ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แนวทางการใช้ยากระตุ้นหัวใจและยาขยายหลอดเลือดสำหรับการรักษาภาวะช็อกจากโรคหัวใจ (cardiogenic shock) หรือ ภาวะการสูบฉีดเลือดออกจากหัวใจต่อนาทีลดต่ำ (low cardiac output syndrome)

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

ผู้วิจัยต้องการตรวจสอบงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการรักษาด้วยยากระตุ้นหัวใจ (inotropic drugs) หรือด้วยยาขยายหลอดเลือด (vasodilating drugs) ในแง่ของอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยที่มีภาวะช็อกจากโรคหัวใจ ( cardiogenic shock, CS; ภาวะช็อกเนื่องจากความสามารถของหัวใจในการปั๊มเลือดลดลงอย่างมาก) หรือภาวะการสูบฉีดเลือดออกจากหัวใจต่อนาทีลดต่ำ (low cardiac output syndrome, LCOS; ภาวะที่การทำงานของหัวใจลดลง)

ที่มาและความสำคัญ

CS และ LCOS เป็นหนึ่งในภาวะที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ และยาที่ใช้รักษามักมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ และออกฤทธิ์แรงเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลัน อย่างไรก็ตาม การศึกษาเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยที่ระบบไหลเวียนโลหิตเข้าขั้นวิกฤติยังมีิอยู่ไม่มาก โดยเฉพาะในเรื่องอัตราการเสียชีวิต

ลักษณะของการศึกษา

ผู้วิจัยได้รวบรวม 19 การศึกษา รวมผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2385 คน ที่มีภาวะ CS หรือ LCOS จากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย, ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือการผ่าตัดหัวใจ ระยะเวลาติดตามผลของแต่ละการศึกษาแตกต่างกันไปตั้งแต่ติดตามแค่ในช่วงระยะเวลาการพักฟื้นหรือนานถึง 12 เดือน มี 8 การศึกษาที่ได้รับทุนวิจัยจากบริษัทผู้ผลิตยา และมี 1 การศึกษาที่ไม่ได้ระบุความสัมพันธ์กับบริษัทยาให้ชัดเจน

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

ผู้วิจัยเปรียบเทียบแนวทางรักษาหลากหลายวิธีที่ใช้ยากระตุ้นหัวใจหรือยาขยายหลอดเลือด (เช่น levosimendan, enoximone, piroximone, epinephrine, norepinephrine, dopexamine, milrinone, dopamine และ dobutamine) มีหลักฐานคุณภาพต่ำสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของอัตราการเสียชีวิตในระยะสั้นและระยะยาวในการเปรียบเทียบระหว่าง levosimendan กับ dobutamine, มีหลักฐานคุณภาพต่ำมากสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตในระยะยาวในการเปรียบเทียบระหว่าง levosimendan กับยาหลอก (ไม่มีข้อมูลสำหรับการติดตามในระยะสั้น), มีหลักฐานคุณภาพต่ำมากสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตในระยะสั้นในการเปรียบเทียบระหว่าง levosimendan กับ enoximone, epinephrine กับ norepinephrine-dobutamine, dopexamine กับ dopamine, enoximone พร้อม dobutamine และ dopamine-milrinone กับ dopamine-dobutamine (ไม่มีข้อมูลสำหรับการติดตามในระยะยาว), มีหลักฐานคุณภาพต่ำมากสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุในระยะสั้นและระยะยาวเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง epinephrine กับ norepinephrine และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุในการเปรียบเทียบระหว่าง milrinone กับ dobutamine, enoximone กับ piroximone และ enoximone กับ epinephrine-nitroglycerine

คุณภาพของหลักฐาน

หลักฐานงานวิจัยเป็นปัจจุบันจนถึงเดือนตุลาคม 2019 และผู้วิจัยมีความมั่นใจน้อยมากในผลของการศึกษาที่วิเคราะห์ออกมาได้ (หลักฐานคุณภาพต่ำหรือต่ำมาก) เนื่องจากข้อจำกัดในแต่ละการศึกษาที่เกี่ยวข้อง (ความเสี่ยงของการมีอคติ), ความไม่แม่นยำหรือการมีผลโดยอ้อม

บทนำ

ภาวะช็อกจากโรคหัวใจ (cardiogenic shock, CS) และภาวะการสูบฉีดเลือดออกจากหัวใจต่อนาทีลดต่ำ (low cardiac output syndrome, LCOS) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิตของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute myocardial infarction, AMI), โรคหัวใจล้มเหลว (heart failure, HF) หรือการผ่าตัดหัวใจ ในขณะที่มีหลักฐานที่ชัดเจนในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉียบพลันอื่นๆ แต่แนวทางการรักษาในภาวะวิกฤติของระบบไหลเวียนโลหิตจากภาวะ CS และ LCOS ยังมีการศึกษาน้อยกว่ามาก ดังนั้น ผู้วิจัยจึงได้วิเคราะห์งานวิจัยในปัจจุบันที่ศึกษาเกี่ยวกับการรักษาภาวะ CS หรือ LCOS ด้วยยากระตุ้นหัวใจ (inotropic agents) และ/หรือยาขยายหลอดเลือด (vasodilating agents) การศึกษาครั้งนี้เป็นการปรับปรุงครั้งที่ 2 ของ Cochrane Review ซึ่งฉบับแรกได้รับการตีพิมพ์ในปี 2014

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยากระตุ้นหัวใจและยาขยายหลอดเลือดในการรักษาภาวะ CS หรือ LCOS เนื่องจากโรค AMI, HF หรือหลังการผ่าตัดหัวใจ

วิธีการสืบค้น

ผู้วิจัยสืบค้นในฐานข้อมูล CENTRAL, MEDLINE, Embase และ CPCI-S Web of Science ในเดือนตุลาคม 2019 นอกจากนี้ยังค้นหางานวิจัยที่กำลังดำเนินการอยู่จากคลังลงทะเบียน 4 แห่ง และค้นจากรายการอ้างอิงในแต่ละการศึกษาและติดต่อผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา

เกณฑ์การคัดเลือก

Randomized controlled trials (RCTs) ที่ศึกษาผู้ป่วยโรค AMI, HF หรือที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจที่ซับซ้อนและเกิดภาวะ CS หรือ LCOS เป็นภาวะแทรกซ้อน

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้วิจัยใช้วิธีมาตรฐานตามคำแนะนำของ Cochrane

ผลการวิจัย

ผู้วิจัยค้นพบการศึกษาที่เข้าเกณฑ์ 19 รายการซึ่งมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2385 คน (ช่วงอายุเฉลี่ย 56 ถึง 73 ปี) และมีการศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่อีก 3 การศึกษา ผู้วิจัยแบ่งการศึกษาออกเป็น 11 การเปรียบเทียบ โดยเทียบระหว่างการดูแลตามมาตรฐานร่วมกับการใช้ยาหรือยาหลอก การเปรียบเทียบเหล่านี้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของยา levosimendan เทียบกับ dobutamine, enoximone หรือ placebo; enoximone เทียบกับ dobutamine, piroximone หรือ epinephrine-nitroglycerine; epinephrine กับ norepinephrine หรือ norepinephrine-dobutamine; dopexamine เทียบกับ dopamine; milrinone เทียบกับ dobutamine และ dopamine-milrinone เทียบกับ dopamine-dobutamine

การศึกษาทั้งหมดได้รับการตีพิมพ์ในวารสารที่ผ่านการตรวจสอบ (peer-reviewed journals) และวิเคราะห์ด้วยหลักการ intention-to-treat (ITT) มีจำนวน 18 จาก 19 การศึกษา ที่มีขนาดเล็กและมีผู้เข้าร่วมเพียงไม่กี่คน และมีการรายงานเรื่องทุนวิจัยจากอุตสาหกรรมยาหรือไม่รายงานเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่ชัดเจนในการศึกษา 9 จาก 19 การศึกษา โดยทั่วไปความเชื่อมั่นในผลของการศึกษาที่นำมาวิเคราะห์ถูกลดลงเนื่องจากข้อจำกัดในแต่ละการศึกษา (ความเสี่ยงของการมีอคติ), ความไม่แม่นยำหรือความผลโดยอ้อม หัวข้อที่แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงสูงจากมากกว่า 50% ของการศึกษาที่รวบรวมมา ได้แก่ performance bias (การปกปิดผู้เข้าร่วมและผู้วิจัย) และ อคติที่ส่งผลต่อคุณภาพของหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์

การเปรียบเทียบทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลของยากระตุ้นหัวใจหรือยาขยายหลอดเลือดต่ออัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุโดยมีคุณภาพของหลักฐานต่ำถึงต่ำมาก ในรายละเอียด ได้แก่ levosimendan เทียบกับ dobutamine (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: RR 0.60, 95% CI 0.36 ถึง 1.03; ผู้เข้าร่วม = 1701; หลักฐานคุณภาพต่ำ;อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: RR 0.84, 95% CI 0.63 ถึง 1.13; ผู้เข้าร่วม = 1591; หลักฐานคุณภาพต่ำ); levosimendan เทียบกับยาหลอก (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: ไม่มีข้อมูล; อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: RR 0.55, 95% CI 0.16 ถึง 1.90; ผู้เข้าร่วม = 55; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก); levosimendan เทียบกับ enoximone (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: RR 0.50, 95% CI 0.22 ถึง 1.14; ผู้เข้าร่วม = 32; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก; อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: ไม่มีข้อมูล); epinephrine เทียบกับ norepinephrine-dobutamine (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: RR 1.25; 95% CI 0.41 ถึง 3.77; ผู้เข้าร่วม = 30; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก; อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: ไม่มีข้อมูล); dopexamine เทียบกับ dopamine (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: ไม่มีการเสียชีวิตในทั้งสองกลุ่ม, ผู้เข้าร่วม = 70; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก; อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: ไม่มีข้อมูล); enoximone เทียบกับ dobutamine (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: RR 0.21; 95% CI 0.01 ถึง 4.11; ผู้เข้าร่วม = 27; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก; อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: ไม่มีข้อมูล); epinephrine กับ norepinephrine (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: RR 1.81, 95% CI 0.89 ถึง 3.68; ผู้เข้าร่วม = 57; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก; อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: ไม่มีข้อมูล); และ dopamine-milrinone เทียบกับ dopamine-dobutamine (อัตราการเสียชีวิตระยะสั้น: RR 1.0, 95% CI 0.34 ถึง 2.93; ผู้เข้าร่วม = 20; หลักฐานคุณภาพต่ำมาก;อัตราการเสียชีวิตระยะยาว: ไม่มีข้อมูล) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุสำหรับการเปรียบเทียบระหว่าง milrinone กับ dobutamine, enoximone เทียบกับ piroximone และ enoximone เทียบกับ epinephrine-nitroglycerine

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ในปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดๆ ที่สนับสนุนการใช้ยากระตุ้นหัวใจหรือยาขยายหลอดเลือดชนิดใดชนิดหนึ่งเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยวิกฤติที่มีภาวะ CS หรือ LCOS

เมื่อพิจารณาถึงหลักฐานที่จำกัดที่ได้มาจากการศึกษาในปัจจุบันและมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอคติและความไม่แม่นยำ ควรมีการเน้นย้ำถึงความจำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับการทดลองแบบสุ่มขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาอย่างดีในหัวข้อนี้เพื่อปิดช่องว่างในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดขั้นวิกฤต ในแง่ของความไม่แน่นอนในการปฏิบัติส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากข้อบกพร่องของรูปแบบการวิจัยในการศึกษาที่มีอยู่ การวิจัยแบบ RCT ในอนาคตควรได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบเพื่อเอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้และเพื่อค้นหาแนวทางการใช้ยากระตุ้นหัวใจหรือยาขยายหลอดเลือดที่เหมาะสมสำหรับภาวะ CS และ LCOS

บันทึกการแปล

ผู้แปล นพ.จักรพงศ์ รู้ปิติวิริยะ วันที่ 21 ธันวาคม 2020

Citation
Uhlig K, Efremov L, Tongers J, Frantz S, Mikolajczyk R, Sedding D, Schumann J. Inotropic agents and vasodilator strategies for the treatment of cardiogenic shock or low cardiac output syndrome. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 11. Art. No.: CD009669. DOI: 10.1002/14651858.CD009669.pub4.