การเพิ่มการฉายรังสีกับเคมีบำบัดจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตหรือเพิ่มผลข้างเคียงในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้นเมื่อเทียบกับการให้เคมีบำบัดเพียงอย่างเดียวหรือไม่

ใจความสำคัญ

– ประโยชน์ที่เป็นไปได้คืออัตราการรอดชีวิตโดยที่โรคไม่ลุกลาม (มะเร็งไม่แย่ลง) หรือการเสียชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน (มะเร็งของระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและสารอันตราย) โดยได้รับรังสีรักษาเพิ่มเติมในการเปรียบเทียบบางรายการ ข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงยังมีจำกัด

– ข้อมูลได้มาจากระยะเวลาการสังเกตที่สั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเสียชีวิตและผลข้างเคียง ซึ่งอาจเกิดขึ้นนานหลังจากการรักษาสิ้นสุดลง

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินคืออะไร

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินเป็นมะเร็งของระบบน้ำเหลือง (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันที่ปกป้องคุณจากเชื้อโรคและสารอันตราย) แบ่งตามระยะของโรคได้ดังนี้ ระยะเริ่มต้น และระยะลุกลาม ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ขนาดของมะเร็ง และอาการผิดปกติต่าง ๆ (B-symptoms เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลด และมีไข้) จะถูกใช้เพื่อจำแนกมะเร็งระยะเริ่มต้นเป็นโรคในระยะเริ่มต้นที่ดีและโรคในระยะเริ่มต้นที่ไม่ดี

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินรักษาอย่างไร

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินเป็นโรคมะเร็งที่สามารถรักษาให้หายขาดได้มากที่สุดชนิดหนึ่ง ทางเลือกการรักษาแบบมาตรฐาน ได้แก่ เคมีบำบัด (ยาฆ่าเซลล์มะเร็ง) หรือเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสี (การฉายรังสีไปที่มะเร็ง) เทคนิคการฉายรังสีสมัยใหม่ใช้ปริมาณรังสีที่ลดลงและฉายรังสีที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น จึงจำกัดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการรักษาด้วยรังสี อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงดังกล่าวอาจยังลดประโยชน์จากการรักษาได้

เราต้องการค้นหาอะไร

เราต้องการค้นหาว่าการเพิ่มการฉายรังสีกับเคมีบำบัดจะส่งผลดีมากกว่าเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียวในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้นหรือไม่ เราพิจารณาอัตราการรอดชีวิตโดยรวม (จำนวนคนที่ยังมีชีวิตอยู่) อัตรารอดชีวิตโดยที่โรคไม่มีการลุกลาม (มะเร็งไม่แย่ลง) หรือการเสียชีวิต และผลข้างเคียง (เช่น การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ หัวใจและหลอดเลือด (ระบบหัวใจและหลอดเลือด) หรือมะเร็งที่เกิดขึ้นตามมา ความสามารถในการตั้งครรภ์)

เราทำอะไรบ้าง

เราค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบการฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัดกับเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียวในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้น เราพบการศึกษา 8 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวน 3840 คน เราแยกการศึกษาโดยคัดเลือกผู้คนตามปัจจัยเสี่ยง (ที่ดี, ที่ไม่ดี, หรือผสมระหว่างที่ดีและที่ไม่ดี) นอกจากนี้เรายังดูการเปรียบเทียบที่ให้จำนวนรอบที่เท่ากันและแตกต่างกันแก่คนแต่ละกลุ่มด้วย วงรอบคือช่วงการรักษาด้วยเคมีบำบัดที่กำหนดเป็นระยะเวลาตามที่เลือกตามด้วยช่วงพักเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว

เราพบอะไร

เคมีบำบัดเทียบกับเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีที่มีจำนวนรอบเคมีบำบัดเท่ากัน

ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้นที่มีความเสี่ยงดี ยังไม่ชัดเจนว่าการฉายรังสีเพิ่มเติมจะมีผลต่อการรอดชีวิตโดยรวมหรือไม่ แต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการรอดชีวิตที่โรคไม่ลุกลามหรือการเสียชีวิตน้อยลง (การศึกษา 2 ฉบับ มีผู้ป่วย 1245 คน) เราไม่ทราบว่ามีผลต่อการเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งชนิดที่ 2 หรือไม่ (การศึกษา 2 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 1245 คน) การฉายรังสีเพิ่มเติมอาจส่งผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและหัวใจ (การศึกษา 1 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 667 คน) ไม่มีข้อมูลการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ

ในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงแบบผสม เราไม่ทราบว่าการฉายรังสีเพิ่มเติมจะมีผลต่อการรอดชีวิตโดยรวมหรือไม่ แต่การฉายรังสีเพิ่มเติมอาจช่วยเพิ่มการรอดชีวิตโดยไม่เกิดการลุกลามของโรคได้หรือการเสียชีวิตลดลง (การศึกษา 2 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 572 คน) ยังไม่ชัดเจนว่ามีผลต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือมะเร็งชนิดที่ 2 หรือไม่ (การศึกษา 2 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 572 ราย) แต่อาจเพิ่มการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและหัวใจได้ (การศึกษา 1 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 420 ราย)

สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคในระยะเริ่มต้นที่มีความเสี่ยงที่ไม่ดี ยังไม่ชัดเจนว่าการฉายรังสีเพิ่มเติมจะมีผลต่อการรอดชีวิตโดยรวมหรือไม่ (การศึกษา 2 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 688 ราย) แต่การฉายรังสีเพิ่มเติมน่าจะช่วยเพิ่มการรอดชีวิตได้โดยไม่มีโรคลุกลามหรือลดการเสียชีวิตเล็กน้อย (การศึกษา 1 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 651 ราย) ยังไม่ชัดเจนว่ามีผลต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและหัวใจหรือไม่ (การศึกษา 1 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 37 คน) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือมะเร็งชนิดที่ 2

เคมีบำบัดเทียบกับเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีที่มีจำนวนรอบของเคมีบำบัดต่างกัน

ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้นที่มีความเสี่ยงที่ดี ยังไม่ทราบว่าการฉายรังสีเพิ่มเติมจะมีผลต่อการรอดชีวิตโดยรวมหรือไม่ แต่มีแนวโน้มที่จะปรับปรุงการรอดชีวิตได้โดยไม่มีโรคลุกลามหรือการเสียชีวิต (การศึกษา 1 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 357 คน) ยังไม่ชัดเจนว่ามีผลต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดที่ 2 หรือไม่ (การศึกษา 1 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 465 คน) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือระบบหัวใจและหลอดเลือด

ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้นที่มีความเสี่ยงที่ไม่ดี การฉายรังสีเพิ่มเติมอาจทำให้การรอดชีวิตโดยรวมลดลงเล็กน้อย แต่ก็อาจช่วยปรับปรุงการรอดชีวิตที่โรคไม่ลุกลามหรือการเสียชีวิต (การศึกษา 2 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 698 คน) ยังไม่ชัดเจนว่ามีผลต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ (การศึกษา 1 ฉบับ 276 คน), มะเร็งชนิดที่ 2 และระบบหัวใจและหลอดเลือดหรือไม่ (การศึกษา 2 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 870 คน)

ไม่มีการศึกษาใดรายงานข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการตั้งครรภ์

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

เรามีความเชื่อมั่นน้อยในหลักฐานเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ประเมินส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอัตราการรอดชีวิตโดยรวมและผลข้างเคียง ซึ่งเกิดจากวิธีการที่ไม่ดี และมีจำนวนการศึกษาน้อย ผู้เข้าร่วมหรือเหตุการณ์ในการศึกษาน้อย รูปแบบการให้เคมีบำบัดในการทดลองมีความแตกต่างกัน เราไม่พบการศึกษาที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อเพิ่มหลักฐานนี้

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

การทบทวนวรรณกรรมนี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดถึงเดือนพฤศจิกายน 2023

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

แผนการให้เคมีบำบัดในการทดลองมีความแตกต่างกัน และข้อมูลสำหรับแผนการที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันก็มีจำกัด การฉายรังสีเพิ่มเติมอาจช่วยให้อัตราการรอดชีวิตโดยไม่มีการลุกลามของโรคดีขึ้นได้เล็กน้อย ข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับอัตราการรอดชีวิตโดยรวมและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์มีความเชื่อมั่นต่ำถึงต่ำมาก และเราไม่สามารถสรุปผลเกี่ยวกับผลของการฉายรังสีเพิ่มเติมต่อผลลัพธ์เหล่านี้ได้ ไม่มีการศึกษาวิจัยใดที่ประเมินภาวะมีบุตรยาก จำเป็นต้องมีข้อมูลการติดตามที่มีคุณภาพสูงในระยะยาว และจำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้นในผู้ใหญ่ มักได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดตามด้วยการฉายรังสี บทบาทของการฉายรังสีถูกตั้งคำถามเนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินผลของเคมีบำบัดเมื่อเปรียบเทียบกับเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้น

วิธีการสืบค้น: 

เราได้อัปเดตการค้นหาก่อนหน้าทั้งหมดสำหรับการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (randomised controlled trials; RCTs) บนฐานข้อมูล Cochrane Central Register of Controlled Trial, MEDLINE และ Embase ในทะเบียนการทดลองและในรายงานการประชุมทางวิชาการที่เกี่ยวข้องจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2023

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เราได้รวม RCTs ที่เปรียบเทียบการให้เคมีบำบัดเพียงอย่างเดียวกับการให้เคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะเริ่มต้น และไม่รวมการทดลองที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 20% เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะลุกลาม เราถือว่าภูมิคุ้มกันบำบัดร่วมกับเคมีบำบัดเข้าเกณฑ์หากใช้ทั้งสองวิธีในลักษณะเดียวกันในกลุ่มเปรียบเทียบ แต่ไม่พบการทดลองดังกล่าว สำหรับการเปรียบเทียบของเรา เราแยก RCTs ที่มีจำนวนรอบการให้เคมีบำบัดเท่ากันในทั้งสองกลุ่ม และ RCT ที่มีจำนวนรอบต่างกัน ในขณะที่รูปแบบการให้เคมีบำบัดเหมือนกัน เราแยก RCTs ที่เปรียบเทียบผู้เข้าร่วมที่มีโปรไฟล์ความเสี่ยงแบบดี แบบผสม หรือ แบบไม่ดี

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรม 2 คนคัดกรองผลการค้นหา ดึงข้อมูล และประเมินคุณภาพของการทดลองที่รวมอยู่โดยอิสระจากกัน ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรมคนที่ 3 เป็นผู้แก้ปัญหากรณีมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน เราได้วิเคราะห์ผลลัพธ์จากระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ (อัตราการรอดชีวิตโดยรวม อัตราการรอดชีวิตโดยปราศจากการลุกลามของโรค) เป็น hazard ratios (HR) และผลลัพธ์แบบไบนารี (เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์) เป็น risk ratios (RR) เราประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้แนวทาง GRADE

ผลการวิจัย: 

เราได้รวม 9 การเปรียบเทียบจาก RCTs 8 ฉบับ ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 3840 รายไว้ในการทบทวนวรรณกรรมที่อัปเดตนี้

จำนวนรอบเคมีบำบัดเท่ากันในทั้งสองกลุ่มทดลอง

สำหรับกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงดี

สำหรับการรอดชีวิตโดยรวมในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินชนิดดีนั้น หลักฐานยังคงไม่เชื่อมั่นและสรุปไม่ ได้ (HR 0.92, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.11 ถึง 7.92; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1245 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา ความไม่สอดคล้อง และความไม่แม่นยำ) การฉายรังสีเพิ่มเติมร่วมกับเคมีบำบัดมีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตที่ปราศจากการลุกลามของโรค (HR 0.36, 95% CI 0.20 ถึง 0.68; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1245 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา) หลักฐานมีความไม่เชื่อมั่นและสรุปผลไม่ได้สำหรับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดที่ 2 (RR 0.93, 95% CI 0.01 ถึง 74.24; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1245 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา ความไม่สอดคล้อง และความไม่แม่นยำอย่างมาก) และชี้ให้เห็นความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ (RR 0.89, 95% CI 0.06 ถึง 14.16; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 667 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำเนื่องจากความไม่แม่นยำอย่างมาก) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือภาวะมีบุตรยาก

ประชากรที่มีความเสี่ยงแบบผสม

สำหรับประชากรที่มีความเสี่ยงแบบผสม หลักฐานเกี่ยวกับการรอดชีวิตโดยรวมนั้นไม่เชื่อมั่นและสรุปผลไม่ได้ (HR 0.79, 95% CI 0.13 ถึง 4.80; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 572 ราย; หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา ความไม่สอดคล้องกัน และความไม่แม่นยำ) บ่งชี้ว่าการฉายรังสีเพิ่มเติมอาจนำไปสู่การปรับปรุงอัตราการรอดชีวิตโดยปราศจากการลุกลามของโรค (HR 0.71, 95% CI 0.43 ถึง 1.17; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 572 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำ) หลักฐานยังไม่เชื่อมั่นและสรุปผลไม่ได้สำหรับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ (RR 1.35, 95% CI 0.17 ถึง 10.87; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 572 ราย) และการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดที่ 2 (RR 0.52, 95% CI 0.09 ถึง 2.98; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 572 ราย) (หลักฐานทั้งสองฉบับมีความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำอย่างมาก) แต่ชี้ให้เห็นว่าการฉายรังสีเพิ่มเติมอาจเพิ่มอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ (RR 3.03, 95% CI 0.12 ถึง 73.92; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 420 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำเนื่องจากความไม่แม่นยำอย่างมาก) ไม่มีข้อมูลด้านภาวะมีบุตรยาก

ประชากรที่ความเสี่ยงสูง

สำหรับผู้ที่มีโรคที่มีความเสี่ยงสูง หลักฐานเกี่ยวกับการรอดชีวิตโดยรวมนั้นไม่เชื่อมั่นและสรุปไม่ได้ (HR 0.69, 95% CI 0.20 ถึง 2.44; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 688 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำอย่างมาก) แต่การฉายรังสีเพิ่มน่าจะช่วยเพิ่มการรอดชีวิตโดยปราศจากการลุกลามของโรค (HR 0.55, 95% CI 0.19 ถึง 1.60; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 651 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางเนื่องจากความไม่แม่นยำ) หลักฐานไม่เชื่อมั่นและสรุปผลไม่ได้สำหรับอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ (RR 2.85, 95% CI 0.12 ถึง 65.74; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 37 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำอย่างมาก) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ การเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดที่ 2 หรือภาวะมีบุตรยาก

จำนวนรอบของเคมีบำบัดต่างกันในทั้งสองกลุ่มทดลอง

สำหรับประชากรกลุ่มที่มีความเสี่ยงดี

หลักฐานของอัตราการรอดชีวิตโดยรวมในกลุ่มที่มีความเสี่ยงดี (favourable disease) ซึ่งได้รับการรักษาด้วยจำนวนรอบการให้เคมีบำบัดที่ต่างกันในทั้งสองกลุ่มนั้นยังไม่เชื่อมั่นและไม่สามารถสรุปผลได้ (HR 0.36, 95% CI 0.04 ถึง 3.38; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 357 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำอย่างมาก) อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับปรุงอัตราการรอดชีวิตโดยปราศจากการลุกลามของโรคด้วยการฉายรังสีเพิ่มเติม (HR 0.08, 95% CI 0.02 ถึง 0.32; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 357 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลางเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา) สำหรับอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งชนิดที่สอง หลักฐานไม่เชื่อมั่นและไม่สามารถสรุปผลได้ (RR 0.21, 95% CI 0.01 to 4.34; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 465 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำอย่างมาก) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อและภาวะมีบุตรยาก และข้อมูลการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจก็ไม่สามารถประมาณการได้ (ไม่มีเหตุการณ์ในทั้งสองกลุ่ม)

ประชากรที่ความเสี่ยงสูง

สำหรับประชากรที่ความเสี่ยงสูง (unfavourable risk profile) การฉายรังสีเพิ่มนั้นอาจทำให้อัตราการรอดชีวิตโดยรวมลดลงเล็กน้อย (HR 1.66, 95% CI 0.95 ถึง 2.90; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 698 ราย; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำ) แต่การรอดชีวิตโดยปราศจากการลุกลามของโรคอาจปรับปรุงได้เล็กน้อย (HR 0.84, 95% CI 0.53 ถึง 1.33; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 698 ราย; หลักฐานความชื่อมั่นต่ำเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำ) หลักฐานไม่เชื่อมั่นและไม่สามารถสรุปผลได้สำหรับอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ (RR 6.90, 95% CI 0.36 ถึง 132.34; RCT 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 276 คน) อัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดที่สอง (RR 2.19, 95% CI 0.77 ถึง 6.19; RCTs 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 870 คน) และอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ (RR 1.60, 95% CI 0.31 ถึง 8.22; RCT 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 870 คน) (ทั้งหมดเป็นหลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและความไม่แม่นยำอย่างมาก) ไม่มีข้อมูลด้านภาวะมีบุตรยาก

บันทึกการแปล: 

ผู้แปล ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อ 24 ธันวาคม 2024 Edit โดย ศ.พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 16 มกราคม 2025

Tools
Information