ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสและน้ำมันโบราจสำหรับโรคผิวหนังอักเสบ

โรคผิวหนังอักเสบคืออาการคันและผิวหนังแดง ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วโลก 20% ในบางช่วงของชีวิต แม้ว่ามันอาจจะดีขึ้นตามอายุแต่ก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ เด็กจำนวนมากสามารถหายจากอาการผิดปกตินี้เมื่อถึงวัยมัธยมศึกษา อาการคันอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ที่มีอาการนี้ไม่สบายตัวไม่ว่าจะมีอายุเท่าไรก็ตาม

การรักษาทางการแพทย์แบบดั้งเดิมทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้คนบางส่วนที่ไม่เห็นอาการที่ดีขึ้นในเรื่องโรคภูมิแพ้หรือกลัวผลข้างเคียงจากผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แบบดั้งเดิม ก็หันมาใช้ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการรักษาทางการแพทย์แบบดั้งเดิม การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบนี้เป็นการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ 2 ชนิดนี้ ได้แก่ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (EPO) และน้ำมันโบราจ (BO) ชนิดรับประทาน ซึ่งเชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อโรคผิวหนังอักเสบ

เรารวมการศึกษาทั้งหมด 27 ฉบับ โดยมีผู้ใหญ่และเด็กรวม 1596 คน จาก 12 ประเทศ จากการศึกษาเหล่านี้ มีการศึกษา 19 ฉบับ ที่เปรียบเทียบ EPO กับการรักษาหลอก และมีการศึกษา 8 ฉบับ ที่ใช้ BO เทียบกับยาหลอก เราค้นหาหลักฐานโดยรวมของอาการที่ดีขึ้นของโรคผิวหนังอักเสบและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การศึกษา 27 ฉบับ ประเมินอาการที่ดีขึ้นโดยรวมของโรคผิวหนังอักเสบ แต่มีเพียง 2 ฉบับเท่านั้นเกี่ยวกับ EPO ที่วัดการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่มีการแสดงข้อได้เปรียบทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญสำหรับ EPO หรือ BO เมื่อเทียบกับยาหลอก โดยสรุป เราไม่พบหลักฐานว่าอาการผิวหนังอักเสบจะดีขึ้นจากการทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากกว่าการทานยาหลอก

พบหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับผลข้างเคียงเล็กน้อยและชั่วคราวสำหรับผู้เข้าร่วมที่ใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาหลอก โดยส่วนใหญ่เป็นผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวดศีรษะชั่วคราว ปวดท้องหรือท้องเสีย EPO มีฤทธิ์ป้องกันการแข็งตัวของเลือด (ทำให้เลือดอุดตันลดลง) เมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มีคำเตือนเกี่ยวกับยาละลายลิ่มเลือดวาร์ฟาริน (Coumadin®) ว่าการรับประทาน EPO อาจทำให้มีโอกาสเลือดออกเพิ่มขึ้น รายงานฉบับหนึ่งเตือนว่าหากใช้ EPO เป็นเวลานาน (เกิน 1 ปี) อาจมีความเสี่ยงต่อการอักเสบ การเกิดลิ่มเลือด และภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจาก EPO จะสะสมในเนื้อเยื่ออย่างช้า ๆ รายงานอีกฉบับระบุถึงกรณีเดียวที่คิดว่า EPO ก่อให้เกิดอันตราย เราไม่พบหลักฐานทางคลินิกของอันตรายดังกล่าวในการทดลองในระยะสั้นเหล่านี้

การตรวจสอบอย่างเป็นระบบนี้ไม่พบหลักฐานว่า BO หรือ EPO มีประสิทธิผลในการรักษาโรคผิวหนังอักเสบ ทั้งผลิตภัณฑ์เหล่านี้และยาหลอกที่ใช้ในการศึกษาต่างก็มีผลข้างเคียงชั่วคราวเล็กน้อยที่คล้ายคลึงกัน โดยส่วนใหญ่มักเกิดกับระบบทางเดินอาหาร

บทนำ

โรคผิวหนังอักเสบคือภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรัง มักเกิดขึ้นในวัยเด็ก เด็กจำนวนมากหายจากอาการผิดปกตินี้เมื่อถึงวัยมัธยมศึกษา และแม้ว่าอาการอาจดีขึ้นตามวัย แต่ก็ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ อาการคันอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ที่มีอาการนี้ใช้ชีวิตไม่สะดวกสบายไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม ดังนั้นอาการคันอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ดูเหมือนว่าการแพร่หลายดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากประชากรย้ายออกจากพื้นที่ชนบทเข้าสู่เมือง ผู้คนบางกลุ่มที่ไม่เชื่อในการรักษาที่เหมาะสมหรือกลัวผลข้างเคียงจากผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็พยายามใช้ทางเลือกเสริมแทนการรักษาแผนปัจจุบัน นี่คือการทบทวนการศึกษาเกี่ยวกับการใช้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (evening primrose oil; EPO) และน้ำมันโบราจ (borage oil; BO) ที่รับประทานเข้าไป โดยทั้งสองชนิดนี้ถือว่ามีประโยชน์เนื่องจากมีกรด gamma-linolenic

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินผลของการรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสหรือน้ำมันโบราจในการรักษาอาการของโรคภูมิแพ้

วิธีการสืบค้น

เราค้นหาฐานข้อมูลต่อไปนี้จนถึงเดือนสิงหาคม 2012: Cochrane Skin Group Specialised Register, CENTRAL ใน The Cochrane Library , MEDLINE (จากปี 1946), EMBASE (จากปี 1974), AMED (จากปี 1985) และ LILACS (จากปี 1982) นอกจากนี้ เรายังค้นหาทะเบียนการทดลองออนไลน์และตรวจสอบบรรณานุกรมของการศึกษาที่รวมอยู่เพื่ออ้างอิงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลองที่เกี่ยวข้อง เราติดต่อกับผู้วิจัยในการทดลองและบริษัทยาเพื่อพยายามระบุการทดลองที่ยังไม่ได้เผยแพร่และยังคงดำเนินการอยู่ เราได้ดำเนินการค้นหาแยกกันเกี่ยวกับผลข้างเคียงของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสและน้ำมันโบราจในเดือนพฤศจิกายน 2011

เกณฑ์การคัดเลือก

การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม แบบคู่ขนาน หรือแบบไขว้ทั้งหมดที่ศึกษาการรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสหรือน้ำมันโบราจเพื่อรักษาโรคผิวหนังอักเสบ

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้เขียน 2 คน ประเมินการศึกษาตามเกณฑ์การคัดเข้า ประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ และดึงข้อมูลออกมาอย่างเป็นอิสระต่อกัน เราได้รวบรวมผลลัพธ์แบบไดโคทอมัสโดยใช้อัตราส่วนความเสี่ยง (risk ratios; RR) และผลลัพธ์ต่อเนื่องโดยใช้ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (mean difference; MD) หากเป็นไปได้ เราจะรวมผลการศึกษาโดยใช้การวิเคราะห์ random-effects meta-analysis และทดสอบทางสถิติของความความแตกต่างระหว่างการศึกษาโดยใช้ทั้งการทดสอบ Chi² และการทดสอบสถิติ I² เราเสนอผลลัพธ์โดยใช้ forest plots พร้อมช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI)

ผลการวิจัย

การศึกษาทั้งหมด 27 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 1596 ราย) ที่เข้าเกณฑ์การรวม: การศึกษา 19 ฉบับ ประเมินน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส และการศึกษา 8 ฉบับ ประเมินน้ำมันโบราจ จากการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังของผลลัพธ์จากการศึกษา 7 ฉบับ พบว่า EPO ไม่สามารถช่วยรักษาอาการผิวหนังอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญ ตามที่รายงานโดยผู้เข้าร่วมการศึกษาโดยใช้มาตราส่วนเปรียบเทียบภาพตั้งแต่ 0 ถึง 100 (MD -2.22, 95% CI -10.48 ถึง 6.04, ผู้เข้าร่วมการศึกษา 176 ราย, การทดลอง 7 ฉบับ) และมาตราส่วนเปรียบเทียบภาพตั้งแต่ 0 ถึง 100 สำหรับแพทย์ (MD -3.26, 95% CI -6.96 ถึง 0.45, ผู้เข้าร่วมการศึกษา 289 ราย, การทดลอง 8 ฉบับ) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มยาหลอก

การรักษาด้วย BO ยังไม่สามารถลดอาการของโรคผิวหนังอักเสบโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาหลอก ตามที่รายงานโดยผู้เข้าร่วมและแพทย์ แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำการวิเคราะห์เมตต้าได้ เนื่องจากการศึกษาได้รายงานผลในรูปแบบที่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงของการมีอคติ การศึกษาส่วนใหญ่มีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำ โดยเราตัดสินว่าการศึกษาที่รวมอยู่ 67% มี ความเสี่ยงของการมีอคติต่ำในเรื่องการสร้างลำดับสุ่ม; 44% สำหรับการปกปิดการจัดสรร; 59% สำหรับการปกปิด; และ 37% สำหรับอคติอื่น ๆ

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ข้อแนะนำสำหรับการปฏิบัติ

น้ำมันโบราจและน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสชนิดรับประทานไม่มีผลต่อผิวหนังอักเสบ แต่การอาการที่ดีขึ้นนั้นคล้ายคลึงกับยาหลอกที่ใช้ในการทดลอง การให้ BO และ EPO ชนิดรับประทานไม่ได้ผลในการรักษาโรคผิวหนังอักเสบ

ในการศึกษานี้ ร่วมกับยาหลอก EPO และ BO มีผลข้างเคียงเล็กน้อยชั่วคราวที่เหมือนกัน ซึ่งพบได้ค่อนข้างบ่อย โดยส่วนใหญ่มักเกิดกับระบบทางเดินอาหาร

การศึกษาในระยะสั้นที่รวมอยู่นี่ไม่ได้ตรวจสอบผลข้างเคียงระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ EPO หรือ BO รายงานกรณีศึกษาเตือนว่าหากใช้ EPO เป็นเวลานาน (เกิน 1 ปี) อาจมีความเสี่ยงต่อการอักเสบ การเกิดลิ่มเลือด และภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ส่วนการศึกษาอีกกรณีพบว่า EPO อาจเพิ่มการเกิดเลือดออกในผู้ที่ใช้ยา Coumadin® (warfarin) ได้

ข้อแนะนำสำหรับการวิจัย

ช่วงความเชื่อมั่นระหว่างการรักษาแบบใช้งานและแบบใช้ยาหลอกนั้นแคบ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างที่มีประโยชน์ทางคลินิก เราจึงสรุปได้ว่าการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EPO หรือ BO สำหรับโรคผิวหนังอักเสบนั้นหาเหตุผลสนับสนุนได้ยาก

การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในระยะยาว

บันทึกการแปล

ผู้แปล แพทย์หญิงชุติมา ชุณหะวิจิตร วันที่ 12 พฤศจิกายน 2024

การอ้างอิง
Bamford JTM, Ray S, Musekiwa A, van Gool C, Humphreys R, Ernst E. Oral evening primrose oil and borage oil for eczema. Cochrane Database of Systematic Reviews 2013, Issue 4. Art. No.: CD004416. DOI: 10.1002/14651858.CD004416.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า