ใจความสำคัญ
- หลักฐานชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่คนกรอกเองสามารถนำมาใช้ในการตรวจจับและวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมได้
- ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแนะนำเครื่องมือประเมินประเภทหนึ่งเหนือกว่าอีกประเภทหนึ่ง
- จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือประเมินเหล่านี้ในบริบทต่าง ๆ เช่น คลินิกหรือบ้านของผู้ป่วย รวมถึงคะแนนที่บ่งชี้ว่ามีภาวะสมองเสื่อม
เหตุใดการปรับปรุงการตรวจจับภาวะสมองเสื่อมจึงมีความสำคัญ
คาดว่าจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต เนื่องจากประชากรโลกมีอายุยืนขึ้น สิ่งนี้จะมีต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพและสังคมที่สำคัญ ภาวะสมองเสื่อมเป็นภาวะถาวรที่ความจำจะเสื่อมลงจนผู้ป่วยจะต้องได้รับความช่วยเหลือในกิจกรรมประจำวัน การวินิจฉัยที่แม่นยำและรวดเร็วช่วยให้ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมและครอบครัวสามารถเข้าถึงการรักษาและการช่วยเหลือได้ การไม่สามารถรับรู้ถึงภาวะที่เกิดขึ้น (ผลการทดสอบเป็นลบเทียม) อาจทำให้การเข้าถึงการรักษาเพื่อช่วยเรื่องความจำ ความคิด และพฤติกรรม และการเข้ารับการสนับสนุนจากบริการทางสังคม เช่น งานสังคมสงเคราะห์และกิจกรรมบำบัดล่าช้า การวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมที่ไม่ถูกต้อง (การทดสอบผลบวกเท็จ) อาจทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวเกิดความทุกข์ทางอารมณ์และจิตใจ ปัจจุบันการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมต้องได้รับการประเมินแบบพบหน้ากันที่คลินิกเฉพาะทาง โดยจะพิจารณาจากประวัติการรักษา การตรวจร่างกาย การตรวจเลือด และการสแกนสมอง
เครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจด้วยตนเองคืออะไร
เครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจด้วยตนเอง คือ การทดสอบที่บุคคลเป็นผู้ทำด้วยตนเอง ได้รับการออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถทางสมองด้านต่าง ๆ (เช่น ความรู้ความเข้าใจ) รวมถึงความจำ ภาษาและการรับรู้ เครื่องมือนี้อาจมีคำถามที่ต้องตอบหรือภารกิจที่ต้องทำให้เสร็จ เครื่องมือที่ใช้เองเหล่านี้จะไม่สามารถทดแทนการประเมินทางคลินิกโดยละเอียดที่จำเป็นสำหรับการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมได้ แต่จะมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่การประเมินแบบพบหน้ากันอาจทำได้ยาก เช่น ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ทั่วโลกหรือในพื้นที่ที่มีบริการทางการแพทย์ไม่มากนัก มีเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันทั้งเนื้อหา ระบบการให้คะแนน และรูปแบบ (อิเล็กทรอนิกส์หรือกระดาษ)
เราต้องการค้นหาอะไร
เราต้องการค้นหาว่าเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่คนสามารถทำได้เองนั้นแม่นยำแค่ไหนในการตรวจพบโรคสมองเสื่อม
เราทำอะไรบ้าง
เราค้นหาการศึกษาที่ตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่ใช้เองสำหรับภาวะสมองเสื่อมในผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปี) ในสถานพยาบาลแบบใด ๆ
เราค้นพบอะไร
เราพบการศึกษา 11 ฉบับที่มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2303 รายซึ่งทดสอบเครื่องมือ 6 รายการที่แตกต่างกัน การศึกษา 5 ฉบับได้ศึกษาแบบทดสอบที่เรียกว่า 'Test Your Memory' ซึ่งมีการทดสอบในห้าภาษาที่แตกต่างกัน การศึกษา 2 ฉบับพิจารณา "การทดสอบความรู้ความเข้าใจในวัยชราด้วยตนเอง Self-Administered Gerocognitive Examination " โดยการศึกษา 1 ฉบับทดสอบแบบทดสอบฉบับข้อเขียน และการศึกษาอีก 1 ฉบับทดสอบแบบทดสอบอิเล็กทรอนิกส์ การศึกษา 1 ฉบับได้พิจารณาเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจต่อไปนี้แต่ละรายการแยกกัน ได้แก่ 'Clock Completion Test' 'Korean Dementia Screening Questionnaire-Cognition', 'BrainCheck Memory', และ 'MyMemCheck' เครื่องมือเหล่านี้มีระบบคะแนนที่แตกต่างกัน และบางการศึกษาที่ใช้คะแนนตัดสินหลาย ๆ แบบเพื่อระบุว่าบุคคลนั้นเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ด้วยเครื่องมือแต่ละอัน
การศึกษาเกิดขึ้นที่ยุโรป สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ สถานบริการด้านสุขภาพได้แก่ ศูนย์ชุมชน บ้านพักคนชรา และคลินิกในโรงพยาบาล และการศึกษาวิจัยบางกรณียังครอบคลุมถึงสถานที่หลายแห่งด้วย อายุเฉลี่ยของผู้ที่เข้ารับการทดสอบแตกต่างกันไปในแต่ละการศึกษา ตั้งแต่ 50 ถึง 60 ปี และ 80 ถึง 90 ปี
เราพบว่าเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจเหล่านี้สามารถระบุผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมได้อย่างถูกต้องระหว่าง 55% ถึง 100% และสามารถแยกแยะผู้ไม่ป่วยโรคสมองเสื่อมออกได้อย่างถูกต้องระหว่าง 45% ถึง 100% ช่วงดังกล่าวเกิดจากความแตกต่างในกลุ่มประชากรที่ศึกษา บริบท ประเภทของเครื่องมือประเมิน และคะแนนตัดสินการวินิจฉัย (คือ คะแนนที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อม) เราได้สรุปผลลัพธ์จาก 3 การศึกษาที่ใช้ 'Test Your Memory' และพบว่าการใช้คะแนนตัดสิน 42/50 เครื่องมือประเมินสามารถระบุผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมได้อย่างถูกต้องประมาณ 94% และสามารถแยกแยะผู้ไม่ป่วยโรคสมองเสื่อมออกได้อย่างถูกต้องประมาณ 66%
ผลของการตรวจสอบนี้เชื่อถือได้ขนาดไหน
จากการศึกษาพบว่า การวินิจฉัยของเครื่องมือในการระบุว่าบุคคลนั้นเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ ได้รับการยืนยันด้วยการประเมินทางคลินิกสำหรับโรคสมองเสื่อมแบบพบหน้ากันแบบดั้งเดิม มีปัญหาบางประการเกี่ยวกับวิธีการที่ใช้ในบางการศึกษา เช่น วิธีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมการศึกษา รวมถึงระยะเวลาและรายละเอียดของการประเมินทางคลินิกที่ไม่ชัดเจนเสมอไป บางการศึกษามีผู้เข้าร่วมจำนวนน้อย
ผลความแม่นยำของการทดสอบเป็นการสรุปตามหลักฐานจากการศึกษาที่เราตรวจสอบ ผลที่ได้จากการศึกษาแต่ละเรื่องมีความแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้นเราจึงไม่สามารถแน่ใจว่าเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจเหล่านี้จะให้ผลลัพธ์เดียวกันเสมอไปในทางคลินิก
การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน
หลักฐานเป็นปัจจุบันถึงเดือนพฤศจิกายน 2022
ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแนะนำให้ใช้เครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจด้วยตนเองใด ๆ ชนิดเดียว เครื่องมือมีคะแนนความแม่นยำในการทดสอบที่ใกล้เคียงกับช่วงที่พบในการทดสอบคัดกรองทางปัญญาด้วยดินสอและกระดาษมาตรฐานที่ดำเนินการโดยแพทย์ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับคะแนนการทดสอบและเกณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด รวมถึงผลที่อาจได้รับโดยบริบท ภาษา และระดับการศึกษา
ภาวะสมองเสื่อมเป็นกลุ่มอาการทางคลินิกเรื้อรังและค่อย ๆ แย่ลง ซึ่งอาจมีอาการทางปัญญาและพฤติกรรมหลายอย่าง คาดว่าความชุกทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากประชากรสูงอายุ โดยเฉพาะในบริบทที่มีทรัพยากรจำกัด ทำให้มีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและการดูแลทางสังคมที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการประเมินความรู้ความเข้าใจที่แม่นยำเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจวินิจฉัยโรคสมองเสื่อม แม้ว่าเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่ใช้เองจะไม่สามารถใช้ในการวินิจฉัยได้ แต่ก็สามารถนำมาใช้ประเมินความรู้ความเข้าใจได้ บทบาทของการทดสอบเหล่านี้ยังไม่แน่นอน และความแม่นยำของการทดสอบการวินิจฉัยก็ยังไม่ชัดเจน แต่การทดสอบเหล่านี้อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในสถานการณ์ที่การประเมินแบบพบหน้ากันอาจเป็นเรื่องยาก
วัตถุประสงค์หลัก
เพื่อประเมินความแม่นยำของการทดสอบเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่ใช้เองเพื่อการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมทุกประเภท ในทุกสถานการณ์ รวมถึงการดูแลสุขภาพในชุมชนและการดูแลสุขภาพในสถานพยาบาล
วัตถุประสงค์รอง
เพื่อค้นหา: คุณภาพและปริมาณของหลักฐานการวิจัยที่อธิบายความแม่นยำของการทดสอบที่ทำด้วยตนเอง แหล่งที่มาของความแตกต่างกันในความแม่นยำของการทดสอบที่อธิบายไว้ และช่องว่างในหลักฐานที่ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
เราค้นหา MEDLINE (Ovid SP), Embase (Ovid), Web of Science - BIOSIS Citation Index, PsycINFO (Ovid), LILACS (BIREME) และ CINAHL (EBSCO) การค้นหาล่าสุดดำเนินการเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022
เราได้รวมการศึกษาแบบตัดขวางที่ตรวจสอบความแม่นยำของเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่ใช้ด้วยตนเอง เราได้รวมบริบททั้งหมดไว้ รวมถึงการดูแลสุขภาพชุมชนและการดูแลสุขภาพในสถานพยาบาล เงื่อนไขเป้าหมายที่น่าสนใจคือการวินิจฉัยทางคลินิกของโรคสมองเสื่อม ดังนั้น เราจึงรวมเฉพาะการศึกษาที่ทำการทดสอบดัชนีควบคู่ไปกับการประเมินทางคลินิกมาตรฐานอ้างอิงเท่านั้น ประชากรที่เราสนใจคือผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป)
ผู้ประพันธ์การทบทวน 2 คนตรวจสอบการศึกษาที่รวบรวมมา ประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ โดยใช้เครื่อง Quality Assessment of Diagnostic Accuracy Studies (QUADAS-2) และดึงข้อมูลอย่างอิสระต่อกัน เราได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบการศึกษาและลักษณะของผู้เข้าร่วม บริบทของการทดสอบดัชนี รายละเอียดของการทดสอบดัชนี มาตรฐานอ้างอิงที่ใช้ และผลลัพธ์ที่รายงานเป็นความไวและความจำเพาะ เราได้ทำ meta-analysis จากการศึกษา 3 ฉบับที่ใช้ threshold score เดียวกัน
การทบทวนวรรณกรรมนี้รวบรวมการศึกษาที่เข้าเงื่อนไข 11 ฉบับ โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2303 ราย ซึ่งประเมินความแม่นยำของการทดสอบการวินิจฉัยด้วยเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่ใช้ด้วยตนเอง 6 แบบที่แตกต่างกัน การศึกษาได้ดำเนินการในยุโรป อเมริกาเหนือ และเกาหลีใต้ ในชุมชนและสถานพยาบาลที่หลากหลาย การประเมินคุณภาพของเราพบว่าการศึกษา 4 ฉบับมีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำในทุกโดเมน การศึกษา 6 ฉบับมีความเสี่ยงของการมีอคติที่สูงหรือไม่ชัดเจนเนื่องจากการคัดเลือกผู้ป่วย โดยมีข้อกังวลเกี่ยวกับการขาดวิธีการสุ่มตัวอย่างที่ชัดเจนหรือเกณฑ์การคัดออกหรือทั้งสองอย่าง การศึกษา 6 ฉบับมีความเสี่ยงของการมีอคติสูงหรือไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการทดสอบดัชนี (index test) เนื่องจากขาดข้อมูลเกี่ยวกับวิธีดำเนินการและประเมินการทดสอบ
สำหรับการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อม ความไวของเครื่องมือประเมินความรู้ความเข้าใจที่ใช้เองมีตั้งแต่ 55% ถึง 100% และความจำเพาะมีตั้งแต่ 45% ถึง 100% การศึกษา 3 ฉบับได้อธิบายถึงความแม่นยำของการทดสอบการวินิจฉัยด้วยการทดสอบความจำของคุณ (Test Your Memory ) ที่เกณฑ์ 42/50 การวิเคราะห์เชิงปริมาณแบบ meta-analysis ประมาณจุดสรุปด้วยความไว 94% (ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 90% ถึง 96%) และความจำเพาะ 66% (CI 95% 45% ถึง 82%) ที่เกณฑ์นี้
แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 10 มกราคม 2025 Edit โดย ศ พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 23 มกราคม 2025