ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การส่องไฟแบบไม่ต่อเนื่องเทียบกับการส่องไฟแบบต่อเนื่องสำหรับภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

ในทารกแรกเกิดที่มีภาวะตัวเหลือง การส่องไฟเป็นช่วงๆ เมื่อเทียบกับการส่องไฟแบบต่อเนื่องมีประสิทธิภาพในการลดระดับบิลิรูบินหรือไม่

ความเป็นมา

อาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิดคือการที่ผิวหนังของทารกแรกเกิดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเนื่องจากระดับบิลิรูบินสูง (สารประกอบสีเหลืองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเลือด) การส่องไฟ (การบำบัดด้วยแสง) ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับทารกแรกเกิดที่มีภาวะตัวเหลือง การส่องไฟมักใช้อย่างต่อเนื่อง แต่การส่องไฟเป็นระยะมีข้อดีบางประการ เช่น ช่วยให้แม่ให้นมทารกได้ดีขึ้นและเสริมสร้างสายสัมพันธ์แม่ลูก เราไม่ทราบว่าการส่องไฟเป็นระยะมีประสิทธิภาพเท่ากับการส่องไฟอย่างต่อเนื่องหรือไม่

ลักษณะการศึกษา

เราพบการศึกษา 33 ฉบับที่ประเมินผลของการส่องไฟเป็นระยะในทารกผ่านการค้นหาฐานข้อมูลทางการแพทย์จนถึงเดือนมกราคม 2022 ในจำนวนนี้มีการศึกษา 12 ฉบับ (รวมทารก 1600 คน) ที่เข้าเกณฑ์ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ การศึกษา 1 ฉบับกำลังดำเนินการอยู่ และอีก 4 ฉบับกำลังรอการจำแนกประเภท ผลลัพธ์หลักที่เราสนใจคืออัตราการลดลงของระดับบิลิรูบินในซีรั่มและความผิดปกติของสมองที่เกิดจากบิลิรูบิน (BIND) การค้นหาเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มกราคม 2022

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

เราพบความแตกต่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลยระหว่างการส่องไฟเป็นระยะและการส่องไฟอย่างต่อเนื่องในการลดระดับบิลิรูบิน การส่องไฟอย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพมากกว่าในทารกที่คลอดก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้ว่านี่เป็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่ การส่องไฟเป็นระยะสัมพันธ์กับจำนวนชั่วโมงรวมของการส่องไฟที่ลดลง มีประโยชน์ทางทฤษฎีต่อการรักษาโดยการส่องไฟเป็นระยะๆ แต่ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ

ความแน่นอนของหลักฐาน

เราให้คะแนนความแน่นอนของหลักฐานโดยรวมว่า 'ต่ำ' หรือ 'ต่ำมาก' จำเป็นต้องมีการทดลองขนาดใหญ่และมีคุณภาพสูงทั้งในทารกที่คลอดก่อนกำหนดและทารกครบกำหนดก่อนที่จะสามารถสรุปได้ว่าการรักษาด้วยการส่องไฟเป็นระยะและต่อเนื่องนั้นมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน

บทนำ

การส่องไฟเป็นวิธีการรักษาขั้นแรกที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด โดยทั่วไปใช้การส่องไฟแบบต่อเนื่อง แต่มีการเสนอว่าการส่องไฟเป็นระยะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันโดยมีข้อได้เปรียบในทางปฏิบัติของการให้อาหารทารกและทำให้สายสัมพันธ์ของมารดาและทารกดีขึ้น ประสิทธิภาพของการส่องไฟเป็นระยะเมื่อเปรียบเทียบกับการส่องไฟอย่างต่อเนื่องไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิผลของการบำบัดด้วยแสงแบบเป็นระยะเมื่อเปรียบเทียบกับการบำบัดด้วยแสงแบบต่อเนื่อง

วิธีการสืบค้น

ดำเนินการสืบค้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2022 ในฐานข้อมูลต่อไปนี้ CENTRAL ผ่าน CRS Web, MEDLINE และ Embase ผ่าน Ovid นอกจากนี้ เรายังค้นหาฐานข้อมูลการทดลองทางคลินิกและรายการอ้างอิงของบทความที่ดึงมาสำหรับการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (RCTs) และการทดลองกึ่งสุ่ม

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวม RCTs, cluster-RCTs และ quasi-RCTs เปรียบเทียบการบำบัดด้วยแสงแบบไม่ต่อเนื่อง (เป็นระยะ) กับการส่องไฟอย่างต่อเนื่องในทารกตัวเหลือง (ทั้งทารกคลอดครบกำหนดและคลอดก่อนกำหนด) จนถึงอายุ 30 วัน เราเปรียบเทียบการส่องไฟแบบไม่ต่อเนื่องกับการส่องไฟแบบต่อเนื่องด้วยวิธีการใดๆ และที่ปริมาณและระยะเวลาใดๆ ตามที่ผู้เขียนกำหนด

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวนสามคนเลือกการทดลองอย่างอิสระ ประเมินคุณภาพการทดลอง และดึงข้อมูลจากการศึกษาที่รวบรวม เราทำการวิเคราะห์ผลกระทบคงที่และแสดงผลการรักษาเป็นความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (MD) อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) และความแตกต่างของความเสี่ยง (RD) ด้วยช่วงความเชื่อมั่น 95% (CIs) ผลลัพธ์หลักที่เราสนใจคืออัตราการลดลงของบิลิรูบินในเลือดและเคอร์นิกเทอรัส (Kernicterus) เราใช้วิธี GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐาน

ผลการวิจัย

เรารวม RCTs 12 ฉบับ (ทารก 1600 คน) ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ มีการศึกษาที่กำลังดำเนินการอยู่ 1 ฉบับ และอีก 4 ฉบับที่กำลังรอการจำแนกประเภท มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยระหว่างการส่องไฟเป็นระยะและการส่องไฟอย่างต่อเนื่องในอัตราการลดลงของบิลิรูบินในทารกแรกเกิดที่มีภาวะตัวเหลือง (MD -0.09 ไมโครโมล/ลิตร/ชม., 95% CI -0.21 ถึง 0.03; I² = 61%; การศึกษา 10 ฉบับ; ทารก 1225 คน หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ) การศึกษา 1 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับทารก 60 ราย รายงานว่าไม่มีอุบัติการณ์ของความผิดปกติของสมองที่เกิดจากบิลิรูบิน (Bilirubin induce brain dysfunction: BIND) ไม่แน่ใจว่าการส่องไฟเป็นระยะๆ หรือต่อเนื่องจะลด BIND หรือไม่ เนื่องจากความเชื่อมั่นของหลักฐานนี้ต่ำมาก มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในความล้มเหลวของการรักษา (RD 0.03, 95% CI 0.08 ถึง 0.15; RR 1.63, 95% CI 0.29 ถึง 9.17; การศึกษา 1 ฉบับ; ทารก 75 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) หรือการตายของทารก (RD -0.01, 95% CI -0.03 ถึง 0.01; RR 0.69, 95% CI 0.37 ถึง 1.31 I² = 0%; การศึกษา 10 ฉบับ, ทารก 1470 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

หลักฐานที่มีอยู่ตรวจพบความแตกต่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลยระหว่างการส่องไฟเป็นระยะและต่อเนื่องที่เกี่ยวกับอัตราการลดลงของบิลิรูบิน การส่องไฟอย่างต่อเนื่องดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมากกว่าในทารกที่คลอดก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบความเสี่ยงของการส่องไฟอย่างต่อเนื่องและประโยชน์ที่เป็นไปได้ของระดับบิลิรูบินที่ลดลงเล็กน้อย การส่องไฟเป็นระยะสัมพันธ์กับจำนวนชั่วโมงรวมของการส่องไฟที่ลดลง มีประโยชน์ทางทฤษฎีต่อการรักษาโดยการส่องไฟเป็นระยะๆ แต่ผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอ จำเป็นต้องมีการทดลองขนาดใหญ่ที่ออกแบบอย่างดีในทารกที่คลอดก่อนกำหนดและทารกครบกำหนดก่อนที่จะสรุปได้ว่าการรักษาด้วยการส่องไฟเป็นระยะและต่อเนื่องนั้นมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน

บันทึกการแปล

แปลโดย แพทย์หญิงวิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย ผกากรอง 3 มิถุนายน 2023

Citation
Gottimukkala SB, Lobo L, Gautham KS, Bolisetty S, Fiander M, Schindler T. Intermittent phototherapy versus continuous phototherapy for neonatal jaundice. Cochrane Database of Systematic Reviews 2023, Issue 3. Art. No.: CD008168. DOI: 10.1002/14651858.CD008168.pub2.