ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การผ่าตัดหูรูดโดยการผาตัดส่องกล้องในผู้ใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อหูรูดท่อน้ำดีผิดปกติ (Biliary sphincter of Oddi Dysfunction)

ใจความสำคัญ

– เราไม่ทราบว่าการผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องเมื่อเทียบกับการผ่าตัดหลอกหรือการผ่าตัดหูรูดแบบส่องกล้องแบบคู่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีที่มีความผิดปกติหรือไม่ หรือเปลี่ยนแปลงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง คุณภาพชีวิต และการทำงานของตับ

– เราไม่มีข้อมูลที่เปรียบเทียบการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องกับการผ่าตัดหลอก การขยายบอลลูน papillary ด้วยการส่องกล้อง หรือการผ่าตัดหูรูดแบบส่องกล้องแบบคู่ต่อ การเสียชีวิต ผลไม่พึงประสงค์ที่ไม่ร้ายแรง และการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

– ไม่มีการทดลองเปรียบเทียบการผ่าตัดหูรูดส่องกล้องกับยาหลอกหรือยาอื่น เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกัน

– เราขาดการศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มที่ประเมินผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องในผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

กล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีมีความผิดปกติ คืออะไร

กล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดี หรือ Sphincter of Oddi เป็นลิ้นกล้ามเนื้อที่อยู่รอบฐานของท่อน้ำดีจากถุงน้ำดีและตับอ่อน โดยปกติลิ้นนี้จะปิด (หดตัว) แต่จะคลายตัวเมื่อรับประทานอาหาร เพื่อให้น้ำดีและน้ำย่อยจากตับอ่อนเข้าไปในลำไส้เล็กเพื่อช่วยย่อยอาหาร

กล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีผิดปกติเป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหูรูดไม่สามารถหดตัวและคลายตัวได้ตามปกติ ทำให้เกิดการขัดขวางการไหลเวียนของน้ำดี ส่งผลให้เกิดอาการปวด

กล้ามเนื้อหูรูดของทางท่อทางเดินน้ำดีผิดปกติ รักษาอย่างไร

มีการรักษาหลายวิธี เช่น การใช้ยา การผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้อง (การตัดกล้ามเนื้อหูรูด/กล้ามเนื้อของออดดีโดยใช้กล้องเอนโดสโคป) หรือการผ่าตัด (การระบายน้ำดีไปยังลำไส้)

การรักษาโดยการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดโดยการส่องกล้องคืออะไร

การผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดเป็นการผ่าตัดเพื่อตัดกล้ามเนื้อหูรูดที่ปลายท่อน้ำดีและท่อตับอ่อนเพื่อเปิดเข้าไปในลำไส้เล็ก การส่องกล้องหมายความว่าทำได้โดยใช้กล้องเอนโดสโคป ซึ่งเป็นท่อที่มีความยืดหยุ่นพร้อมกล้องและแสงที่สอดจากปากไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูด ขั้นตอนนี้ใช้เพื่อขจัดนิ่ว (นิ่วขนาดเล็กที่มีโคเลสเตอรอลที่ก่อตัวในถุงน้ำดีหรือท่อทางเดินน้ำดี) หรือเมื่อมีการอุดตันอื่น ๆ

เราต้องการค้นหาอะไร

เราต้องการทราบว่าการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ไม่สำเร็จในการรักษาลดลงหรือไม่ ทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ (เช่น การเสียชีวิตและผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรงอื่น ๆ ) และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ระยะเวลาการนอนโรงพยาบาล และการทำงานของตับ (วัดโดยใช้การตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยและติดตามโรคตับหรือความเสียหาย) ในการทำเช่นนี้ เรามองหาการศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มที่เปรียบเทียบการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องกับยาหลอก (ยาหลอกที่ไม่มีผลการรักษา) การผ่าตัดหลอก (การผ่าตัดปลอม) ; การรักษาด้วยยาใดๆ ที่บริหารยาทางปากหรือผ่านการส่องกล้อง เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกัน หรือการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดโดยการส่องกล้องประเภทอื่น การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็นสองกลุ่มขึ้นไป เพื่อเปรียบเทียบผลของการรักษา (เช่น การผ่าตัดเปรียบเทียบกับการไม่รักษา ยาหลอก หรือกับการรักษาที่มีอยู่)

เราทำอะไรบ้าง

เราค้นหาฐานข้อมูลทางการแพทย์สำหรับการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของเรา เราสรุปผลลัพธ์และประเมินคุณภาพของหลักฐาน

ผู้วิจัยค้นพบอะไรบ้าง

เราพบการทดลอง 4 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 433 รายที่มีกล้ามเนื้อหูรูดของทางเดินน้ำดีผิดปกติ การทดลองทั้งหมดมีข้อจำกัดในการออกแบบการทดลอง การดำเนินการ และการรายงานผลลัพธ์ การทดลองที่ใหญ่ที่สุดมีผู้เข้าร่วม 214 คน และการทดลองที่เล็กที่สุดมีผู้เข้าร่วม 47 คน การทดลอง 2 ฉบับ ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา 1 ฉบับ ในออสเตรเลีย และอีก 1 ฉบับในญี่ปุ่น การศึกษากินเวลา 1 ถึง 4 ปี การทดลอง 1 ฉบับ มีการเปรียบเทียบ 2 อย่าง มีการศึกษาเพียง 1 ฉบับ ที่ให้ข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการได้การสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ (ได้รับทุนจากสถาบันเบาหวานและระบบทางเดินอาหารและโรคไตแห่งชาติ (the National Institutes of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases; NIDDK)) การทดลอง 2 ฉบับ ดูเหมือนจะได้รับทุนสนับสนุนจากศูนย์สุขภาพในพื้นที่หรือมหาวิทยาลัยที่ผู้วิจัยทำงานอยู่

การทดลองเปรียบเทียบการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องกับการผ่าตัดหลอก (การทดลอง 3 ฉบับ) การขยายบอลลูนโดยการส่องกล้อง (ทางเลือกของการผ่าตัดหูรูดโดยการส่องกล้องที่ใช้บอลลูนเพื่อขยายส่วนที่แคบของกล้ามเนื้อหูรูด) (การทดลอง 1 ฉบับ) หรือการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องแบบคู่ (การผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องสำหรับ กล้ามเนื้อหูรูดของทางเดินน้ำดีและตับอ่อน) (การทดลอง 1 ฉบับ) ไม่มีการทดลองเปรียบเทียบการผ่าตัดหูรูดส่องกล้องกับยาหลอกหรือการรักษาด้วยยาใดๆ

เราทำการวิเคราะห์อภิมานได้เพียงครั้งเดียว (การวิเคราะห์สรุปที่ต้องการข้อมูลจากการทดลองอย่างน้อย 2 ครั้ง) ใน 'จำนวนผู้ที่ได้รับการรักษาที่ไม่ประสบผลสำเร็จใน 1 ถึง 4 ปีหลังจากสิ้นสุดการรักษา' โดยมีข้อมูลจากการทดลอง 3 ฉบับที่เปรียบเทียบการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรโดยการส่องกล้องกับการผ่าตัดหลอก เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมแบบสุ่มจำนวนน้อยในการศึกษาวิจัย และการทดลองจำนวนน้อย เราจึงไม่สามารถสรุปเกี่ยวกับผลลัพธ์นี้ได้ เราไม่สามารถสรุปเกี่ยวกับผลกระทบร้ายแรงที่ไม่พึงประสงค์ได้เนื่องจากมีการทดลองเพียง 1 ฉบับ เท่านั้นที่ให้ข้อมูลด้านนี้

เราพบผลลัพธ์ที่สรุปไม่ได้สำหรับผลลัพธ์ 'ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง' เมื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของการผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องกับการขยายบอลลูน papillary ด้วยการส่องกล้อง และสำหรับ 'จำนวนผู้ที่การรักษาไม่สำเร็จในช่วง 1 ถึง 4 ปีหลังจากสิ้นสุดการรักษา' เมื่อเปรียบเทียบการผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องกับการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดโดยการส่องกล้องแบบคู่ เนื่องจากมีการทดลองเพียง 1 ฉบับ ในการเปรียบเทียบแต่ละอย่างที่ให้ข้อมูลสำหรับผลลัพธ์ทั้ง 2 ผลลัพธ์

ไม่มีการศึกษาใดรายงานการเสียชีวิต ระยะเวลาในการอยู่โรงพยาบาล หรือผลกระทบที่ไม่ร้ายแรง

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

เราไม่แน่ใจอย่างมากเกี่ยวกับผลลัพธ์เนื่องจากผู้เข้าร่วมอาจรู้ว่าการรักษาใดที่พวกเขาได้รับ มีปัญหาเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการวิจัย และมีการทดลองและข้อมูลน้อย

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานเป็นข้อมูลล่าสุดจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023

บทนำ

กล้ามเนื้อหูรูดของทางเดินน้ำดี (Sphincter of Oddi) ประกอบด้วยกลุ่มกล้ามเนื้อที่ล้อมรอบส่วนปลายของท่อน้ำดีร่วมและท่อตับอ่อนที่ควบคุมการไหลออกของน้ำดีและน้ำย่อยจากท่อเหล่านี้ กล้ามเนื้อหูรูดของทางเดินน้ำดีผิดปกติ หมายถึง การเปิดและปิดของลิ้นกล้ามเนื้อมีความผิดปกติ ซึ่งทำให้การไหลเวียนของน้ำดีและน้ำย่อยตับอ่อนลดลง

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินประโยชน์และผลเสียของการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีด้วยการส่องกล้องทุกประเภท เปรียบเทียบกับการรักษาหลอก การผ่าตัดหลอก หรือการรักษาด้วยยาใดๆ ที่ให้รับประทานหรือโดยการส่องกล้อง เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกัน หรือการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องประเภทอื่นในผู้ใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีทำงานผิดปกติ

วิธีการสืบค้น

เราใช้วิธีการค้นหาแบบมาตรฐานและครอบคลุมตามวิธีการของ Cochrane วันที่ค้นหาล่าสุดคือ 16 พฤษภาคม 2023

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวมการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่ประเมินการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องทุกประเภทเทียบกับยาหลอก การผ่าตัดหลอก หรือการรักษาด้วยยาใดๆ เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกัน หรือการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องประเภทอื่นในผู้ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีกล้ามเนื้อหูรูดท่อน้ำดีผิดปกติ โดยไม่คำนึงถึงปี ภาษาของ การตีพิมพ์ รูปแบบ หรือผลลัพธ์ที่รายงาน

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

เราใช้วิธีมาตรฐานของ Cochrane และ Review Manager เพื่อเตรียมการทบทวนวรรณกรรม ผลลัพธ์หลักของเรา คือ สัดส่วนของผู้เข้าร่วมที่การรักษาไม่ประสบผลสำเร็จ; สัดส่วนของผู้เข้าร่วมที่มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง 1 เหตุการณ์ขึ้นไป และสุขภาพที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิต ผลลัพธ์รองของเราคือ การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ สัดส่วนของผู้เข้าร่วมที่มีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ไม่ร้ายแรงอย่างน้อย 1 เหตุการณ์ ระยะเวลาที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และสัดส่วนของผู้เข้าร่วมที่ไม่มีการปรับปรุงที่ดีขึ้นของการทำงานของตับ เราใช้ข้อมูลผลลัพธ์ในการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดและ random-effects model สำหรับการวิเคราะห์หลักของเรา เราประเมินความเสี่ยงของการมีอคติของการทดลองที่รวบรวมมาโดยใช้เครื่องมือ RoB 2 และความเชื่อมั่นของหลักฐานโดยใช้ GRADE เราวางแผนที่จะนำเสนอผลลัพธ์เป็นระยะเวลาจนถึงเกิดเหตุการณ์ (time-to-event) เป็น Hazard ratios (HR) เรานำเสนอผลลัพธ์แบบแบ่งขั้วเป็นอัตราส่วนความเสี่ยง (risk ratios; RR) และผลลัพธ์แบบต่อเนื่องเป็นผลต่างค่าเฉลี่ย (mean difference; MD) โดยมีช่วงความเชื่อมั่น 95% (confidence intervals; CI)

ผลการวิจัย

เรารวบรวมการทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม 4 ฉบับ มีผู้เข้าร่วม 433 คน การทดลองเผยแพร่ระหว่างปี 1989 ถึง 2015

ผู้เข้าร่วมการทดลองมีกล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีผิดปกติ การทดลอง 2 ฉบับ ดำเนินการในสหรัฐอเมริกา 1 ฉบับ ในออสเตรเลีย และอีก 1 ฉบับในญี่ปุ่น การศึกษา 1 ฉบับ คือการทดลองแบบหลายศูนย์ที่ดำเนินการใน 7 ศูนย์ ในสหรัฐอเมริกา และอีก 3 ฉบับที่เหลือเป็นการทดลองแบบศูนย์เดียว การทดลอง 1 ฉบับใช้การสุ่มแบบ 2 ขั้นตอน ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ 2 อย่าง จำนวนผู้เข้าร่วมการทดลองทั้ง 4 ฉบับ อยู่ระหว่าง 47 ถึง 214 คน (มัธยฐาน 86 คน) โดยมีอายุเฉลี่ย 45 ปี และสัดส่วนเฉลี่ยของผู้ชายคือ 49% ระยะเวลาติดตามผลอยู่ระหว่าง 1 ปีถึง 4 ปีหลังจากสิ้นสุดการรักษา การทดลองทั้งหมดประเมินผลลัพธ์ 1 รายการหรือมากกว่าที่เราสนใจในการทบทวนของเรา การทดลองให้ข้อมูลสำหรับการเปรียบเทียบและผลลัพธ์ด้านล่านี้ ซึ่งสอดคล้องกับระเบียบการทบทวนของเรา ความเชื่อมั่นของหลักฐานสำหรับผลลัพธ์ทั้งหมดต่ำมาก

การผ่าตัดหูรูดโดยการผ่าตัดส่องกล้องเทียบกับการรักษาหลอก

การผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องเทียบกับการหลอกอาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีผลเลยต่อความสำเร็จของการรักษา (RR 1.05, 95% CI 0.66 ถึง 1.66; การทดลอง 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 340 คน; ช่วงติดตามผล 1 ถึง 4 ปี); เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง (RR 0.71, 95% CI 0.34 ถึง 1.46; การทดลอง 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 214 คน; ติดตามผล 1 ปี), คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (Physical scale) (MD −1.00, 95% CI −3.84 ถึง 1.84; การทดลอง 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 214 คน; ติดตามผล 1 ปี) คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (Mental scale) (MD −1.00, 95% CI −4.16 ถึง 2.16; การทดลอง 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 214 คน; ติดตามผล 1 ปี) และ ไม่มีการปรับปรุงในผลการทดสอบการทำงานของตับ (RR 0.89, 95% CI 0.35 ถึง 2.26; การทดลอง 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 47 คน; ติดตามผล 1 ปี) แต่หลักฐานมีความไม่แน่นอนอย่างมาก

การผ่าตัดหูรูดโดยการผ่าตัดส่องกล้องเทียบกับการขยายบอลลูน papillary ด้วยการส่องกล้อง

การผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดโดยการผ่าตัดส่องกล้องกับการขยายบอลลูน papillary ด้วยการส่องกล้อง อาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีผลกระทบต่อเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง (RR 0.34, 95% CI 0.04 ถึง 3.15; การทดลอง 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 91 คน; ติดตามผล 1 ปี) แต่หลักฐานมีความไม่แน่นอนอย่างมาก

การผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดโดยการส่องกล้อง เทียบกับ การผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดโดยการผ่าตัดส่องกล้องแบบคู่

การผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องเทียบกับการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องแบบคู่อาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีผลเลยต่อความสำเร็จของการรักษา (RR 0.65, 95% CI 0.32 ถึง 1.31; การทดลอง 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 99 คน; ติดตามผล 1 ปี) แต่หลักฐานมีความไม่แน่นอนอย่างมาก

แหล่งเงินทุน

การทดลอง 1 ฉบับไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการได้รับการสนับสนุนทางด้านทุนทรัพย์ การทดลอง 1 ฉบับ ได้รับทุนจากมูลนิธิ (สถาบันโรคเบาหวานและระบบทางเดินอาหารและโรคไตแห่งชาติ NIDDK) และการทดลอง 2 ฉบับ ดูเหมือนจะได้รับทุนจากสถาบันสุขภาพหรือมหาวิทยาลัยในพื้นที่ที่ผู้วิจัยทำงานอยู่

เราไม่พบการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่กำลังดำเนินอยู่

ข้อสรุปของผู้วิจัย

จากหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมากจากการทดลองที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้ เราไม่ทราบว่าการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องเทียบกับการรักษาหลอกหรือเทียบกับการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องคู่ เพิ่ม ลด หรือไม่สร้างความแตกต่างกับจำนวนผู้ที่ประสบความสำเร็จในการรักษา ถ้าการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องเทียบกับการรักษาหลอกหรือเทียบกับการขยายบอลลูน papillary ด้วยการส่องกล้อง เพิ่ม ลด หรือไม่สร้างความแตกต่างให้กับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง หรือหากการผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องเทียบกับการรักษาหลอกทำให้ดีขึ้น แย่ลง หรือไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตและการทำงานของตับในผู้ใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อหูรูดของท่อน้ำดีที่ผิดปกติ

หลักฐานเกี่ยวกับผลของการผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดด้วยการส่องกล้องเปรียบเทียบกับการการรักษาหลอก การขยายบอลลูน papillary ด้วยการส่องกล้อง หรือการผ่าตัดหูรูดส่องกล้องแบบคู่ ในเรื่องของการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ไม่ร้ายแรง และระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลมีข้อมูลไม่เพียงพอ

เราไม่พบการทดลองที่เปรียบเทียบการผ่าตัดหูรูดผ่านการส่องกล้องกับยาหลอกหรือเทียบกับการรักษาด้วยยาอื่นๆ เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกัน

การทดลองทั้ง 4 ฉบับมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอและขาดข้อมูลการทดลองเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่สำคัญทางคลินิก เราขาดการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มเพื่อประเมินผลทางคลินิกและที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลของการผ่าตัดหูรูดด้วยการส่องกล้องในผู้ใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อหูรูดท่อน้ำดีที่มีความผิดปกติ

บันทึกการแปล

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย พญ ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 4 ตุลาคม 2024

Citation
Naing C, Ni H, Aung HH, Pavlov CS. Endoscopic sphincterotomy for adults with biliary sphincter of Oddi dysfunction. Cochrane Database of Systematic Reviews 2024, Issue 3. Art. No.: CD014944. DOI: 10.1002/14651858.CD014944.pub2.