ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำเพื่อชักนำการเจ็บครรภ์

คำถามคืออะไร?

วัตถุประสงค์ของ Cochrane Review นี้เพื่อให้ทราบว่าการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการชักนำการเจ็บครรภ์คลอดตอนใกล้หรือครบกำหนดและมีประสิทธิผลมากกว่าวิธีการชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการ

ทำไมเรื่องนี้จึงมีความสำคัญ

ที่พบกันมากที่สุด การชักนำการเจ็บครรภ์คลอดอย่างเป็นทางการจะเสนอให้สตรีตั้งครรภ์เมื่อการตั้งครรภ์ต่อไปได้รับการพิจารณาว่าอาจจะมีอันตรายสำหรับมารดาหรือทารกมากกว่าผลข้างเคียงของการชักนำการเจ็บครรภ์คลอด เหตุผลที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการคือการตั้งครรภ์เกินกำหนด (การตั้งครรภ์ที่ต่อเนื่องเกิน 42 สัปดาห์)

การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำเป็นวิธีการที่ค่อนข้างง่ายและราคาไม่แพงเพื่อพยายามลดการใช้วิธีการชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการและสามารถดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นการกระทำโดยแพทย์ใส่หนึ่งหรือสองนิ้วมือลงในส่วนล่างของมดลูก (ปากมดลูก) และใช้การเคลื่อนไหวแบบวงกลมต่อเนื่องเพื่อเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำจากมดลูกส่วนล่าง การชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการคือการกระตุ้นมดลูกด้วยยา เช่น prostaglandins หรือ oxytocin หรือโดยการเจาะถุงน้ำคร่ำที่เลี้ยงทารก (ทำให้ถุงน้ำแตก)

ผู้วิจัยพบหลักฐานเชิงประจักษ์อะไรบ้าง

เราสืบค้นหลักฐานถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 เรารวมการศึกษาแบบสุ่ม 44 เรื่องที่รายงานผลของสตรี 6940 คนจากหลากหลายประเทศรวมถึงประเทศที่มีรายได้สูง ปานกลางและต่ำ

การศึกษาเปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับการไม่มีการกระทำหรือการกระทำหลอกและเปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ากับ prostaglandins ในช่องคลอดหรือในปากมดลูก การกิน misoprostol, oxytocin และการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำซ้ำ

ในการศึกษาเจ็ดเรื่องที่รายงานการสนับสนุนทางการเงิน มีการศึกษาสองเรื่องที่รายงานการสนับสนุนทางการเงินจาก บริษัทยา โดยรวมแล้วความเชื่อมั่นของหลักฐานพบว่าอยู่ในระดับต่ำ

ผลการศึกษาที่สำคัญ

เมื่อเทียบกับการไม่มีการกระทำหรือการกระทำหลอก (การศึกษา 40 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรี 6548 คน) การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการเจ็บครรภ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เราไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจนในการคลอดทางช่องคลอดโดยไม่ต้องการการช่วยเหลือ สตรีอาจมีโอกาสน้อยลงที่จะต้องรับการชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เรายังพบว่าไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างกลุ่มสำหรับการผ่าตัดคลอดการคลอดทางช่องคลอดโดยใช้เครื่องมือหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรงหรือการเสียชีวิตของมารดาหรือทารก

เมื่อเปรียบเทียบกับ vaginal หรือ intracervical prostaglandins (การศึกษาสี่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรี 480 คน) เราไม่พบความแตกต่างในผลลัพธ์ แต่ข้อมูลมีจำกัด

เราพบข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปผลใด ๆ ในการศึกษาเปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับ oxytocin ทางหลอดเลือดดำโดยมีหรือไม่มีการเจาะถุงน้ำคร่ำ หรือ misoprostol โดยการกินหรือสอดช่องคลอด ในทำนองเดียวกันสำหรับการเปรียบเทียบระหว่างความถี่ที่แตกต่างกันของการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ

หลักฐานนี้หมายความว่าอย่างไร

การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำดูเหมือนจะมีประสิทธิผลในการส่งเสริมการเจ็บครรภ์ แต่หลักฐานในปัจจุบันแสดงว่าสิ่งนี้โดยรวมแล้วไม่ได้ส่งผลต่อการคลอดทางช่องคลอดโดยไม่ต้องช่วยเหลือ การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำอาจลดการชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการ มีรายงานการศึกษาเพียงสามเรื่องเกี่ยวกับความพึงพอใจของสตรีในการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ สตรีรายงานความรู้สึกในเชิงบวกกับการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ ในขณะที่ยอมรับว่าอาจรู้สึกไม่สบายแต่พวกเขารู้สึกถึงประโยชน์ที่มากกว่าอันตรายและส่วนใหญ่จะแนะนำสตรีคนอื่น จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลการทบทวนวรรณกรรมของเราและเพื่อระบุเวลาที่เหมาะสำหรับการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำและการทำมากกว่าหนึ่งครั้งจะเป็นประโยชน์หรือไม่ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองของสตรี

บทนำ

การชักนำการเจ็บครรภ์เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นการหดตัวของมดลูกเทียมเพื่อส่งเสริมการเริ่มต้นของการเจ็บครรภ์ มีวิธีการทางเภสัชวิทยา การผ่าตัด และทางกายภาพที่ใช้ในการชักนำให้เจ็บครรภ์ การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำเป็นเทคนิกทางกายภาพโดยแพทย์จะสอดนิ้วหนึ่งหรือสองนิ้วเข้าในปากมดลูกและใช้การเซาะแยกแบบวงกลมอย่างต่อเนื่องเพื่อแยกส่วนล่างของเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำจากมดลูกส่วนล่าง การกระทำนี้จะสร้างฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดบางตัวและการเปิดขยายตัวของปากมดลูกซึ่งอาจส่งเสริมการเจ็บครรภ์ ครั้งนี้เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมที่เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อปี 2005

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินผลกระทบและความปลอดภัยของการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำเพื่อชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ในสตรีที่ตั้งครรภ์ที่ใกล้หรือครบกำหนด (อายุครรภ์ > 36 สัปดาห์)

วิธีการสืบค้น

ผู้วิจัยได้สืบค้นในฐานข้อมูล Pregnancy and Childbirth Group'sTrials Register (25 กุมภาพันธ์ 2019), Clinical Trials.gov, WHO International Clinical Trials Registry Platform (ICTRP) (25 กุมภาพันธ์ 2019) และสืบค้นเอกสารอ้างอิงของรายงานการศึกษาที่สืบค้นได้

เกณฑ์การคัดเลือก

Randomised controlled trials และ quasi-randomised controlled trials ที่เปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำที่ใช้ในการเตรียมปากมดลูกในระยะไตรมาสที่สามหรือการชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ด้วยยาหลอก / ไม่มีการรักษาหรือวิธีการอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในรายการวิธีการชักนำให้เจ็บครรภ์ รวมถึง Cluster-randomised trials แต่พบว่าสืบค้นไม่พบการทดลองดังกล่าว

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวนสองคนได้ทำการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นอิสระต่อกัน เพื่อประเมินงานวิจัยในเรื่องการคัดเข้าในการทบทวน ความเสี่ยงต่อการมีอคติและ การดึงข้อมูล มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ความเห็นที่ขัดแย้งถูกแก้ไขโดยการปรึกษากัน หรือ โดยการใช้ผู้ทบทวนคนที่สามเมื่อจำเป็น ประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานที่ได้โดยวิธีการของเกรด (GRADE)

ผลการวิจัย

เรารวมการศึกษา 44 เรื่อง (20 เรื่องในการปรับปรุงครั้งล่าสุดนี้) รายงานข้อมูลสำหรับสตรี 6940 คนและทารก เราใช้วิธี random effect ตลอด

โดยรวมแล้วความเสี่ยงของอคติของการศึกษา ถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงต่ำหรือไม่ชัดเจนในโดเมนส่วนใหญ่ ความเชื่อมั่นของหลักฐานที่ประเมินโดยใช้ GRADE พบว่าโดยทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ ส่วนใหญ่เกิดจากรูปแบบการศึกษา ความไม่สอดคล้องและความไม่เที่ยง การศึกษาหกเรื่อง (n = 1284) เปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับวิธีการมากกว่าหนึ่งอย่าง และรวมอยู่ในการเปรียบเทียบมากกว่าหนึ่งรายการ

ไม่มีการทดลองที่รายงานผลลัพธ์ของ uterine hyperstimulation ที่มี/ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ (FHR), การแตกของมดลูกหรือ encephalopathy ในทารกแรกเกิด

การศึกษาสี่สิบเรื่อง (มีผู้เข้าร่วม 6548 คน) เปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับไม่มีการรักษา / การกระทำหลอก

สตรีที่ถูกสุ่มให้มีการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำอาจมีแนวโน้มที่จะมีภาวะต่อไปนี้มากกว่า:

·การเจ็บครรภ์ที่เกิดขึ้นเอง (อัตราส่วนความเสี่ยงเฉลี่ย (aRR) 1.21, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 1.08 ถึง 1.34, การศึกษา 17 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 3170 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

แต่มีโอกาสน้อยที่จะได้รับ:

·การชักนให้เจ็บครรภ์ำ (aRR 0.73, 95% CI 0.56 ถึง 0.94, การศึกษา 16 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 3224 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

อาจมีความแตกต่างน้อยหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มสำหรับ:

· การผ่าตัดคลอด (aRR 0.94, 95% CI 0.85 ถึง 1.04, การศึกษา 32 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 5499 คน หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง);

· การคลอดเองทางช่องคลอด (aRR 1.03, 95% CI 0.99 ถึง 1.07, การศึกษา 26 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 4538 คน หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง);

· การเสียชีวิตของมารดาหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง (aRR 0.83, 95% CI 0.57 ถึง 1.20, การศึกษา 17 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 2749 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

· การเสียชีวิตของทารกแรกเกิดหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง (aRR 0.83, 95% CI 0.59 ถึง 1.17, การศึกษา 18 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 3696 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

งานวิจัยสี่เรื่องรายงานข้อมูลสำหรับสตรี 480 คนเปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับ prostaglandins ในช่องคลอด / ปากมดลูก

อาจมีความแตกต่างน้อยหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มสำหรับผลลัพธ์ต่อไปนี้:

· การเจ็บครรภ์เอง (aRR 1.24, 95% CI 0.98 ถึง 1.57, การศึกษา 3 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 339 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

· การชักนำให้เจ็บครรภ์ (aRR 0.90, 95% CI 0.56 ถึง 1.45, การศึกษา 2 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 157 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

· การผ่าตัดคลอด (aRR 0.69, 95% CI 0.44 ถึง 1.09, การศึกษา 3 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 339 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ

· การคลอดเองทางช่องคลอด (aRR 1.12, 95% CI 0.95 ถึง 1.32, การศึกษา 2 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 252 คน หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

· การเสียชีวิตของมารดาหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง (aRR 0.93, 95% CI 0.27 ถึง 3.21, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 87 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

· การเสียชีวิตของทารกแรกเกิดหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง (aRR 0.40, 95% CI 0.12 ถึง 1.33, การศึกษา 2 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 269 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

งานวิจัยหนึ่งเรื่องรายงานข้อมูลสำหรับสตรี 104 คนเปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับ oxytocin ทางหลอดเลือดดำ +/- amniotomy

อาจมีความแตกต่างน้อยหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มสำหรับ:

· การเจ็บครรภ์เอง (aRR 1.32, 95% CI 0.88 ถึง 1.96, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 69 คน หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

· การชักนำให้เจ็บครรภ์ (aRR 0.51, 95% CI 0.05 ถึง 5.42, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 69 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

· การผ่าตัดคลอด (aRR 0.69, 95% CI 0.12 ถึง 3.85, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 69 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ

· มีการรายงานการเสียชีวิตของมารดาหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง แต่ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น

งานวิจัยสองเรื่องให้ข้อมูลสำหรับสตรี 160 คนเปรียบเทียบการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับ vaginal/oral misoprostol

อาจมีความแตกต่างน้อยหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มสำหรับ:

· การผ่าตัดคลอด (aRR 0.82, 95% CI 0.31 ถึง 2.17, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 96 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ

การศึกษาหนึ่งเรื่องให้ข้อมูลสำหรับสตรี 355 คนซึ่งเปรียบเทียบการการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำสัปดาห์ละครั้งกับการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำสองครั้งต่อสัปดาห์และการทำหลอก

อาจมีความแตกต่างน้อยหรือไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มสำหรับ:

· การชักนำให้เจ็บครรภ์ (aRR 1.19, 95% CI 0.76 ถึง 1.85, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 234 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

· การผ่าตัดคลอด (aRR 0.93, 95% CI 0.60 ถึง 1.46, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 234 คน หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ

· การคลอดเองทางช่องคลอด (aRR 1.00, 95% CI 0.86 ถึง 1.17, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 234 คน หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง);

· การเสียชีวิตของมารดาหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง (aRR 0.78, 95% CI 0.30 ถึง 2.02, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 234 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

· การเสียชีวิตของทารกแรกเกิดหรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง (aRR 2.00, 95% CI 0.18 ถึง 21.76, การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 234 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ);

เราไม่พบการศึกษาใดที่เปรียบเทียบการการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำกับการเจาะถุงน้ำคร่ำอย่างเดียวหรือวิธีการอื่น

การศึกษาสามเรื่องให้ข้อมูลสำหรับสตรี 675 คนรายงานว่าสตรีให้ความเห็นดีเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาในการการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ โดยการศึกษาหนึ่งเรื่องรายงานว่า 88% (n = 312) ของสตรีที่ถูกถามในระยะหลังคลอดจะเลือกการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป

การศึกษาสองเรื่องรายงานข้อมูลสำหรับสตรี 290 คนว่าการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ cost effective กว่าการใช้ prostaglandins แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องนี้

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำอาจมีประสิทธิผลในการบรรลุถึงการเกิดการเจ็บครรภ์เอง แต่หลักฐานสำหรับเรื่องนี้มีความเชื่อมั่นต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลแบบ expectant การเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ อาจลดอุบัติการณ์ของการชักนำการเจ็บครรภ์อย่างเป็นทางการ ยังคงมีคำถามว่ามีจำนวนครั้งของการเซาะแยกเยื่อหุ้มถุงน้ำคร่ำ เวลา และอายุครรภ์ที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อสนับสนุนการชักนำการเจ็บครรภ์

บันทึกการแปล

แปลโดย ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 25 เมษายน 2020

Citation
Finucane EM, Murphy DJ, Biesty LM, Gyte GML, Cotter AM, Ryan EM, Boulvain M, Devane D. Membrane sweeping for induction of labour. Cochrane Database of Systematic Reviews 2020, Issue 2. Art. No.: CD000451. DOI: 10.1002/14651858.CD000451.pub3.