ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

Avatar Therapy สำหรับผู้ที่เป็นโรคจิตเภทหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้อง

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

Avatar Therapy เป็นวิธีการรักษาเสริมที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่เป็นโรคจิตเภทและโรคจิตที่มีความผิดปกติทางอารมณ์หรือไม่

ความเป็นมา

อาการประสาทหลอนคือการรับรู้เสียงเมื่อไม่มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก ประมาณ 70% ของผู้ที่เป็นโรคจิตเภทมีประสบการณ์เหล่านี้ ยาอาจช่วยทำให้สิ่งเหล่านี้ลดลงหรือหายไป อย่างไรก็ตามบางคนไม่ต้องการใช้ยาและในสัดส่วนของผู้ป่วยกลุ่มน้ีอาการประสาทหลอนอาจมีผลกระทบกับพวกเขาเพียงเล็กน้อย Avatar Therapy เป็นเทคโนโลยีทดลองที่ใช้ใบหน้าของอวตาร์ที่สามารถมองเห็นหน้า ได้ยินเสียง และการให้ข้อมูลทางประสาทสัมผัสอื่น ๆ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางคอมพิวเตอร์แบบโต้ตอบ เราศึกษาผลของ Avatar Therapy ในการปรับปรุงอาการประสาทหลอนสำหรับผู้ที่เป็นโรคจิตเภท

การค้นหา

ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลของ Cochrane Schizophrenia สืบค้นผ่านฐานข้อมูลของ Cochrane Schizophrenia Group สำหรับการทดลองแบบสุ่ม (การศึกษาทางคลินิกโดยสุ่มให้คนเข้ากลุ่มบำบัดหนึ่งในสองกลุ่มขึ้นไป) ของผู้ที่เป็นโรคจิตเภทที่ได้รับ Avatar Therapy หรือการรักษาตามปกติ เราพบรายงาน 14 รายการจากการศึกษา 4 รายการ

หลักฐานที่มีอยู่เป็นปัจจุบันจนถึงเดือน เมษายน 2020

การทดลอง

การศึกษา 4 รายการ เป็นไปตามเกณฑ์การคัดเลือกของเราซึ่งการศึกษา 3 รายการ ให้ข้อมูลที่นำมาใช้ได้และอีก 1 รายการ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ความน่าเชื่อถือของหลักฐานสำหรับการศึกษาทั้ง 3 รายการที่นำมาวิเคราะห์อยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมาก ข้อมูลทั้งหมดถูกจำกัดไว้ที่ 'การรักษา 6 สัปดาห์และการติดตามผล 1 สัปดาห์' และในบางกรณีข้อมูลไม่สามารถใช้ได้ (เราติดต่อผู้เขียน) ข้อมูลที่รายงานทั้งหมดเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ของการทดลองและเห็นได้ชัดว่าเราต้องการการศึกษาเพิ่มเติมในการติดตามประเมินผลระยะกลางถึงระยะยาวเพื่อให้สามารถประมาณอัตราประสิทธิภาพของ Avatar Therapy ได้

บทสรุป

การศึกษาระยะสั้นที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้มีจำนวน 3 รายการ (ผู้เข้าร่วมวิจัย 195 คน) Avatar Therapy ได้รับการเปรียบเทียบกับการรักษาตามปกติและการให้คำปรึกษาแบบประคับประคอง หลักฐานจากการทดลองมีคุณภาพไม่สูง แม้ว่าจะมีข้อเสนอแนะบางประการเกี่ยวกับผลลัพธ์ในเชิงบวกเนื่องจากความไม่ชัดเจนสำหรับโปรแกรมการดูแลและความเสี่ยงของการมีอคติของแต่ละผลลัพธ์ เราไม่สามารถมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์เหล่านี้ มีความเสี่ยงอย่างมากที่ Avatar Therapy ก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่ได้รับการบำบัด จำเป็นต้องมีการทดลองเพิ่มเติมและผู้ที่ดำเนินการวิจัยควรร่วมมือทำงานร่วมกับทุกคนที่เกี่ยวข้องเพื่อเลือกผลลัพธ์ที่มีความหมายในชีวิตประจำวันของผู้ป่วยและการออกแบบการศึกษาที่จะให้ข้อมูลโปรแกรมการทดลองที่ชัดเจนตลอดเดือนถึงปีสำหรับทุกคนที่สนใจ

บทนำ

หลายคนที่เป็นโรคจิตเภทไม่ได้รับการปรับปรุงสภาพจิตที่น่าพอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการของการได้ยินเสียง (หูแว่ว) เมื่อได้รับการรักษาทางการแพทย์

วัตถุประสงค์

เพื่อศึกษาประสิทธิผลของ Avatar Therapy สำหรับผู้ที่เป็นโรคจิตเภทหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้อง

วิธีการสืบค้น

ในเดือนธันวาคม 2016 พฤศจิกายน 2018 และเมษายน 2019 มีการสืบค้นทะเบียนการทดลองจากการศึกษาของ Cochrane Schizophrenia Group (รวมถึงการลงทะเบียนของการทดลองทางคลินิก) ผู้เขียนสืบค้นจากรายการการอ้างอิงของรายงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อสืบค้นหาการศึกษาเพิ่มเติมและติดต่อผู้เขียนการทดลองเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

เกณฑ์การคัดเลือก

เพื่อศึกษาประสิทธิผลของ Avatar Therapy ที่ใช้การทดลองแบบสุ่มสำหรับผู้ที่เป็นโรคจิตเภทหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้อง

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวนวรรณกรรมสองคนต่างคัดลอกข้อมูลอย่างเป็นอิสระต่อกัน สำหรับผลลัพธ์แบบ binary เราทำการคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยง (risk ratio; RR) และช่วงความเชื่อมั่น (CI) 95% โดยวิธีวิเคราะห์แบบ intention-to-treat สำหรับข้อมูลแบบต่อเนื่องจะรายงานด้วย mean difference (MD) ระหว่างกลุ่มและค่า 95% CIs เราใช้แบบจำลอง fixed-effect model สำหรับการวิเคราะห์ เราประเมินความเสี่ยงของการเกิดอคติของการศึกษาที่รวบรวมมาและสร้างตาราง 'สรุปผลการวิจัย' โดยใช้วิธี GRADE ผลลัพธ์หลักที่น่าสนใจของเราคือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางคลินิกใน; สภาพจิต การตระหนักรู้ในตนเอง global state คุณภาพชีวิต และการทำหน้าที่ทั่วไป ตลอดจนผลข้างเคียงและออกจากการศึกษาก่อนกำหนด

ผลการวิจัย

เราพบข้อมูลรายการอ้างอิงที่อาจเกี่ยวข้อง 14 เรื่องที่ได้มาจากการศึกษา 3 รายการ (ผู้เข้าร่วมวิจัย = 195 คน) ศึกษาเปรียบเทียบ ระหว่าง Avatar Therapy กับกิจกรรมการบำบัดรูปแบบอื่น ๆ อีกสองรูปแบบ การรักษาตามปกติหรือการให้คำปรึกษาแบบประคับประคองทางจิตใจ การบำบัดแบบ Avatar Therapy และการให้คำปรึกษาแบบประคับประคอง ได้ถูกเพิ่มเติม (add-on) ไปจากการดูแลตามปกติที่ผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยได้รับ การศึกษาทั้งหมดมีความเสี่ยงของการมีอคติสูงในประเด็นเดียวหรือมากกว่าในระเบียบวิธีการวิจัย และสำหรับความเสี่ยงของการมีอคติในประเด็นอื่นๆ เช่น ผู้วิจัยจากการศึกษาหนึ่งมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบอวตาร์ที่ใช้ในการทดลอง และในการทดลองอื่น ผู้วิจัยอยู่ในระหว่างการรอดำเนินการจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับระบบอวาตาร์

1. Avatar Therapy เปรียบเทียบกับการรักษาตามปกติ

เมื่อเปรียบเทียบ Avatar Therapy กับการรักษาตามปกติค่าเฉลี่ยในการประเมินครั้งสุดท้ายของ Positive และ Negative Syndrome Scale - คะแนนด้านอาการทางบวก (PANSS-P) ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม (MD –1.93, 95% CI –5.10 ถึง 1.24; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 19 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) การวัดการตระหนักรู้ในตนเอง (Revised Beliefs about Voices Questionnaire; BAVQ-R) แสดงให้เห็นผลในการสนับสนุน Avatar Therapy (MD –5.97, 95% CI –10.98 ถึง –0.96; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 19 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำมาก ) ไม่มีผู้เข้าร่วมวิจัยคนใดทั้งในกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อประเมินผลในระยะสั้น (ความแตกต่างของความเสี่ยง (RD) 0.00, 95% CI –0.20 ถึง 0.20; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 19 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำ) จำนวนผู้ร่วมวิจัยที่ออกจากการศึกษาก่อนกำหนดของแต่ละกลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างชัดเจน - แม้ว่าผู้ร่วมวิจัยในกลุ่ม Avatar Therapy จะมีจำนวนคนออกจากการศึกษามากกว่า (6/14 เทียบกับ 0/12; RR 11.27, 95% CI 0.70 ถึง 181.41; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 26 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำ) ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสองกลุ่มที่ประเมินภาวะวิตกกังวล (MD 5.54, 95% CI 0.34 ถึง 89.80; ผู้เข้าร่วมวิจัย = 19 คน; การศึกษา = 1 รายการ, หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) สำหรับคุณภาพชีวิต ค่าเฉลี่ยคุณภาพชีวิตในประเด็นความเพลิดเพลินใจและแบบสอบถามความพึงพอใจ - แบบฟอร์มสั้น (QLESQ-SF) กลุ่มที่ได้รับ Avatar Therapy มีค่าคะแนนมากกว่า (MD 9.99, 95% CI 3.89 ถึง 16.09; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 19 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำมาก ) ไม่มีการศึกษารายงานข้อมูลสำหรับการทำหน้าที่ทั่วไป

2. Avatar Therapy เปรียบเทียบกับการให้คำปรึกษาแบบประคับประคอง

เมื่อเปรียบเทียบ Avatar Therapy กับการให้คำปรึกษาแบบประคับประคอง (ระยะสั้นทั้งหมด) สภาวะทางจิตโดยทั่วไป (Psychotic symptomsom Rating Scale (PSYRATS)) กลุ่ม Avatar Therapy มีค่าคะแนนดีกว่า (MD –4.74, 95% CI –8.01 ถึง –1.47; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 124 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำ) สำหรับการตระหนักรู้ในตนเอง (BAVQ-R) กลุ่ม Avatar Therapy มีผลดีกว่าเล็กน้อย (MD –8.39, 95% CI –14.31 ถึง –2.47; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 124 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำ) ประมาณ 20% ของแต่ละกลุ่มมีการออกจากการศึกษาก่อนกำหนด (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 1.06, 95% CI 0.59 ถึง 1.89; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 150 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับปานกลาง) การวิเคราะห์คะแนนคุณภาพชีวิต (Manchester Short Assessment of Quality of Life (MANSA)) ไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างกลุ่ม (MD 2.69, 95% CI –1.48 ถึง 6.86; การศึกษา = 1 รายการ, ผู้เข้าร่วมวิจัย = 120 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นในระดับต่ำ) ไม่มีข้อมูลสำหรับอัตราการกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลซ้ำ และเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับการทำหน้าที่ทั่วไป

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ของเราแสดงให้เห็นประสิทธิผลเพียงเล็กน้อยของ Avatar Therapy สำหรับผู้ที่เป็นโรคจิตเภทที่มีอาการประสาทหลอนทางการได้ยิน ในกรณีที่แสดงว่ามีประสิทธิผล หรือ ให้ข้อเสนอแนะว่ามีผลดี เราไม่แน่ใจเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอคติและความหมายผลลัพธ์ทางคลินิกที่ไม่ชัดเจน ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลัง Avatar Therapy นั้นน่าสนใจ แต่การนำไปปฏิบัตินั้นจำเป็นต้องมีการทดสอบในการทดลองแบบสุ่มที่มีขนาดกลุ่มตัวอย่างใหญ่ ประเมินผลระยะยาว มีการออกแบบการวิจัยมาอย่างดีโดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ริเริ่มการพัฒนาโปรแกรม แต่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมกำกับของผู้ริเริ่มพัฒนา Avatar Therapy

บันทึกการแปล

แปลโดย สมพร รุ่งเรืองกลกิจ ภาควิชาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 17 เมษายน 2021

Citation
Aali G, Kariotis T, Shokraneh F. Avatar Therapy for people with schizophrenia or related disorders. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 5. Art. No.: CD011898. DOI: 10.1002/14651858.CD011898.pub2.