ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มีประโยชน์และอันตรายของ daratumumab อะไรบ้างที่เพิ่มเติมจากยาต้านมะเร็งไมอีโลม่าเมื่อเทียบกับยาต้านมะเร็งไมอีโลม่าเพียงอย่างเดียวในผู้ใหญ่ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมัลติเพิลไมอีโลม่าที่ไม่เหมาะกับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์

ใจความสำคัญ

• การวิจัยแสดงให้เห็นว่าสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งมัลติเพิลไมอีโลม่า การเพิ่มยาชนิดใหม่ที่เรียกว่า daratumumab เข้ากับการรักษามะเร็งไมอีโลม่าแบบมาตรฐาน อาจช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นกว่าการรักษามะเร็งไมอีโลม่าแบบมาตรฐานเพียงอย่างเดียว

• การเพิ่ม daratumumab อาจเพิ่มโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรง แต่จะไม่เพิ่มโอกาสที่จะเกิดอาการข้างเคียงโดยรวมตามเกณฑ์การจัดระดับผลข้างเคียงโดยทั่วไป (CTCAE) ระดับ ≥ 3

• การรักษาร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มโอกาสเกิดการติดเชื้อ

โรคมัลติเพิล มัยอิโลม่า (multiple myeloma) คืออะไร

โรคมัลติเพิล มัยอิโลม่า เป็นมะเร็งในเม็ดเลือดชนิดหนึ่ง โรคนี้เกิดขึ้นเมื่อเซลล์พลาสมาผิดปกติ ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งในไขกระดูก ที่เพิ่มตัวมากขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ มะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต

การรักษามะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าในผู้ใหญ่ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยโรคและไม่สามารถรับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ได้อย่างไร

ผู้ใหญ่ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าที่ไม่เหมาะกับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ (ขั้นตอนที่เซลล์เม็ดเลือดที่เสียหายจะถูกแทนที่ด้วยเซลล์ที่แข็งแรง) จะได้รับการรักษาที่ประกอบไปด้วยยาหลายชนิดรวมกัน

เราต้องการค้นหาอะไร

Daratumumab เป็นยาที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งเป็นสาเหตุการตายของเซลล์มัยอิโลม่า การเพิ่ม daratumumab ได้รับการอนุมัติสำหรับผู้ที่เคยลองการรักษาอื่นๆ สำหรับโรคมะเร็งชนิดมัลติเพิล มัยอิโลม่ามาแล้ว แต่โรคกลับมาเป็นอีกหรือไม่เคยมีอาการดีขึ้นเลย เราต้องการค้นหาว่าการใช้ daratumumab ร่วมกับยาต้านมะเร็งไมอีโลม่ามีข้อดีหรือข้อเสียในผู้ใหญ่ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าที่ไม่เหมาะกับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เมื่อเปรียบเทียบกับยาต้านมะเร็งมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว

เราทำอะไรไปแล้วบ้าง

เราได้ค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบประโยชน์และอันตรายของยา daratumumab ร่วมกับยาต้านมะเร็งไมอีโลม่าเทียบกับยาต้านมะเร็งไมอีโลม่าชนิดเดียวกันเพียงอย่างเดียวในผู้ใหญ่ที่เพิ่งได้รับการยืนยันการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่า ที่ไม่เหมาะกับการให้เคมีบำบัดปริมาณที่สูงร่วมกับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ เราได้เปรียบเทียบและสรุปผล และให้คะแนนความเชื่อมั่นของเราต่อหลักฐาน

เราค้นพบอะไร

เราพบการศึกษา 4 ฉบับ ที่เเป็นผู้ใหญ่ทั้งหมด 1783 ราย (ทั้งหญิงและชาย) ที่เพิ่งได้รับการยืนยันว่าตรวจพบมะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมในการศึกษาทั้ง 3 ฉบับ คือ 69 ถึง 74 ปี

การรักษาร่วมด้วย daratumumab อาจช่วยเพิ่มการมีชีวิตอยู่ของผู้คนได้ หลังจากการรักษาครบ 36 เดือน ผู้เข้าร่วมที่ยังมีชีวิตอยู่ 695 รายจาก 1000 รายที่ได้รับการรักษามะเร็งมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว และ 792 รายจาก 1000 รายที่ได้รับการรักษาแบบเดียวกันร่วมกับ daratumumab

การรักษาต้านมะเร็งร่วมด้วย daratumumab อาจช่วยเพิ่มระยะเวลาที่มะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าไม่แย่ลงไปอีก หลังจากการรักษา 24 เดือน มีผู้ป่วยที่เข้าร่วม 494 รายในจำนวน 1000 ราย ไม่มีอาการที่แย่ลง ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาต้านมะเร็งมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว และผู้ป่วยที่เข้าร่วม 713 รายในจำนวน 1000 ราย ไม่มีอาการที่แย่ลง ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาแบบเดียวกันร่วมกับ daratumumab

การรักษาต้านมะเร็งที่ร่วมด้วย daratumumab อาจช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตได้เล็กน้อยในเวลา 12 เดือน แต่เรามีความเชื่อมั่นในผลลัพธ์นี้เล็กน้อย กลุ่มที่ได้รับ daratumumab มีคะแนนสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมะเร็งมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว 2.19 คะแนนในระบบคะแนน 0 ถึง 100

การรักษาที่ร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ (ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการรักษาที่ส่งผลให้ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต) หลังจากการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่ทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) พบว่าผู้เข้าร่วมจำนวน 505 รายจาก 1000 ราย ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว เผชิญกับผลข้างเคียงที่รุนแรง ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับ daratumumab ร่วมด้วยนั้น พบว่ามีผู้เข้าร่วมจำนวน 596 ราย จาก 1000 ราย ที่เผชิญกับผลข้างเคียงที่รุนแรง

มีแนวโน้มว่าจะมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยระหว่างกลุ่มในผลข้างเคียงโดยรวม (ระดับ CTCAE ≥ 3) หลังจากการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่ทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) พบว่าผู้เข้าร่วมจำนวน 953 รายจาก 1000 ราย ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว เผชิญกับผลข้างเคียง ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับ daratumumab ร่วมด้วยนั้น พบว่ามีผู้เข้าร่วมจำนวน 963 ราย จาก 1000 ราย ที่เผชิญกับผลข้างเคียง

การรักษาต้านมะเร็งที่ร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ (CTCAE ระดับ ≥ 3) หลังจากการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่ทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) พบว่าผู้เข้าร่วมจำนวน 224 รายจาก 1000 ราย ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านมัยอิโลม่าเพียงอย่างเดียว เผชิญกับภาวะติดเชื้อ ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับ daratumumab ร่วมด้วยนั้น พบว่ามีผู้เข้าร่วมจำนวน 340 ราย จาก 1000 ราย ที่ เผชิญกับภาวะติดเชื้อ

ข้อจำกัดของหลักฐานคืออะไร

เรามีความมั่นใจปานกลางในหลักฐานเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของผู้เข้าร่วมในการศึกษาเนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วนในการศึกษาทดลอง 1 ฉบับ

เรามีความมั่นใจปานกลางในหลักฐานเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาหลังการรักษาที่มะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่าไม่แย่ลง, ผลข้างเคียงที่รุนแรง, ผลข้างเคียง (ระดับ CTCAE ≥ 3) และการติดเชื้อ (ระดับ CTCAE ≥ 3) เนื่องมาจากความเป็นไปได้ที่ผู้เข้าร่วมและบุคลากรในการศึกษาทราบถึงการรักษาที่ได้รับ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ และเพราะผลของผลข้างเคียงที่รุนแรงนั้นแตกต่างกันมากในแต่ละการศึกษาที่นำเข้ามา

เรามีความเชื่อมั่นเล็กน้อยในหลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตเนื่องจากความเป็นไปได้ที่ผู้เข้าร่วมและบุคลากรในการศึกษาทราบถึงการรักษาที่ได้รับ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ และเนื่องจากขนาดการศึกษามีขนาดเล็ก

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

หลักฐานเป็นปัจจุบันถึงเดือนกันยายน 2023 การศึกษาวิจัยใหม่ๆ เกี่ยวกับ daratumumab หลายฉบับกำลังดำเนินอยู่ ซึ่งอาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และอันตรายที่เป็นไปได้ของ daratumumab สำหรับมะเร็งมัลติเพิล มัยอิโลม่า เราจะอัปเดตการทบทวนวรรณกรรมนี้เมื่อการศึกษาดังกล่าวเสร็จสิ้น

บทนำ

มะเร็งชนิดมัลติเพิลไมอีโลม่า (multiple myeloma; MM) เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นในระบบเลือดซึ่งระบุลักษณะเฉพาะจากการแพร่กระจายของเซลล์พลาสมาชนิดร้ายแรงในไขกระดูก สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่เหมาะที่จะรับเคมีบำบัดในปริมาณสูงและการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากตัวผู้ป่วยเอง การผสมผสานการรักษาที่แนะนำในแนวทางการบำบัดรักษาแรกโดยทั่วไปประกอบด้วยการผสมผสานของยาในกลุ่มอัลคิเลต, ยาปรับภูมิคุ้มกัน และกลุ่มยาที่ยับยั้งโปรตีเอโซม daratumumab คือแอนติบอดีโมโนโคลนัล IgG1k ของมนุษย์ที่มีเป้าหมายจับกับ CD38 ซึ่งได้รับการพัฒนาและอนุมัติใหม่ล่าสุดสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น MM เซลล์มัลติเพิลไมอีโลม่าจะมีการแสดงการสร้างโปรตีน CD-38 ที่มากเกินไปอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นไกลโคโปรตีนทรานส์เมมเบรนชนิด II ขนาด 46 kDa ซึ่งทำให้เซลล์ไมอีโลม่าเป็นเป้าหมายเฉพาะของ daratumumab

วัตถุประสงค์

เพื่อพิจารณาประโยชน์และอันตรายของ daratumumab ในการรักษาเพิ่มเติมจาก antineoplastic therapy เมื่อเทียบกับ antineoplastic therapy เพียงอย่างเดียวในผู้ใหญ่ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น MM ซึ่งไม่เหมาะต่อการปลูกถ่าย

วิธีการสืบค้น

เราค้นหาใน Cochrane Central Register of Controlled Trials (CENTRAL), MEDLINE, Embase,EU Clinical Trials Register, ClinicalTrials.gov, WHO ICTRP, และ รายงานการประชุมวิชาการ ตั้งแต่ 2010 ถึง กันยายน 2023

เกณฑ์การคัดเลือก

เราได้รวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมที่เปรียบเทียบการรักษาด้วย daratumumab เพิ่มเติมจาก antineoplastic therapy เทียบกับ antineoplastic therapy เพียงอย่างเดียวในผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีการวินิจฉัยยืนยันว่าเป็น MM เราไม่นำเข้าการทดลองแบบกึ่งสุ่มและการทดลองที่มีผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้ใหญ่ต่ำกว่า 80% เว้นแต่จะมีการวิเคราะห์กลุ่มย่อยของผู้ใหญ่ที่เป็น MM

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้เขียนบทความ 2 คน ดำเนินการอย่างอิสระต่อกันในการคัดกรองผลลัพธ์ของการสืบค้นเพื่อพิจารณาตามเกณฑ์การคัดเข้า เราได้บันทึกขั้นตอนการเลือกการศึกษาไว้ใน flowchart ตามคำแนะนำจาก the PRISMA statement เราประเมิน ความเสี่ยงของการมีอคติ ในงานวิจัยที่นำเข้ามาด้วย RoB 1 และประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐาน โดยใช้ GRADE เราใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบมาตรฐานของ Cochrane

ผลการวิจัย

เรารวบรวมการทดลองแบบ open-label, two-armed randomised controlled trials จำนวน 4 ฉบับ (จากเอกสารที่เผยแพร่ 34 ฉบับ) ที่มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1783 ราย การทดลอง ALCYONE, MAIA และ OCTANS เป็นศูนย์การทดลองที่มีหลายแห่งที่ดำเนินการทั่วโลกในประเทศที่มีรายได้ปานกลางและสูง การทดลอง AMaRC 03-16 ดำเนินการทดลองในประเทศรายได้สูง 1 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมคือ 69 ถึง 74 ปี และสัดส่วนผู้หญิงอยู่ระหว่าง 40% ถึง 54%

การทดลองทั้งหมดประเมินการบำบัดรักษาต้านมะเร็งโดยมีทั้งการใช้ยา daratumumab และไม่มี ในการทดลอง ALCYONE และ OCTANS จะมีการผสม daratumumab เข้ากับ bortezomib และ melphalan-prednisone ในการศึกษาวิจัย AMaRC 03-16 ได้มีการผสมกับ bortezomib, cyclophosphamide และ dexamethasone และในการศึกษาวิจัย MAIA ได้ผสมกับ lenalidomide และ dexamethasone

การศึกษาที่รวบรวมมาไม่มีการปิดบังข้อมูล (มีความเสี่ยงของการมีอคติสูงด้านการปฏิบัติต่อผู้เข้าร่วมโครงการ และด้านการประเมินผล) การศึกษา 1 ฉบับ นำเสนอเพียงบทคัดย่อเท่านั้น ดังนั้น ความเสี่ยงของการมีอคติ ในเกณฑ์การประเมินส่วนใหญ่จึงไม่ชัดเจน การศึกษาอีก 3 ฉบับ ตีพิมพ์เป็นบทความเต็ม นอกจากการปิดบังข้อมูลแล้ว การศึกษานี้ยังมีความเสี่ยงของการมีอคติที่ต่ำ

การอยู่รอดโดยรวม

เป็นไปได้ว่าการรักษาต้านมะเร็งร่วมกับ daratumumab น่าจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยรวมเมื่อเทียบกับการรักษาแบบเดียวกันโดยไม่มี daratumumab (อัตราส่วนความเสี่ยง (HR) 0.64, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.53 ถึง 0.76, การศึกษา 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1443 คน, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) หลังจากการติดตามผลเป็นเวลา 36 เดือน อัตราการรอดชีวิตของผู้เข้าร่วม 695 รายจาก 1000 ราย ในกลุ่มควบคุม ขณะที่อัตราการรอดชีวิตของผู้เข้าร่วม 792 รายจาก 1000 ราย ในกลุ่มที่มีการใช้ daratumumab (95% CI 758 ถึง 825)

การอยู่รอดโดยไม่มีการลุกลามของโรค

การรักษาต้านมะเร็งร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มการอยู่รอดชีวิตโดยปราศจากการลุกลามของโรคได้ เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาโดยไม่ใช้ daratumumab (HR 0.48, 95% CI 0.39 ถึง 0.58, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1663 ราย, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) หลังจากการติดตามผลเป็นเวลา 24 เดือน พบว่าการรอดชีวิตโดยไม่มีการลุกลามของโรคอยู่ที่ 494 ต่อผู้เข้าร่วม 1000 รายในกลุ่มควบคุม เทียบกับ 713 ต่อผู้เข้าร่วม 1000 รายในกลุ่มที่ได้รับ daratumumab (95% CI 664 ถึง 760)

คุณภาพชีวิต

การรักษาที่เพิ่มเติมด้วย daratumumab อาจส่งผลให้คุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมากหลัง 12 เดือน โดยประเมินบนมาตราสถานะสุขภาพระดับโลก (global health status scale; GHS) EORTC QLQ-C30 เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาที่ปราศจาก daratumumab (ความแตกต่างเฉลี่ย 2.19, 95% CI -0.13 ถึง 4.51, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1096 ราย, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) มาตราส่วนตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยยิ่งค่าสูงขึ้นแสดงว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น

อัตราการเสียชีวิตขณะอยู่ในการศึกษา

การรักษาที่เสริมด้วย daratumumab อาจลดอัตราการเสียชีวิตขณะอยู่ในการศึกษาเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาที่ปราศจาก daratumumab (อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 0.72, 95% CI 0.62 ถึง 0.83, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1644 ราย, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ภายหลังการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่สามารถทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) ผู้เข้าร่วมที่เสียชีวิต 366 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มควบคุมและ 264 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มที่ได้รับ daratumumab (95% CI 227 ถึง 304)

ผลข้างเคียงที่รุนแรง

การรักษาต้านมะเร็งร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาโดยปราศจาก daratumumab (RR 1.18, 95% CI 1.02 ถึง 1.37, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1644 ราย, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ภายหลังการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่สามารถทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) ผู้เข้าร่วมที่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง 505 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มควบคุมและ 596 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มที่ได้รับ daratumumab (95% CI 515 ถึง 692)

ผลข้างเคียง (เกณฑ์การจัดระดับผลข้างเคียงโดยทั่วไป (Common Terminology Criteria for Adverse Events; CTCAE) ระดับ ≥ 3)

การรักษาต้านมะเร็งร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มผลข้างเคียงได้เล็กน้อยหรือไม่เพิ่งเลย (CTCAE ระดับ ≥ 3) เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาที่ปราศจาก daratumumab (RR 1.01, 95% CI 0.99 ถึง 1.02, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1644 ราย, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ภายหลังการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่สามารถทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) ผู้เข้าร่วมที่มีผลข้างเคียง 953 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มควบคุมเทียบกับ 963 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มที่ได้รับ daratumumab (CTCAE ระดับ ≥ 3) (95% CI 943 ถึง 972)

การรักษาต้านมะเร็งร่วมด้วย daratumumab อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื่อ (CTCAE ระดับ ≥ 3) เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาโดยปราศจาก daratumumab (RR 1.52, 95% CI 1.30 ถึง 1.78, การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1644 ราย, หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ภายหลังการติดตามผลที่ยาวนานที่สุดที่สามารถทำได้ (12 ถึง 72 เดือน) ผู้เข้าร่วมที่มีภาวะติดเชื้อ 224 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มควบคุมเทียบกับ 340 รายต่อ 1000 รายในกลุ่มที่ได้รับ daratumumab (CTCAE ระดับ ≥ 3) (95% CI 291 ถึง 399)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การวิเคราะห์โดยรวมของการศึกษาทั้ง 4 ฉบับ แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของ daratumumab ในแง่ของการอยู่รอดโดยรวมและการอยู่รอดโดยปราศจากการลุกลามของโรค และยังมีประโยชน์เล็กน้อยในด้านคุณภาพชีวิตอีกด้วย ผู้เข้าร่วมที่ได้รับการรักษาด้วย daratumumab อาจประสบกับผลข้างเคียงที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น มีแนวโน้มว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มในผลข้างเคียง (ระดับ CTCAE ≥ 3) อย่างไรก็ตาม อาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น (ระดับ CTCAE ≥ 3) ในผู้เข้าร่วมที่ได้รับการรักษาร่วมด้วย daratumumab

เราได้ระบุการศึกษาที่กำลังดำเนินการ 6 ฉบับ ซึ่งอาจเสริมความเชื่อมั่นของหลักฐานในการอัปเดตในอนาคต

บันทึกการแปล

แปลโดย นายฎลกร จำปาหวาย วันที่ 28 ตุลาคม 2024

Citation
Langer P, John L, Monsef I, Scheid C, Piechotta V, Skoetz N. Daratumumab and antineoplastic therapy versus antineoplastic therapy only for adults with newly diagnosed multiple myeloma ineligible for transplant. Cochrane Database of Systematic Reviews 2024, Issue 5. Art. No.: CD013595. DOI: 10.1002/14651858.CD013595.pub2.