ชี้ให้เห็นว่าเมื่อให้แมกนีเซียมซัลเฟตแก่มารดาที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ความแตกต่างของขนาดยา (ขนาดสูงกับขนาดต่ำ) ไม่ส่งผลต่อจำนวนทารกที่เสียชีวิต (หลักฐานคุณภาพต่ำมาก) ไม่มีข้อมูลที่จะประเมินผลลัพธ์ที่สำคัญอื่นๆ: การเกิดน้อยกว่า 48 ชั่วโมงหลังจากเข้าร่วมการทดลอง หรือผลลัพธ์ที่ร้ายแรงสำหรับมารดาหรือทารกของพวกเขา

การทดลองที่รวบรวมได้ให้ข้อมูลน้อยมากสำหรับผลลัพธ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทบทวนนี้ (โดยรวมแล้ว เราสามารถตรวจสอบผลลัพธ์เพียงแปดจาก 45 รายการที่เราต้องการตรวจสอบ)

การทดลองหนึ่งเรื่องพบว่าอัตราการเกิดกลุ่มอาการหายใจลำบากในทารกแรกเกิด ( หลักฐานคุณภาพต่ำ ) และระยะเวลาอยู่ในหออภิบาลทารกแรกเกิดลดลงด้วยแมกนีเซียมซัลเฟตขนาดสูง (เทียบกับทารกที่เกิดจากกลุ่มสตรีที่ได้รับยา แมกนีเซียมซัลเฟตขนาดต่ำ) อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์นี้อิงตามหลักฐานจากการศึกษาขนาดเล็กเรื่องเดียว ดังนั้นควรตีความด้วยความระมัดระวัง

อัตราการผ่าคลอดไม่แตกต่างกันระหว่างสตรีที่ได้รับยาขนาดสูงกับสตรีที่ได้รับแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดต่ำ และไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มในแง่ของจำนวนทารกที่เสียชีวิตก่อนคลอดหรือในเดือนต่อมา หรือจำนวนทารกที่มีแคลเซียมในเลือดต่ำ ความหนาแน่นของกระดูกต่ำ หรือกระดูกหัก ความถี่ของผลข้างเคียงที่รายงานด้วยตนเองในมารดา ได้แก่ อาการหน้าแดง ปวดศีรษะ (การศึกษา 2 ฉบับ สตรี 248 ราย) หรืออาการคลื่นไส้อาเจียน (การทดลอง 1 ฉบับ มีสตรี 100 ราย) ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดสูงและขนาดต่ำ รายงานอาการน้ำท่วมปอดในมารดาสองคนที่ได้รับแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดสูง และไม่มีรายงานในมารดาคนใดที่ได้รับแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดต่ำ

ไม่มีการทดลองใดที่พิจารณาระยะเวลาการรักษา เวลาที่เริ่มให้ และวิธีอื่นๆ ในการให้แมกนีเซียมซัลเฟตแก่มารดาที่กำลังจะคลอดบุตรเร็วเกินไป

จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสม ระยะเวลาในการรักษา ช่วงเวลาที่ให้ยา และบทบาทของการให้ยาซ้ำในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับ แม่และลูกของพวกเขา

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

มีข้อมูลที่จำกัด (การศึกษา 3 ฉบับ โดยมีข้อมูลจากการศึกษาเพียง 2 ฉบับเท่านั้น) เปรียบเทียบสูตรการให้ยาที่แตกต่างกันของแมกนีเซียมซัลเฟตที่ให้เป็นสารยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกชนิดตัวเดียวเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด ไม่มีหลักฐานที่ตรวจสอบระยะเวลาในการรักษา ช่วงเวลาในการรักษา และบทบาทของการให้ยาซ้ำ

การตัดสินใจลดระดับสำหรับผลลัพธ์หลักของการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ ทารกแรกเกิด และทารกขึ้นอยู่กับช่วงความเชื่อมั่นที่กว้าง (ข้ามเส้นที่ไม่มีผลกระทบ) การขาดการปกปิด และการศึกษามีจำนวนจำกัด ไม่มีข้อมูลสำหรับผลลัพธ์ที่สำคัญอื่น ๆ ของเรา: การคลอดน้อยกว่า 48 ชั่วโมงหลังจากเข้าร่วมการทดลอง; ผลลัพธ์รวมที่ร้ายแรงของทารก ผลลัพธ์รวมที่ร้ายแรงของมารดา ข้อมูลถูกจำกัดโดยปริมาณและผลลัพธ์ที่รายงาน มีเพียง 8 ใน 45 ผลลัพธ์หลักและรองด้านสุขภาพของมารดาและทารกที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของเราเท่านั้นที่ได้รับการรายงานในการศึกษาที่รวบรวมไว้ ไม่มีการรายงานผลลัพธ์ระยะยาว การตัดสินใจลดระดับสำหรับหลักฐานเกี่ยวกับความเสี่ยงของอาการหายใจลำบากขึ้นอยู่กับช่วงความเชื่อมั่นที่กว้าง (ข้ามเส้นที่ไม่มีผลกระทบ) และการขาดการปกปิดกลุ่ม

มีหลักฐานจากการศึกษา 1 ฉบับที่ชี้ให้เห็นถึงการลดระยะเวลาการอยู่ในหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดและความเสี่ยงที่ลดลงของอาการหายใจลำบากเมื่อใช้ยาแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดสูงเมื่อเทียบกับการรักษาในขนาดต่ำ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหลักฐานถูกดึงมาจากการศึกษาเรื่องเดียว (ด้วยขนาดกลุ่มตัวอย่างที่เล็ก) ข้อมูลเหล่านี้ควรได้รับการตีความด้วยความระมัดระวัง

แมกนีเซียมซัลเฟตได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ในทางสูติกรรมที่หลากหลาย แม้ว่าจะยังไม่ได้รับการแนะนำสำหรับการใช้เป็น tocolysis ในสถานพยาบาลที่มีการสร้างประโยชน์ต่อสุขภาพ จำเป็นต้องมีการทดลองเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสม (ขนาดยาทีให้ loading และขนาดยาที่ให้ต่อ ระยะเวลาในการรักษา ช่วงเวลาที่ให้ยา และบทบาทในการให้ยาซ้ำในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับ แม่และลูกของพวกเขา จำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเรื่องขนาดยาที่แตกต่างกันและความเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่สำคัญ

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

แมกนีเซียมซัลเฟตถูกใช้เพื่อยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด ไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของสูตรการรักษาที่แตกต่างกันในแง่ของขนาดยา ระยะเวลา เส้นทางการให้ยา และช่วงเวลาที่ให้ยา

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสูตรแมกนีเซียมซัลเฟตทางเลือกเมื่อใช้เป็นสารยับยั้งการหดตัวของมดลูกแบบตัวเดียวในระหว่างตั้งครรภ์

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้นใน Cochrane Pregnancy and Childbirth Group's Trials Register (30 กันยายน 2015) และรายการอ้างอิงของการศึกษาที่ดึงมาได้

เกณฑ์การคัดเลือก: 

การทดลองแบบสุ่มเปรียบเทียบสูตรการรักษาด้วยแมกนีเซียมซัลเฟตแบบต่างๆ เมื่อใช้เป็นยายับยั้งการหดตัวของมดลูกแบบตัวเดียวในระหว่างตั้งครรภ์ในสตรีที่เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด การทดลองแบบ Quasi-randomised trials ตรงตามเกณฑ์การคัดเข้าเช่นกัน แต่ไม่พบการศึกษาประเภทนี้จากการสืบค้น Cross-over studiesและ cluster-randomised trials ไม่อยู่ในเกณฑ์นำเข้าในการทบทวนนี้ ผลลัพธ์ด้านสุขภาพได้รับการพิจารณาในระดับมารดา ทารก/เด็ก และบริการสุขภาพ

วิธีการที่ใช้ (intervention): การให้แมกนีเซียมซัลเฟตทางหลอดเลือดดำหรือทางปากเพียงอย่างเดียวสำหรับการเป็น tocolysis

การเปรียบเทียบ (comparison): สูตรการจ่ายยาทางเลือกของแมกนีเซียมซัลเฟตที่ให้เพียงอย่างเดียวสำหรับการเป็น tocolysis

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คนประเมินการทดลองที่ตรงตามเกณฑ์การคัดเข้าและประเมินคุณภาพ และดึงข้อมูลอย่างเป็นอิสระต่อกัน

ผลการวิจัย: 

การทดลอง 3 ฉบับซึ่งรวมสตรี 360 คนและทารกของพวกเขาได้รับการระบุว่ามีสิทธิ์รวมในการทบทวนวรรณกรรมนี้ การทดลอง 2 ฉบับได้รับการจัดอันดับว่ามีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำสำหรับการสร้างลำดับแบบสุ่มและการปกปิดการจัดสรรผู้เข้าร่วมเข้ากลุ่มการทดลอง การทดลองที่ 3 ได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงของการเกิดอคติที่ไม่ชัดเจนสำหรับโดเมนเหล่านี้ แต่ไม่ได้รายงานข้อมูลสำหรับผลลัพธ์ที่ต้องการตรวจสอบในการทบทวนวรรณกรรมนี้ ไม่มีการทดลองใดที่จัดว่ามีคุณภาพโดยรวมสูง

แมกนีเซียมซัลเฟตทางหลอดเลือดดำถูกบริหารให้ตามสูตรการให้ยาในขนาดต่ำ (ขนาด loading 4 กรัม ตามด้วยการให้ยาแบบต่อเนื่อง 2 กรัมต่อชั่วโมง และ/หรือเพิ่มขึ้น 1 กรัมต่อชั่วโมงทุกชั่วโมงจนกว่าจะสามารถระงับการหดรัดตัวของมดลูกสำเร็จหรือล้มเหลวในการรักษา) หรือขนาดยาสูง (ขนาด loading 4 กรัม ตามด้วยการฉีดต่อเนื่อง 5 กรัมต่อชั่วโมง และเพิ่มขึ้น 1 กรัมต่อชั่วโมงทุกชั่วโมง จนกระทั่งสามารถระงับการหดรัดตัวของมดลูกได้สำเร็จหรือล้มเหลวในการรักษา หรือขนาดยา loading 6 กรัม ตามด้วยการให้ยาต่อเนื่อง 2 กรัมต่อชั่วโมง และเพิ่มขึ้น 1 กรัมต่อชั่วโมง ทุกชั่วโมงจนกว่าจะสามารถระงับการหดรัดตัวของมดลูกได้สำเร็จหรือความล้มเหลวของการรักษา)

ไม่มีความแตกต่างระหว่างสูตรการรักษาแมกนีเซียมซัลเฟตขนาดสูงเมื่อเทียบกับสูตรแมกนีเซียมซัลเฟตขนาดต่ำสำหรับผลลัพธ์หลักของการเสียชีวิตของ ทารกในครรภ์ ทารกแรกเกิด และทารก (risk ratio (RR) 0.43 95% confidence interval (CI) 0.12 ถึง 1.56; การทดลอง 1 ฉบับ, ทารก 100 คน) เมื่อใช้แนวทาง GRADE หลักฐานการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ ทารกแรกเกิด และทารกถือว่ามีคุณภาพต่ำมาก ไม่มีการรายงานข้อมูลสำหรับผลลัพธ์ด้านสุขภาพของมารดาและทารกขั้นปฐมภูมิอื่นๆ ( การคลอดบุตรน้อยกว่า 48 ชั่วโมงหลังจากเข้าร่วมการทดลอง ผลลัพธ์เชิงซ้อนที่ร้ายแรงของทารก ผลลัพธ์เชิงซ้อนที่ร้ายแรงของมารดา

ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสูตรการรักษาแมกนีเซียมซัลเฟตขนาดสูงเมื่อเทียบกับสูตรแมกนีเซียมซัลเฟตขนาดต่ำสำหรับผลลัพธ์ด้านสุขภาพรองของ การเสียชีวิตของทารกในครรภ์; ทารกแรกเกิดเสียชีวิต; และ อัตราของ hypocalcaemia, osteopenia หรือ กระดูกหัก ; และผลสุขภาพมารดาทุติยภูมิของอัตรา การผ่าตัดคลอด; อาการบวมน้ำที่ปอด; และ ผลข้างเคียงที่มารดารายงานด้วยตนเอง รายงานอาการน้ำท่วมปอดในสตรีสองคนที่ได้รับแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดสูง แต่ไม่พบในสตรีคนใดที่ได้รับแมกนีเซียมซัลเฟตในขนาดต่ำ

ในการทดลองเรื่องเดียวของแมกนีเซียมซัลเฟตขนาดสูงและต่ำสำหรับการทำ tocolysis รวมทารก 100 คน ความเสี่ยงของอาการหายใจลำบาก ลดลงเมื่อใช้สูตรขนาดสูงเมื่อเทียบกับสูตรขนาดต่ำ (RR 0.31, 95% CI 0.11 ถึง 0.88 การทดลอง 1 ฉบับ, ทารก 100 คน) เมื่อใช้แนวทาง GRADE หลักฐานของอาการหายใจลำบากได้รับการตัดสินว่ามีคุณภาพต่ำ อัตราการเข้ารับการรักษาในหออภิบาลทารกแรกเกิดไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับทารกเหล่านั้นที่เข้ารับการรักษา สูตรการให้ยาขนาดสูงสัมพันธ์กับระยะเวลาการอยู่ในหออภิบาลทารกแรกเกิดที่ลดลงเมื่อเทียบกับการรักษาในขนาดต่ำ (ความแตกต่างเฉลี่ย -3.10 วัน ช่วงความเชื่อมั่น 95% -5.48 ถึง - 0.72)

เราไม่พบข้อมูลสำหรับผลลัพธ์รองส่วนใหญ่ของเรา

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว Edit โดย ผกากรอง 14 ธันวาคม 2022

Tools
Information