ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

Ivabradine กับการเป็นยาเสริมฤทธิ์สำหรับภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง

วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรม

ผู้วิจัยต้องการประเมินประสิทธิผลของ ivabradine (ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาระยะสั้น (<6 เดือน) หรือระยะยาว (≥ 6 เดือน) ในผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวชนิดที่มีการบีบตัวของหัวใจปกติ (Heart failure with preserved ejection fraction (HFpEF), ค่าการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย (Left ventricular ejection fraction) มากกว่าหรือเท่ากับ 50%) หรือผู้ที่มีการบีบตัวของหัวใจลดลง (Heart failure with reduced ejection fraction (HFrEF), ค่าการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายน้อยกว่า 40%)

ใจความสำคัญ

ผู้วิจัยพบว่าการใช้ ivabradine ในระยะยาวไม่ช่วยลดอัตราเสียชีวิตจากสาเหตุโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วย HFrEF นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่ได้รับ ivabradine ในระยะยาวเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก/การดูแลตามปกติ/การไม่ได้รับยา ในแง่ของอัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงในผู้ป่วย HFrEF

การทบทวนวรรณกรรมนี้ศึกษาอะไร

ภาวะหัวใจล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอเกินไปที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายให้เพียงพอได้ ซึ่งจะนำไปสู่อาการต่างๆ เช่น หายใจถี่, เหนื่อยง่าย, ขาบวม, และความสามารถในการออกกำลังกายที่ลดลง ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลวจะเสียชีวิตภายในห้าปีหลังได้รับการวินิจฉัย ในปัจจุบันยาหลายชนิดมีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว อย่างไรก็ตามผู้วิจัยต้องการทราบว่า ivabradine สามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้หรือไม่ การศึกษาเจ็ดชิ้นมุ่งเน้นไปที่ผลการรักษาด้วย ivabradine ในระยะสั้น (<6 เดือน) และการศึกษาสิบเอ็ดชิ้นที่มุ่งเน้นผลการรักษาด้วย ivabradine ในระยะยาว (≥ 6 เดือน) การศึกษาจำนวน 1 การศึกษา ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาในการให้ยา ivabradine

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรม

ผู้วิจัยรวบรวมการศึกษาแบบ randomised controlled trials (RCTs, การศึกษาที่ผู้เข้าร่วมจะถูกแบ่งออกเป็นหนึ่งหรือสองกลุ่มหรือมากกว่า โดยใช้วิธีการสุ่ม) จำนวน 19 การศึกษา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 19,628 คน ที่ได้รับยา ivabradine การศึกษาสิบเอ็ดชิ้นมุ่งเน้นกลุ่มผู้ป่วย HFrEF, การศึกษาสามชิ้นมุ่งเน้นกลุ่มผู้ป่วย HFpEF และการศึกษาหนึ่งชิ้นที่ศึกษาผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีการบีบตัวของหัวใจในช่วงตรงกลาง (Heart failure with mid-range ejection fraction (HFmrEF)) ทว่าในการศึกษาที่เหลือไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของภาวะหัวใจล้มเหลวแต่อย่างใด

ความเป็นปัจจุบันของการทบทวนวรรณกรรมนี้

ผู้วิจัยสืบค้นการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2020

บทนำ

ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังเป็นหนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนมากกว่า 23 ล้านคนทั่วโลก และแม้ว่าจะมีการใช้ยาหลายขนานตาม guideline ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังยังคงเป็นสาเหตุของการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบ่อยครั้งและประมาณ 50% ของผู้ป่วยเสียชีวิตภายในห้าปีหลังการวินิจฉัย

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของ ivabradine ในผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง

วิธีการสืบค้น

ผู้วิจัยสืบค้นในฐานข้อมูล CENTRAL, MEDLINE, Embase และ CPCI-S Web of Science จนถึงเดือนมีนาคม 2020 รวมทั้งที่ ClinicalTrials.gov และ WHO ICTRP และยังค้นหาจากรายการอ้างอิง (reference lists) ของการศึกษาที่รวบรวมด้วย โดยไม่มีข้อจำกัดด้านภาษาหรือเวลา

เกณฑ์การคัดเลือก

ผู้วิจัยรวบรวมการศึกษาแบบ RCTs ซึ่งผู้เข้าร่วมเป็นผู้ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังซึ่งได้รับการสุ่มให้รับยา ivabradine หรือยาหลอก/การดูแลตามปกติ/ไม่ได้รับยา อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยแยกเป็นกลุ่มตามชนิดของภาวะหัวใจล้มเหลว (ภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีการบีบตัวของหัวใจลดลง (HFrEF) หรือภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีการบีบตัวของหัวใจเป็นปกติ (HFpEF)) และตามระยะเวลาในการได้รับยา ivabradine (ระยะสั้น (<6 เดือน) หรือระยะยาว (≥ 6 เดือน))

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้วิจัย 2 คนได้ประเมินการศึกษาที่เข้าเกณฑ์คัดเลือก, ดึงข้อมูล, และตรวจสอบความถูกต้องอย่างเป็นอิสระต่อกัน มีการคำนวณ risk ratios (RR) โดยใช้แบบจำลอง random-effects model และมีการประเมิน 'Risk of bias' ในการศึกษาทั้งหมด นอกจากนี้ ยังได้ติดต่อคณะผู้วิจัยของการศึกษาที่ได้รับคัดเลือกเพื่อขอข้อมูลที่ขาดหายไป ผลลัพธ์หลักที่สนใจ (primary endpoint) ได้แก่ การเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด; คุณภาพชีวิต; ระยะเวลาจนกระทั่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งแรกเนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลวในช่วง follow-up; และจำนวนวันที่นอนโรงพยาบาลเนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลวในช่วง follow-up ผลลัพธ์รองที่สนใจ (secondary endpoint) ได้แก่ อัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง; ความสามารถในการออกกำลังกาย; และต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ (รายงานแบบบรรยาย) ผู้วิจัยได้ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานที่ได้โดย GRADE approach

ผลการวิจัย

ผู้วิจัยรวบรวมการวิจัยได้ 19 การศึกษา (76 รายงาน) และมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 19,628 คน (อายุเฉลี่ย 60.76 ปี, ชาย 69%) อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาบางส่วนเท่านั้นที่ถูกนำมาวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) เนื่องจากความไม่สอดคล้องกันในการรูปแบบการทดลอง (ชนิดของภาวะหัวใจล้มเหลว) และการรายงานผลและการวัดผล และการศึกษาส่วนใหญ่มีความเสี่ยงในการเกิดอคติตั้งแต่ต่ำไปจนถึงสูงแตกต่างกันไป และมีบางการศึกษาที่ข้อมูลไม่เพียงพอในการตัดสินการมีอคติได้

ผู้วิจัยสามารถทำการวิเคราะห์อภิมานได้จำนวน 2 การวิเคราะห์ โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ป่วย HFrEF และการรักษาด้วย ivabradine ในระยะยาว จากการศึกษาพบว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มที่ได้รับยา ivabradine และกลุ่มยาหลอก/การดูแลตามปกติ/ไม่ได้รับยา ในแง่ของอัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุโรคหัวใจและหลอดเลือด (RR 0.99, 95% confidence interval (CI) 0.88 ถึง 1.11; 3 การศึกษา; ผู้เข้าร่วม 17,676 คน; I 2 = 33%; หลักฐานความน่าเชื่อถือปานกลาง) นอกจากนี้ ยังพบว่าไม่มีความแตกต่างในอัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงในกลุ่มผู้ป่วย HFrEF ที่ได้รับ ivabradine ในระยะยาว เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก/การดูแลตามปกติ/ไม่ได้รับยา (RR 0.96, 95% CI 0.92 ถึง 1.00; 2 การศึกษา; ผู้เข้าร่วม 17,399 คน; I 2 = 12%; หลักฐานความน่าเชื่อถือปานกลาง) ผู้วิจัยไม่สามารถทำการวิเคราะห์อภิมานสำหรับผลลัพธ์อื่นๆ ได้ และมีความเชื่อมั่นต่ำในผลการวิจัยจากการศึกษาแต่ละชิ้น

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ผู้วิจัยพบว่าไม่มีความแตกต่างในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงระหว่างการรักษาด้วยยา ivabradine ในระยะยาวเมื่อเทียบกับการได้รับยาหลอก/การดูแลตามปกติ/การไม่ได้รับยา ในผู้ป่วย HFrEF อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาจเป็นผลจากเหตุทางอ้อม (ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย) ความน่าเชื่อถือของหลักฐานที่มีอยู่จึงถูกจัดให้อยู่ในระดับปานกลาง

บันทึกการแปล

ผู้แปล นพ.จักรพงศ์ รู้ปิติวิริยะ 14 ธันวาคม 2020

การอ้างอิง
Benstoem C, Kalvelage C, Breuer T, Heussen N, Marx G, Stoppe C, Brandenburg V. Ivabradine as adjuvant treatment for chronic heart failure. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 11. Art. No.: CD013004. DOI: 10.1002/14651858.CD013004.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า