ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การแทรกแซงการจัดการของเหลวรอบปอด (น้ำเยื่อหุ้มปอด) ที่เกิดจากมะเร็ง

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

เราทบทวนหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิผลของวิธีการต่างๆ ในการจัดการการสะสมของของเหลวรอบปอดในผู้ที่สาเหตุนี้เกิดจากมะเร็ง

ความเป็นมา

Malignant pleural effusion (MPE) เป็นภาวะที่เกิดในผู้ที่เป็นมะเร็งเยื่อบุปอด ซึ่งอาจทำให้ของเกิดเหลวสะสมในช่องว่างระหว่างด้านนอกของปอดและซี่โครง (ช่องเยื่อหุ้มปอด) ซึ่งมักส่งผลให้หายใจไม่ออก ตัวเลือกการรักษาเน้นที่การควบคุมอาการ ซึ่งรวมถึงการกำจัดของเหลวโดยใช้ท่อระบายน้ำทรวงอกชั่วคราว การตรวจด้วยกล้องส่องช่องเยื่อหุ้มปอด (thoracoscopy) หรือท่อระบายน้ำหน้าอกกึ่งถาวรที่เจาะใต้ผิวหนัง (สายสวนเยื่อหุ้มปอดที่อยู่ภายใน) การนำสารเคมีใส่เข้าไปในโพรงเยื่อหุ้มปอดยังสามารถใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวกลับมา (pleurodesis) เราต้องการทราบว่าวิธีใดมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันการสะสมของของเหลวซ้ำ (ความล้มเหลวของ pleurodesis) และวิธีใดดีที่สุดในแง่ของผลข้างเคียง (รวมถึงความเจ็บปวดและมีไข้) และผลลัพธ์ที่สำคัญอื่นๆ เช่น การหายใจไม่ออกและคุณภาพชีวิต

ลักษณะของการศึกษา

เราทำการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อตอบข้อสงสัย เรามีความสนใจในการวิจัยคุณภาพสูง ดังนั้นจึงค้นหาเฉพาะการศึกษาทดลองที่มีกลุ่มควบคุมแบบสุ่ม เราวิเคราะห์ข้อมูลส่วนใหญ่โดยใช้ 'การวิเคราะห์เมตาของเครือข่าย' ซึ่งช่วยให้เปรียบเทียบวิธีการต่างๆ มากมายในการวิเคราะห์ครั้งเดียว การวิเคราะห์นี้จัดลำดับของวิธีการที่ใช้ (interventions) ตามประสิทธิภาพ

ความเชื่อมั่นของหลักฐาน

เราให้คะแนนความเชื่อมั่นของหลักฐานจากการศึกษาเป็น 4 ระดับ ดังนี้ คือ ต่ำมาก ต่ำ ปานกลาง หรือสูง หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก หมายความว่า เราไม่เชื่อมั่นอย่างมากเกี่ยวกับผลลัพธ์ หลักฐานมีความเชื่อมั่นสูง หมายความว่า เราเชื่อมั่นในผลลัพธ์อย่างมาก การศึกษาจำนวนมากมีคุณภาพต่ำและการศึกษาแต่ละเรื่องมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้ยากต่อการหาข้อสรุปที่แน่ชัด

ผลลัพธ์สำคัญ

จากการค้นหาของเราในเดือนมิถุนายน 2019 เราพบการศึกษา 80 ฉบับ (การศึกษาใหม่ 18 ฉบับ) ที่มีผู้เข้าร่วม 5507 คน (ผู้เข้าร่วมใหม่ 2079 คน)

ในการ network meta-analysis เราพบว่าการให้แป้งทางท่อระบายใส่ที่หน้าอกหลังจากระบายของเหลวออก (talc slurry) ส่งผลให้ pleurodesis ล้มเหลวน้อยกว่าวิธีอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป เช่น ยาด็อกซีไซคลินหรือบลีโอมัยซินทางท่ออก (ความเชื่อมั่นต่ำ) การใช้วิธีการส่องกล้องที่ทรวงอกเพื่อเอาของเหลวออกและเป่าแป้งไปในช่องอก ((talc poudrage) มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพเท่ากับ talc slurry (ความเชื่อมั่นปานกลาง)

เรามีความเชื่อมั่นในระดับต่ำว่าความเสี่ยงของการมีไข้จะใกล้เคียงกันระหว่างการรักษา อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างการรักษาที่มีโอกาสเกิดอาการปวด (ความเชื่อมั่นต่ำสำหรับบลีโอมัยซิน, ไอพีซี และด็อกซีไซคลิน ความเชื่อมั่นต่ำมากสำหรับ talc poudrage)

การใช้ IPC ซึ่งช่วยให้ระบายของเหลวที่บ้านเป็นระยะๆ อาจบรรเทาอาการหอบได้มากเท่ากับขั้นตอนการใช้ talc slurry (ความเชื่อมั่นต่ำ)

อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างวิธีการรักษาเมื่อเปรียบเทียบกับ talc slurry (ความเชื่อมั่นต่ำสำหรับ bleomycin และ IPC ที่ไม่มีการระบายน้ำทุกวัน); ความเชื่อมั่นต่ำมากสำหรับ talc poudrage และด็อกซีไซคลิน

โอกาสที่จะต้องใช้ขั้นตอนการบุกรุกอื่นเพื่อเอาของเหลวออกหลังจากใช้ IPC ต่ำกว่าหลังจากทำ talc slurry pleurodesis (ความเชื่อมั่นปานกลาง)

บทสรุป

หลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่า talc poudrage และ talc slurry เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการ MPE โดยมีอัตราความล้มเหลวของpleurodesis ต่ำกว่าวิธีอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป อย่างไรก็ตาม การพิจารณาประสบการณ์ทั่วไปของสารเหล่านี้และความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยและผลข้างเคียงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ในการเลือกวิธีการทำ pleurodesis ที่เหมาะสมที่สุด

IPCs มีโอกาสน้อยที่จะป้องกันไม่ให้ของเหลวในเยื่อหุ้มปอดสะสมซ้ำเมื่อเทียบกับ talc slurry แต่อาจช่วยการหายใจไม่ออกได้ดี ผู้ที่มี IPC มักจะไม่ต้องการขั้นตอนหรือวิธีการบุกรุก (invasive procedure) อื่นในอนาคตเพื่อจัดการกับน้ำในเยื่อหุ้มปอด

จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อดูกลุ่มผู้ป่วยเฉพาะและสำรวจผลลัพธ์ เช่น การหายใจไม่ออกและคุณภาพชีวิตโดยละเอียดยิ่งขึ้น ความเข้าใจที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาจากมุมมองของผู้ป่วยก็จะเป็นประโยชน์เช่นกัน

บทนำ

Malignant pleural effusion (MPE) เป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งและมักเกี่ยวข้องกับการหายใจไม่ออก มีตัวเลือกการรักษาจำนวนหนึ่งเพื่อจัดการการสะสมของของเหลวในเยื่อหุ้มปอดที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งรวมถึงการให้สารทำให้เยื่อหุ้มปอดเกิดการอักเสบและติดกันเพื่อลดการสะสมของของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอด (pleurodesis ) (ผ่านทางท่อหน้าอกหรือส่องกล้องผ่านทรวงอก) หรือการจัดวางสายสวนเยื่อหุ้มปอด (IPC) นี่เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมที่เผยแพร่ในฉบับที่ 5 ปี 2016 ซึ่งแทนที่การทบทวนเดิมที่เผยแพร่ในปี 2004

วัตถุประสงค์

เพื่อตรวจสอบกลยุทธ์การจัดการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำในเยื่อหุ้มปอดที่เกิดจากมะเร็งในแง่ของความสำเร็จของการทำ pleurodesis และเพื่อหาปริมาณความแตกต่างในผลลัพธ์ที่ผู้ป่วยรายงานและผลกระทบระหว่างสิ่งแทรกแซง

วิธีการสืบค้น

เราสืบค้น CENTRAL, MEDLINE (Ovid), Embase (Ovid) และฐานข้อมูลอื่นๆ อีก 3 แห่งจนถึงเดือนมิถุนายน 2019 เราคัดกรองรายการอ้างอิงจากสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ และค้นหาทะเบียนการทดลอง

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวบรวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมเกี่ยวกับวิธีการที่ใช้ในการจัดการน้ำในเยื่อหุ้มปอดสำหรับผู้ใหญ่ที่มีอาการจาก MPE โดยเปรียบเทียบประเภทของสารที่ใช้เป็น sclerosant วิธีการบริหารยา (mode of administration) และการใช้ IPC

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวน 2 คนดึงข้อมูลอย่างอิสระต่ออกัน โดยดึงข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบการศึกษา ลักษณะเฉพาะ การวัดผลลัพธ์ ตัวดัดแปลงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และความเสี่ยงของอคติ

ผลลัพธ์หลักคืออัตราความล้มเหลวของการทำ pleurodesis ผลลัพธ์รอง ได้แก่ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ การควบคุมอาการหายใจไม่ออกซึ่งรายงานโดยผู้ป่วย คุณภาพชีวิต ค่าใช้จ่าย การเสียชีวิต การรอดชีวิต ระยะเวลาการพักรักษาตัวผู้ป่วยใน และการยอมรับของผู้ป่วย

เราทำการวิเคราะห์อภิมานเครือข่ายของข้อมูลผลลัพธ์หลักและผลลัพธ์รองเมื่อมีข้อมูลที่เพียงพอ เรายังทำการวิเคราะห์แบบ pair-wise meta-analyses ของข้อมูลการเปรียบเทียบโดยตรง หากเราพบว่าวิธีการที่ใช้ (interventions) ไม่สามารถสุ่มร่วมกันได้ หรือเราพบว่ามีข้อมูลไม่เพียงพอ เราจะรายงานผลลัพธ์โดยวิธีการสังเคราะห์แบบพรรณนา สำหรับผลลัพธ์หลัก เราทำการวิเคราะห์ความไวเพื่อสำรวจสาเหตุที่เป็นไปได้ของความหลากหลายและเพื่อประเมินสารที่ใช้ทำให้เยื่อหุ้มปอดอักเสบที่ฉีดผ่านท่ออกเท่านั้น

เราประเมินความแน่นอนของหลักฐานโดยใช้ GRADE

ผลการวิจัย

เราพบการทดลองแบบสุ่ม 80 ฉบับ (การศึกษาใหม่ 18 ฉบับ) มีผู้เข้าร่วม 5507 คน เราพบทั้งหมดยกเว้นการศึกษา 3 ฉบับที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอคติสูงหรือไม่ชัดเจนอย่างน้อยหนึ่งโดเมน เนื่องจากธรรมชาติของวิธีการที่ใช้ (interventions) การศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้ปิดบังกลุ่มการศึกษา

อัตราความล้มเหลวของ Pleurodesis

เรารวมการศึกษา 55 ฉบับ ที่มีวิธีการที่ใช้ 21 แบบ ในการวิเคราะห์ primary network meta-analysis เราประเมินอันดับของประสิทธิผลของวิธีการที่ใช้แต่ละอย่าง Talc slurry (อันดับที่ 6 ช่วงที่น่าเชื่อถือ 95% (Cr-I) 3 ถึง 10) เป็นสารช่วยเยื่อหุ้มปอดที่มีประสิทธิผล (ความเชื่อมั่นปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก) และอาจส่งผลให้เยื่อหุ้มปอดล้มเหลวน้อยกว่าบลีโอมัยซินและด็อกซีไซคลิน (บลีโอมัยซินเทียบกับ Talc slurry: อัตราต่อรอง(OR) 2.24, 95% Cr-I 1.10 ถึง 4.68; ความเชื่อมั่นต่ำ; อันดับ 11, 95% Cr-I 7 ถึง 15; doxycycline เทียบกับ talc slurry: OR 2.51, 95% Cr-I 0.81 ถึง 8.40; ความเชื่อมั่นต่ำ; อันดับที่ 12, 95% Cr-I 5 ถึง 18)

มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างอัตราความล้มเหลวของเยื่อหุ้มปอดอักเสบจาก talc poudrage และ talc slurry (OR 0.50, 95% Cr-I 0.21 ถึง 1.02; ความเชื่อมั่นปานกลาง) หลักฐานสำหรับความแตกต่างใดๆ ลดลงอีกเมื่อจำกัดการวิเคราะห์เฉพาะการศึกษาที่มีความเสี่ยงของการเกิดอคติต่ำ (กำหนดเป็นโดเมนที่มีความเสี่ยงสูงสูงสุด 1 รายการในความเสี่ยงของการประเมินอคติ) (ความล้มเหลวของ pleurodesis เทียบระหว่าง การส่องกล้องที่ทรวงอกเพื่อเอาของเหลวออกและเป่าแป้งไปในช่องอก (talc poudrage) และ talc slurry (การให้แป้งทางท่อระบายใส่ที่หน้าอกหลังจากระบายของเหลวออก) : OR 0.78, 95% Cr-I 0.16 ถึง 2.08)

IPC ที่ไม่มีการระบายน้ำทุกวันอาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการทำให้เกิด pleurodesis (การหยุดการระบายน้ำของเยื่อหุ้มปอดเพื่อทำให้เอาสาย IPC ออกได้) เทียนกับ talc slurry (OR 7.60, 95% Cr-I 2.96 ถึง 20.47; อันดับ = 18/21, 95% Cr-I 13 ถึง 21 ความเชื่อมั่นปานกลาง) การระบายน้ำ IPC ทุกวันหรือการใส่ talc slurryเ ผ่าน IPC มีแนวโน้มที่จะลดอัตราความล้มเหลวของ pleurodesis

ผลข้างเคียง

มีรายงานผลข้างเคียงที่ไม่สอดคล้องกัน เราทำการวิเคราะห์ network meta-analyses สำหรับความเสี่ยงของการมีไข้และปวดที่เกี่ยวข้องกับหัตถการ

หลักฐานความเสี่ยงต่อการเป็นไข้มีความเชื่อมั่นต่ำ แต่อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างวิธีการที่ใช้ที่สัมพันธ์กับ talc slurry (talc poudrage: OR 0.89, 95% Cr-I 0.11 ถึง 6.67; Bleomycin: OR 2.33, 95% Cr-I 0.45 ถึง 12.50; IPC: OR 0.41, 95% Cr-I 0.00 ถึง 50.00; Doxyxycline: OR 0.85, 95% Cr-I 0.05 ถึง 14.29)

หลักฐานยังชี้ให้เห็นว่าอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างวิธีการที่ใช้ในเรื่องความเสี่ยงของการเกิดความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับวิธีทำเมื่อเทียบกับ talc slurry (talc poudrage: OR 1.26, 95% Cr-I 0.45 ถึง 6.04; ความเชื่อมั่นต่ำมาก Bleomycin: OR 2.85, 95% Cr-I 0.78 ถึง 11.53; ความเชื่อมั่นต่ำ IPC: OR 1.30, 95% Cr-I 0.29 ถึง 5.87; ความเชื่อมั่นต่ำ Doxycycline: OR 3.35, 95% Cr-I 0.64 ถึง 19.72; ความเชื่อมั่นต่ำ)

การควบคุมการหายใจไม่ออกที่รายงานโดยผู้ป่วย

การวิเคราะห์ pair-wise meta-analysis ชี้ว่าไม่น่าจะมีความแตกต่างในการควบคุมการหายใจไม่ออก เมื่อเทียบกับ talc slurry ของ talc poudrage (ความแตกต่างเฉลี่ย (MD) 4.00 มม., 95% CI –6.26 ถึง 14.26) ในระดับอะนาล็อกที่มองเห็นได้ 100 มม. สำหรับการหายใจลำบาก การศึกษา = 1 ฉบับ ผู้เข้าร่วม = 184 คน ความเชื่อมั่นปานกลาง) และ IPC โดยไม่มีการระบายน้ำทุกวัน (MD –6.12 มม., 95% CI –16.32 ถึง 4.08; การศึกษา = 2 ฉบับ; ผู้เข้าร่วม = 160 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ)

การเสียชีวิตโดยรวม

อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างวิธีการที่ใช้เมื่อเปรียบเทียบกับ talc slurry (bleomycin และ IPC ที่ไม่มีการระบายน้ำทุกวัน; ความเชื่อมั่นต่ำ) แต่หลักฐานไม่ชัดเจนสำหรับ talc poudrage และด็อกซีไซคลิน

การยอมรับของผู้ป่วย

การวิเคราะห์ pair-wise meta-analysis แสดงให้เห็นว่า IPC อาจส่งผลให้ลดความเสี่ยงในการต้องมีการแทรกแซงเยื่อหุ้มปอดแบบลุกลามซ้ำ (OR 0.25, 95% Cr-I 0.13 ถึง 0.48; ความเชื่อมั่นปานกลาง) เทียบกับalc slurry มีโอกาสแตกต่างกันเล็กน้อยในความเสี่ยงของการแทรกแซงเยื่อหุ้มปอดแบบลุกลามซ้ำ ด้วย talc poudrage เทียบกับ talc slurry (OR 0.96, 95% CI 0.59 ถึง 1.56; ความเชื่อมั่นปานกลาง)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

จากหลักฐานที่มีอยู่ talc poudrage และ talc slurry เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำ pleurodesis สำเร็จ โดยมีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าวิธีการอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป

IPCs เป็นแนวทางทางเลือก; ในขณะที่สัมพันธ์กับอัตราการสำเร็จของ pleudodesis ที่ด้อยกว่า การควบคุมการหายใจไม่ออก ได้ผลพอๆกัน โดยมีความเสี่ยงที่จะต้องมีการแทรกแซงเยื่อหุ้มปอดแบบลุกลามซ้ำๆต่ำกว่า

ความพร้อมใช้งานในท้องถิ่น ประสบการณ์ทั่วไปของการใช้สารต่างๆและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (ซึ่งอาจไม่พบในการทดลองแบบสุ่ม) และความชอบของผู้ป่วยควรต้องได้รับการคำนึงถึงเมื่อเลือกวิธีทำให้ผู้ป่วย

จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่ออธิบายบทบาทของการรักษาที่แตกต่างกันตามลักษณะเฉพาะของผู้ป่วย เช่น การมีปอดที่มีการปิดกั้นอบู่ การให้ความสนใจมากขึ้นกับผลลัพธ์ที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งรวมถึงอาการหายใจลำบาก คุณภาพชีวิต และความพึงพอใจของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจทางคลินิก การพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอคติและการวัดผลลัพธ์ที่เป็นมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการออกแบบการทดลองในอนาคต

บันทึกการแปล

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว Edit โดย ผกากรอง 25 ธันวาคม 2022

การอ้างอิง
Dipper A, Jones HE, Bhatnagar R, Preston NJ, Maskell N, Clive AO. Interventions for the management of malignant pleural effusions: a network meta-analysis. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 4. Art. No.: CD010529. DOI: 10.1002/14651858.CD010529.pub3.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า