ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การดูแลผิวในทารกเพื่อป้องกันโรคผื่นผิวหนังอักเสบและการแพ้อาหาร

การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของทารกสามารถป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบหรือการแพ้อาหารได้หรือไม่

ใจความสำคัญ

การดูแลผิวในทารก เช่น การทาครีมให้ความชุ่มชื่น (moisturisers) ในช่วงขวบปีแรก อาจไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบและอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ด้วย

ผู้วิจัยไม่มั่นใจว่าการดูแลผิวจะส่งผลต่อความเสี่ยงของการแพ้อาหารหรือไม่ จึงต้องการหลักฐานจากการศึกษาที่น่าเชื่อถือ เพื่อตรวจสอบผลของการใช้ครีมทาผิวต่อการแพ้อาหารในทารก

โรคภูมิแพ้คืออะไร

การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันเป็นกลไกที่ร่างกายใช้ป้องกันตัวเองจากสารที่เป็นอันตราย ซึ่งอาการแพ้ (allergy) คือปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต่ออาหารหรือสารชนิดหนึ่ง (สารก่อภูมิแพ้) ซึ่งโดยปกติจะไม่เป็นอันตราย อาการแพ้มีหลายแบบและมีอาการในหลายๆ ส่วนของร่างกาย ซึ่งมีตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมาก

การแพ้อาหารและผื่นผิวหนังอักเสบ

ผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่พบบ่อยซึ่งทำให้ผิวแห้ง คันและแตกลาย ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กโดยเฉพาะในขวบปีแรก ในบางครั้งอาจมีอาการเรื้อรัง แต่อาจจะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อโตขึ้น

การแพ้อาหารทำให้มีอาการคันที่ปาก มีผื่นแดงคัน มีอาการบวมที่ใบหน้า อาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หรือหายใจลำบาก ซึ่งมักเกิดขึ้นภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร

ผู้ที่แพ้อาหารมักมีอาการแพ้อื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคหอบหืด, ไข้ละอองฟาง (hay fever) และผื่นผิวหนังอักเสบ

ทำไมเราถึงทำการทบทวนวรรณกรรมนี้

ผู้วิจัยต้องการทราบว่าการดูแลผิวมีผลต่อความเสี่ยงที่ทารกจะเกิดผื่นผิวหนังอักเสบหรือการแพ้อาหารหรือไม่ ซึ่งการดูแลผิวประกอบด้วย:

• การทาครีมให้ความชุ่มชื้นลงบนผิวของทารก

• การอาบน้ำทารกด้วยน้ำที่ผสมครีมหรือน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้น

• แนะนำให้พ่อแม่ใช้สบู่ปริมาณเล็กน้อย หรืออาบน้ำให้ลูกน้อยลง และ

• การใช้น้ำที่ผ่านการกรอง (water softerner)

ผู้วิจัยต้องการทราบอีกว่าการดูแลผิวแต่ละวิธีมีผลข้างเคียงใดๆ หรือไม่

ผู้วิจัยทำการศึกษาอย่างไร

ผู้วิจัยสืบค้นหาการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลผิววิธีต่างๆ ในทารกที่มีสุขภาพดี (อายุไม่เกิน 1 ปี) ที่ไม่มีอาการแพ้อาหาร ผื่นผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังอื่นๆ มาก่อน

วันที่ค้นข้อมูล: หลักฐานที่เผยแพร่ถึง กรกฎาคม 2020

ผู้วิจัยสนใจการศึกษาที่รายงานว่า:

• จำนวนเด็กที่เป็นผื่นผิวหนังอักเสบหรือแพ้อาหารในช่วงอายุ 1 ถึง 3 ปี

• ความรุนแรงของผื่นผิวหนังอักเสบ (ประเมินโดยนักวิจัยและผู้ปกครอง)

• ระยะเวลาก่อนที่จะเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ

• รายงานของผู้ปกครองเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน (ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) ต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร

• จำนวนเด็กที่เกิดความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร และ

• ผลข้างเคียงต่างๆ

ผู้วิจัยประเมินข้อดีและข้อด้อยของแต่ละการศึกษาเพื่อพิจารณาว่าผลลัพธ์น่าเชื่อถือเพียงใด จากนั้นจึงรวมเอาผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าด้วยกันและดูผลลัพธ์ในภาพรวม

สิ่งที่พบ

ผู้วิจัยรวบรวมการศึกษา 33 ฉบับซึ่งมีเด็กรวม 25,827 คน การศึกษาเหล่านี้อยู่ในยุโรป, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่ศึกษาในโรงพยาบาลเด็ก การดูแลผิวถูกเปรียบเทียบกับการไม่มีการดูแลผิว หรือการดูแลตามปกติ (การดูแลมาตรฐาน) และระยะเวลาในการรักษาและติดตามผลมีตั้งแต่ 24 ชั่วโมงถึง 2 ปี การศึกษาจำนวนมาก (13 ฉบับ) ทดสอบการใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น ส่วนการศึกษาอื่นๆ ทดสอบการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและทำความสะอาดเป็นหลัก รวมไปถึงความถี่ในการใช้

ผู้วิจัยรวบรวมผลการศึกษา 11 ฉบับ ซึ่งมี 8 ฉบับที่รวมเอาเด็กที่คิดว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผื่นผิวหนังอักเสบหรือการแพ้อาหาร

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร

เมื่อเทียบกับการไม่มีการดูแลผิวหรือการดูแลแบบมาตรฐาน พบว่าครีมให้ความชุ่มชื้น:

• อาจไม่ลดความเสี่ยงของการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบในช่วงอายุ 1 ถึง 2 ปี (การศึกษา 7 ฉบับ; ทารก 3075 คน) รวมทั้งระยะเวลาก่อนที่จะเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ (การศึกษา 9 ฉบับ; ทารก 3349 คน);

• อาจเพิ่มการเกิดปฏิกิริยาเฉียบพลันต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารที่พบบ่อย ในช่วงอายุสองปีตามรายงานของพ่อแม่ (การศึกษา 1 ฉบับ; ทารก 1171 คน);

• อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังมากขึ้น (การศึกษา 6 ฉบับ; ทารก 2728 คน);

• อาจเพิ่มผลข้างเคียง เช่น ความรู้สึกแสบร้อน หรืออาการแพ้ครีมให้ความชุ่มชื้น (การศึกษา 4 ฉบับ; ทารก 343 คน); และ

• อาจเพิ่มโอกาสที่ทารกจะลื่นล้ม (การศึกษา 4 ฉบับ; ทารก 2538 คน)

ผู้วิจัยไม่แน่ใจว่าการดูแลผิวจะส่งผลต่อโอกาสในการเกิดอาการแพ้อาหารตามที่นักวิจัยประเมินไว้ (การศึกษา 1 ฉบับ; ทารก 996 คน) หรือความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร (การศึกษา 2 ฉบับ; ทารก 1055 คน) ที่อายุ 1 ถึง 2 ปีหรือไม่

ความเชื่อมั่นในผลลัพธ์

ผู้วิจัยค่อนข้างมั่นใจในผลลัพธ์เกี่ยวกับโอกาสเกิดผื่นผิวหนังอักเสบและระยะเวลาก่อนที่จะเกิดผื่น แต่ข้อสรุปนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้หากมีหลักฐานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยไม่ค่อยมีความมั่นใจในผลลัพธ์เกี่ยวกับการแพ้อาหาร หรือความไวต่อการแพ้อาหาร ซึ่งมาจากการศึกษาจำนวนน้อยที่มีผลลัพธ์ที่หลากหลาย ผลลัพธ์เหล่านี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหากมีหลักฐานเพิ่มเติม ผู้วิจัยมั่นใจระดับปานกลางเกี่ยวกับการติดเชื้อที่ผิวหนัง แต่ความมั่นใจต่ำเกี่ยวกับอาการแสบ หรือแพ้ และการลื่นล้ม

บทนำ

ผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) และการแพ้อาหารเป็นโรคทั่วไปที่มักเกิดในเด็กปฐมวัย และมักพบร่วมกันในคนคนเดียวกัน ซึ่งอาจสัมพันธ์กับเกราะป้องกันผิวที่บอบบางในวัยทารก ทว่า ยังไม่ชัดเจนว่าการพยายามป้องกันหรือรักษาเกราะป้องกันผิวตั้งแต่ช่วงหลังคลอดจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบหรือการแพ้อาหารหรือไม่

วัตถุประสงค์

วัตถุประสงค์หลัก

เพื่อประเมินผลของการดูแลผิววิธีต่างๆ เช่น การใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น สำหรับการป้องกันแบบปฐมภูมิต่อการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบและการแพ้อาหารในทารก

วัตถุประสงค์รอง

เพื่อระบุลักษณะของประชากร เช่น อายุ, ความเสี่ยงทางกรรมพันธ์ และความสม่ำเสมอต่อการรักษาที่จะสัมพันธ์กับ
ประโยชน์หรือผลข้างเคียงที่สำคัญในการรักษาทั้งผื่นผิวหนังอักเสบและอาการแพ้อาหาร

วิธีการสืบค้น

ผู้วิจัยสืบค้นในฐานข้อมูลต่อไปนี้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2020: Cochrane Skin Specialized Register, CENTRAL, MEDLINE และ Embase นอกจากนี้ผู้วิจัยยังสืบค้นจาก 2 ฐานข้อมูลลงทะเบียนงานวิจัย (trials registers) และตรวจสอบรายการเอกสารอ้างอิงของการศึกษาที่เข้าเกณฑ์และการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาการทดลองแบบ randomised controlled trials (RCTs) ที่เกี่ยวข้อง และยังได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้เพื่อค้นหาการทดลองที่วางแผนไว้และเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองที่ยังไม่ได้เผยแพร่หรือที่กำลังดำเนินการอยู่

เกณฑ์การคัดเลือก

RCTs ของการดูแลผิวที่อาจเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกราะป้องกันผิว ลดความแห้งกร้าน หรือลดการอักเสบที่ไม่แสดงอาการในทารก (อายุ 0 ถึง 12 เดือน) ที่คลอดครบกำหนด (คลอดอายุครรภ์ > 37 สัปดาห์) และมีสุขภาพดี โดยไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผื่นผิวหนังอักเสบ, การแพ้อาหารหรือโรคผิวหนังอื่นๆ มาก่อน ตัวเปรียบเทียบคือการดูแลตามมาตรฐานในแต่ละแห่งหรือไม่ได้ให้การดูแลผิว ประเภทของการดูแลผิว ได้แก่ การทาครีมให้ความชุ่มชื้น (moisturisers/emollients); การใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ; คำแนะนำเกี่ยวกับการลดการใช้สบู่และความถี่ในการอาบน้ำ; และการใช้น้ำกรอง (water softerner) โดยไม่มีขั้นต่ำของจำนวนครั้งที่นัดติดตามผล

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

การทบทวนวรรณกรรมนี้คือการวิเคราะห์แบบ prospective individual participant data (IPD) meta-analysis โดยใช้วิธีการมาตรฐานของ Cochrane และการวิเคราะห์หลักใช้ชุดข้อมูลของ IPD ผลลัพธ์หลักคือ อุบัติการณ์สะสมของการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ และอุบัติการณ์สะสมของการแพ้อาหารที่เกิดจาก immunoglobulin (Ig) E-mediated ภายในอายุ 1 ถึง 3 ปี ซึ่งทั้งสองผลลัพธ์ประเมินที่ระยะเวลาที่ใกล้เคียงอายุ 2 ปีมากที่สุด ผลลัพธ์รองรวมถึง เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในช่วงที่ได้รับการรักษา; ความรุนแรงของผื่นผิวหนังอักเสบ (ประเมินโดยแพทย์); รายงานจากผู้ปกครองเกี่ยวกับความรุนแรงของผื่นผิวหนังอักเสบ; เวลาเริ่มเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ; รายงานจากผู้ปกครองเกี่ยวกับการแพ้อาหารแบบเฉียบพลัน; และความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารหรือที่สูดดม

ผลการวิจัย

การทบทวนนี้มาจากการศึกษาแบบ RCT 33 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วยผู้เข้าร่วม 25,827 คน มีการศึกษา 17 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 5823 คน) รายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์อย่างน้อย 1 รายการที่ระบุไว้ในการทบทวนนี้ และมีการศึกษา 11 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 5217 คน) (ที่ซึ่งการศึกษา 10 ฉบับให้ข้อมูลแบบ IPD) ที่อยู่ในการวิเคราะห์เมตต้าอย่างน้อย 1 รายการ (มีตั้งแต่ 2 ถึง 9 การศึกษาต่อการวิเคราะห์ individual meta-analysis)

การศึกษาส่วนใหญ่ศึกษาในโรงพยาบาลเด็ก และการรักษาทั้งหมดถูกเปรียบเทียบกับการไม่มีการดูแลผิว หรือการดูแลตามมาตรฐานในแต่ละพื้นที่ จากการศึกษา 17 ฉบับที่รายงานผลลัพธ์ของที่ผู้วิจัยสนใจ มีอยู่ 13 ฉบับที่ศึกษาการใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น, การศึกษา 25 ฉบับ ซึ่งรวมถึงการศึกษาที่ถูกนำข้อมูลไปวิเคราะห์เมตต้า ศึกษาในเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 3 สัปดาห์ ซึ่งถูกสุ่มให้ได้รับการดูแลผิวหรือการดูแลผิวทารกตามมาตรฐาน, การศึกษา 8 ใน 11 ฉบับที่อยู่ในการวิเคราะห์เมตต้า รวมเอาทารกที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นผื่นผิวหนังอักเสบหรือการแพ้อาหาร แม้ว่าคำจำกัดความของความเสี่ยงสูงจะแตกต่างกันในแต่ละการศึกษา, ระยะเวลาของการรักษาและการติดตามผลอยู่ระหว่าง 24 ชั่วโมงถึง 2 ปี

ผู้วิจัยประเมินว่าหลักฐานส่วนใหญ่ของการทบทวนนี้มีความน่าเชื่อถือต่ำหรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติ ส่วนใหญ่มักเกิดจาก การขาดการอำพรางของผู้ประเมินผลลัพธ์ หรือมีข้อมูลที่ขาดหายไปอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการวัดผล แต่ได้รับการตัดสินว่าไม่น่าจะส่งผลในข้อสรุปของงานวิจัยนั้น หลักฐานสำหรับผลลัพธ์หลักเกี่ยวกับการแพ้อาหารได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอคติ เนื่องจากมาจากการศึกษาเพียง 1 ฉบับซึ่งมีข้อสรุปที่หลากหลายเมื่อมีการตั้งสมมติฐานที่แตกต่างกันเกี่ยวกับข้อมูลที่ขาดหายไป

การดูแลผิวในช่วงวัยทารกอาจไม่ลดความเสี่ยงต่อผื่นผิวหนังอักเสบเมื่ออายุ 1 ถึง 2 ปี (risk ratio (RR) 1.03, 95% confidence interval (CI) 0.81 ถึง 1.31; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง; ผู้เข้าร่วม 3075 คน, การศึกษา 7 ฉบับ) และไม่ลดระยะเวลาในการเริ่มเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ (hazard ratio 0.86, 95% CI 0.65 ถึง 1.14; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง; ผู้เข้าร่วม 3349 คน, การศึกษา 9 ฉบับ) และยังไม่ชัดเจนว่าการดูแลผิวในช่วงวัยทารกจะลดความเสี่ยงต่อการแพ้อาหารแบบ IgE-mediated หรือไม่ในช่วงอายุ 1 ถึง 2 ปี (RR 2.53, 95% CI 0.99 ถึง 6.47; ผู้เข้าร่วม 996 คน, การศึกษา 1 ฉบับ) หรือความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารที่อายุ 1 ถึง 2 ปี (RR 0.86, 95% CI 0.28 ถึง 2.69; ผู้เข้าร่วม 1055 คน, การศึกษา 2 ฉบับ) เนื่องจากมีหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมากสำหรับผลลัพธ์เหล่านี้, การดูแลผิวในช่วงวัยทารกอาจเพิ่มความเสี่ยงของการรายงานของผู้ปกครองเกี่ยวกับการอาการแพ้เฉียบพลันต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารในช่วงอายุ 2 ปี (RR 1.27, 95% CI 1.00 ถึง 1.61; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ; ผู้เข้าร่วม 1171 คน, การศึกษา 1 ฉบับ) อย่างไรก็ตาม มีรายงานเฉพาะการแพ้นมวัวเท่านั้น ซึ่งอาจไม่น่าเชื่อถือเนื่องจากมักมีรายงานการแพ้นมวัวในทารกที่มากเกินจริง, การดูแลผิวในช่วงวัยทารกอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังในช่วงที่ได้รับการดูแล (RR 1.34, 95% CI 1.02 ถึง 1.77; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง, ผู้เข้าร่วม 2728 คน, การศึกษา 6 ฉบับ) และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้มของทารกในช่วงที่ได้รับการดูแลผิว (RR 1.42, 95% CI 0.67 ถึง 2.99; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ; ผู้เข้าร่วม 2538 คน, การศึกษา 4 ฉบับ) หรือการเกิดอาการแสบหรือแพ้ครีมให้ความชุ่มชื้น (RR 2.24, 95% 0.67 ถึง 7.43; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ; ผู้เข้าร่วม 343 คน, การศึกษา 4 ฉบับ) แม้ว่า confidence intervals สำหรับการลื่นล้มและอาการแสบหรือแพ้นั้นกว้าง และรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะไม่มีผลหรือลดความเสี่ยงก็ตาม

การวิเคราะห์กลุ่มย่อยที่วางแผนไว้ล่วงหน้าแสดงให้เห็นว่าผลของการดูแลผิวไม่ได้รับอิทธิพลจากอายุ, ระยะเวลาของการให้การดูแลผิว, ความเสี่ยงทางพันธุกรรม, การกลายพันธุ์ของยีน FLG, หรือการจำแนกประเภทของการดูแลผิวที่เสี่ยงต่อการเกิดผื่น ผู้วิจัยไม่สามารถประเมินผลกระทบเหล่านี้ต่อความเสี่ยงต่อการแพ้อาหารได้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะแสดงว่าความสม่ำเสมอของการให้การดูแลผิวมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลผิวและความเสี่ยงต่อการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบหรือการแพ้อาหาร

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การดูแลผิว เช่น การทาครีมให้ความชุ่มชื้นในขวบปีแรกของทารกที่มีสุขภาพดี อาจไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนัง แต่ผลของการดูแลผิวต่อความเสี่ยงของการแพ้อาหารนั้นยังไม่แน่นอน

จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีการอื่นๆ ในการดูแลผิวของทารกที่อาจส่งเสริมหรือป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบ และเพื่อประเมินผลกระทบต่อการแพ้อาหารโดยใช้การประเมินผลที่ค่อนข้างรัดกุม

บันทึกการแปล

ผู้แปล นพ.จักรพงศ์ รู้ปิติวิริยะ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2021

การอ้างอิง
Kelleher MM, Phillips R, Brown SJ, Cro S, Cornelius V, Carlsen KC Lødrup, Skjerven HO, Rehbinder EM, Lowe AJ, Dissanayake E, Shimojo N, Yonezawa K, Ohya Y, Yamamoto-Hanada K, Morita K, Axon E, Cork M, Cooke A, Van Vogt E, Schmitt J, Weidinger S, McClanahan D, Simpson E, Duley L, Askie LM, Williams HC, Boyle RJ. Skin care interventions in infants for preventing eczema and food allergy. Cochrane Database of Systematic Reviews 2022, Issue 11. Art. No.: CD013534. DOI: 10.1002/14651858.CD013534.pub3.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า