ใจความสำคัญ
– สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก (มะเร็งที่เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก), มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin (มะเร็งในเลือด), หรือมะเร็งเต้านม bevacizumab, rituximab, และ trastuzumab biosimilars (ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายยาที่ทำจากสิ่งมีชีวิต) หรือยาต้นฉบับ (เรียกว่ายาต้นแบบ) จะให้ผลการรักษาที่คล้ายคลึงกันในผลซึ่งผู้บริโภคถือว่าสำคัญ
– ระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่และปราศจากมะเร็งหลังจากเริ่มการรักษามีความคล้ายคลึงกันระหว่างยา biosimilar และยาต้นแบบ โดยไม่มีอัตราการเกิดผลข้างเคียงอันตรายหรือการเสียชีวิตที่สูงกว่า เราพบการศึกษาวิจัยขนาดเล็กเพียงงานเดียวที่รายงานถึงความเป็นอยู่ที่ดีเมื่อได้รับยาดังกล่าวชนิดหนึ่ง และไม่มีความแตกต่างกัน
ยา biosimilar และยาต้นแบบคืออะไร
มียาหลายชนิดที่ใช้ในการรักษามะเร็งซึ่งทำมาจากวัสดุที่ได้จากสิ่งมีชีวิต ยาประเภทนี้เรียกว่ายาชีวภาพ สารชีวภาพออกฤทธิ์ต่อมะเร็งโดยการฆ่าเซลล์มะเร็ง Biosimilars คือยาที่มีความคล้ายคลึงกับยาชีวภาพดั้งเดิม (เรียกว่ายาต้นแบบ) ถึงแม้จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็มุ่งเป้าไปที่เซลล์มะเร็งด้วยวิธีเดียวกัน ยาต้นแบบได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนที่จะมี biosimilars ยาต้นแบบอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ายาอ้างอิงหรือยาที่คิดค้นขึ้น แตกต่างจากยาสามัญ (ไม่มีตราสินค้า) ที่เป็นโมเลกุลที่ได้มาจากขบวนการทางเคมี originators and biosimilars ถือเป็นยาทางชีวภาพ และด้วยเหตุนี้ จึงยากกว่าสำหรับผู้ผลิตที่จะพัฒนายาชีววัตถุคล้ายคลึงที่มีลักษณะเหมือนกับยาต้นกำเนิด โดยทั่วไปแล้ว biosimilars มีราคาถูกกว่ายาต้นแบบ ซึ่งอาจช่วยให้เข้าถึงการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิผลได้ดีขึ้น หากมีผลต่ออัตราการรอดชีวิตและอันตรายที่เทียบเคียงได้
เราต้องการค้นหาอะไร
เราต้องการเปรียบเทียบประโยชน์และอันตรายของ bevacizumab, rituximab, และ trastuzumab biosimilars กับยาต้นแบบ จากความคิดเห็นของผู้ป่วยมะเร็ง 5 ราย เราได้จัดประเภทผลลัพธ์ต่อไปนี้ว่ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจทางคลินิก
– ระยะเวลาเฉลี่ยหลังจากเริ่มการรักษาที่ผู้ป่วยยังมีชีวิตอยู่ และมะเร็งไม่โตหรือแพร่กระจาย
– ระยะเวลาเฉลี่ยนับจากเริ่มต้นการรักษาที่ผู้ป่วยยังคงปราศจากมะเร็ง
– ระยะเวลาเฉลี่ยที่คนไข้มีชีวิตอยู่ภายหลังเริ่มการรักษา
– จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการประเมินมะเร็งในเนื้อเยื่อเต้านมที่ได้รับการผ่าตัดออกและพบว่ามะเร็งหายไปเมื่อได้รับการรักษา
– ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หรือเป็นอันตรายร้ายแรง
• ความเป็นอยู่ที่ดี
เราจัดประเภทผลลัพธ์ต่อไปนี้ว่ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจทางคลินิก
– จำนวนผู้ป่วยที่มะเร็งเล็กลงหรือหายไปหลังการรักษา
– การเสียชีวิต
– ระยะเวลาเฉลี่ยหลังจากเริ่มการรักษาจนกระทั่งมะเร็งเติบโตหรือแพร่กระจาย หรือเสียชีวิต
เราทำอะไรบ้าง
เราได้ค้นหาการศึกษาที่เปรียบเทียบ bevacizumab, rituximab, หรือ trastuzumab biosimilar กับยาต้นแบบแต่ละตัว เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งทวารหนัก (มะเร็งที่เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก), มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodkin (มะเร็งในเลือด) และมะเร็งเต้านม
เราเปรียบเทียบและสรุปผลลัพธ์ และให้คะแนนความเชื่อมั่นของเราในหลักฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น วิธีและขนาดการศึกษา
เราพบอะไร
เราพบการศึกษา 55 ฉบับ โดยมีผู้ป่วยมะเร็งจำนวน 22,046 ราย ในจำนวนนี้ 10,639 คนได้รับ bevacizumab ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยมะเร็งปอดที่มะเร็งได้กลับมาเป็นซ้ำ (ลุกลาม) หรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย (แพร่กระจาย); มี 4412 คนได้รับ rituximab ซึ่งส่วนใหญ่รวมถึงผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin และ 6995 คนได้รับ trastuzumab เพื่อรักษามะเร็งเต้านมระยะลุกลามหรือแพร่กระจาย อายุเฉลี่ยของบุคคลอยู่ระหว่าง 47 ถึง 62 ปี การศึกษาเกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือและใต้ บริษัทเภสัชกรรมที่ผลิต biosimilars เป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนการศึกษาทั้งหมด
ผลลัพธ์หลักและความเชื่อมั่นของเราต่อการค้นพบ
การได้รับ biosimilars of bevacizumab, rituximab, หรือ trastuzumab หรือยาต้นแบบทำให้ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยรวมแล้ว เรามีความเชื่อมั่นปานกลางว่า biosimilar มีประสิทธิผลดีเทียบเท่ายาต้นแบบในการรักษามะเร็ง เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์จะเหมือนกันระหว่าง biosimilars และยาต้นแบบ เราจึงกำหนดช่วงที่จำกัดมากซึ่งผลลัพธ์จะถือว่ามีความคล้ายคลึงกันเพียงพอ ผลลัพธ์ส่วนใหญ่อยู่นอกช่วงนี้ ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมเราจึงเชื่อมั่นปานกลางในผลลัพธ์ดังกล่าว
หลักฐานมีข้อจำกัดอะไรบ้าง
การศึกษาส่วนใหญ่ดำเนินไปอย่างดี แต่ในการศึกษาบางฉบับ ผู้เข้าร่วมอาจทราบว่าตนได้รับการรักษาแบบใด และไม่ใช่ว่าการศึกษาทั้งหมดจะให้ข้อมูลในทุกสิ่งที่เราสนใจ
หลักฐานเป็นปัจจุบันแค่ไหน
หลักฐานนี้เป็นข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2024
การรักษาด้วย bevacizumab, rituximab, และ trastuzumab biosimilars น่าจะคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในแง่ของผลต่อการอยู่รอดโดยไม่มีการลุกลามของโรค, ระยะเวลาการตอบสนอง, การอยู่รอดโดยรวม, เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง, การตอบสนองที่เป็นรูปธรรม, และอัตราการเสียชีวิต หลักฐานที่จำกัดแสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันในการตอบสนองทางพยาธิวิทยาที่สมบูรณ์สำหรับ trastuzumab และคุณภาพชีวิตของ bevacizumab เมื่อเปรียบเทียบกับยาต้นแบบ ซึ่งไม่ได้รับการประเมินในการเปรียบเทียบอื่น ๆ ความเชื่อมั่นโดยรวมของหลักฐานอยู่ในระดับปานกลาง และความไม่แม่นยำเป็นสาเหตุหลักในการลดระดับความเชื่อมั่นของเราในการค้นพบ
Biosimilars คือผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยตัวยาชีวภาพที่ได้รับการรับรอง มีลักษณะคล้ายกับยาต้นแบบแต่ไม่เหมือนกันทุกประการ ในโรคมะเร็ง biosimilars ได้รับการพัฒนาจาก monoclonal antibodies, bevacizumab, rituximab, และ trastuzumab สามารถนำไปใช้ในการรักษามะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodkin และมะเร็งเต้านมได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพเหล่านี้ไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องมีการสังเคราะห์หลักฐานของผลทางคลินิกของ biosimilars เมื่อเปรียบเทียบกับ ยาต้นแบบ เพื่อทำความเข้าใจถึงประสิทธิผลและอันตรายเมื่อเปรียบเทียบกัน
เพื่อประเมินประโยชน์และอันตรายของ biosimilar monoclonal antibodies เมื่อเทียบกับยาต้นแบบสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นโรคมะเร็ง
เราค้นหาฐานข้อมูลบรรณานุกรม (CENTRAL, MEDLINE, Embase, Web of Science) และฐานข้อมูลการทดลองทางคลินิกจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2024
เราได้รวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมแบบตัวต่อตัวที่ดำเนินการในผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วย monoclonal antibodies แบบ biosimilar หรือยาต้นแบบ
เราปฏิบัติตามวิธีมาตรฐานของ Cochrane ผลลัพธ์หลัก ได้แก่ progression-free survival, ระยะเวลาของการตอบสนอง, การอยู่รอดโดยรวม, การตอบสนองทางพยาธิวิทยาที่สมบูรณ์ของมะเร็งเต้านม, เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง, และคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หากมีการปรับหรือให้ค่าประมาณการรอดชีวิตเป็นอัตรา เราจะไม่รวมค่าเหล่านี้เข้าด้วยกัน เราใช้เครื่องมือ RoB 1 ของ Cochrane เพื่อประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ และ GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานของผลลัพธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญ (critical outcomes) และผลลัพธ์ที่สำคัญ (important outcomes) ตามความเกี่ยวข้องที่กำหนดโดยผู้บริโภค
เรารวมการศึกษา 55 ฉบับ โดยมีผู้ใหญ่เข้าร่วม 22,046 ราย (การศึกษา 23 ฉบับที่ได้รับ bevacizumab, ผู้เข้าร่วม 10,639 รายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมะเร็งปอด; การศึกษา 17 ฉบับที่ได้รับ rituximab, ผู้เข้าร่วม 4412 รายเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin; และการศึกษา 15 ฉบับที่ได้รับ trastuzumab, ผู้เข้าร่วม 6995 รายเป็นมะเร็งเต้านม) การศึกษาได้ดำเนินการในทุกทวีป ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาแบบสหสถาบัน และทั้งหมดได้รับทุนสนับสนุนจากผู้ผลิตยา อายุของผู้เข้าร่วมมีตั้งแต่ 47 ปี (เฉลี่ย) ถึง 62 ปี (ค่ามัธยฐาน) และสัดส่วนของผู้หญิงอยู่ระหว่าง 18% ถึง 100% มีการศึกษา 15 ฉบับที่ดำเนินการแบบ non-inferiority และการศึกษาอีก 40 ฉบับ ดำเนินการ แบบ equivalence ความเสี่ยงของการมีอคติโดยรวมอยู่ในระดับต่ำ อคติหลัก ๆ อยู่ที่ข้อมูลผลลัพธ์ที่ไม่สมบูรณ์และการเลือกรายงาน
Bevacizumab biosimilar เปรียบเทียบกับ bevacizumab ยาต้นแบบ สำหรับมะเร็งปอดหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่
อัตราการรอดชีวิตโดยไม่มีการลุกลามของโรคมีแนวโน้มใกล้เคียงกันระหว่าง bevacizumab biosimilar และยาต้นแบบ (ต่อ 1000: 380 รายในทั้งสองกลุ่มที่ 12 เดือน มี hazard ratio (HR) 1.00, ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 95% 0.91 ถึง 1.09; การศึกษา 5 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2660 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ไม่มีความแตกต่างในกลุ่มย่อยมะเร็งปอดและมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
Bevacizumab biosimilar น่าจะคล้ายคลึงกับยาตัวเริ่มต้นในระยะเวลาการตอบสนอง (ต่อ 1000: ผู้เข้าร่วม 219 รายที่บรรลุผลตอบสนองมีการลุกลามด้วย biosimilar เทียบกับ 210 รายด้วยยาเริ่มต้นที่ 12 เดือน; HR 1.05, 95% CI 0.81 ถึง 1.37; การศึกษา 1 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 762 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และอัตราการรอดชีวิตโดยรวม (ต่อ 1000: 592 รายที่ได้ biosimilarเทียบกับ 610 รายที่ได้ยาต้นแบบที่ 12 เดือน; HR 1.06, 95% CI 0.94 ถึง 1.19; การศึกษา 5 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2783 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ไม่มีความแตกต่างกันในกลุ่มย่อยของประเภทของมะเร็ง
Bevacizumab biosimilar น่าจะคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในผลข้างเคียงที่ร้ายแรง (ต่อ 1000: 303 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 309 รายที่ได้ยาต้นแบบ risk ratio (RR) 0.98, 95% CI 0.93 ถึง 1.03; การศึกษา 23 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 10,619 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)
Bevacizumab biosimilar อาจคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในด้านคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เนื่องจากคะแนนเทียบเคียงได้ในการศึกษา 1 ฉบับที่ประเมินผลลัพธ์นี้ในมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่แพร่กระจาย (หลักฐานความเชิ่อมั่นต่ำ) ผลลัพธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญนี้ไม่ได้รับการประเมินในการเปรียบเทียบ biosimilars อื่น ๆ
Bevacizumab biosimilar น่าจะคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในการตอบสนองที่เป็นรูปธรรม (ต่อ 1000: 481 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 501 รายที่ได้ยาต้นแบบ; RR 0.96, 95% CI 0.93 ถึง 1.00; การศึกษา 23 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 10,054 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และอัตราการเสียชีวิต (ต่อ 1000: 287 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 279 รายที่ได้ยาต้นแบบ RR 1.03, 95% CI 0.97 ถึง 1.09; การศึกษา 19 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 9231 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ไม่มีความแตกต่างในมะเร็งปอดและมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
Rituximab biosimilar เทียบกับ rituximab originator ในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin
Rituximab biosimilar น่าจะมีความคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในด้านการอยู่รอดโดยปราศจากการลุกลามของโรค (การศึกษา 7 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2456 ราย), ระยะเวลาของการตอบสนอง (การศึกษา 2 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 522 ราย) และการอยู่รอดโดยรวม (การศึกษา 7 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2353 ราย; ข้อมูลไม่ได้ถูกนำมารวมกัน เนื่องจากการประมาณอัตราการอยู่รอดได้รับการปรับตามปัจจัยต่าง ๆ หรือรายงานเป็นอัตรา) (ทั้งหมดเป็นหลักฐานความเขื่อมั่นปานกลาง)
Rituximab biosimilar อาจคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในความเสี่ยงของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง (ต่อ 1000: 210 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 204 รายที่ได่ยาต้นแบบ RR 1.03, 95% CI 0.94 ถึง 1.14; การศึกษา 15 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 4197 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และการตอบสนองที่เป็นรูปธรรม (ต่อ 1000: 807 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 799 รายที่ได้ยาต้นแบบ RR 1.01, 95% CI 0.98 ถึง 1.04; การศึกษา 16 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 3922 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) ไม่มีการศึกษาใดรายงานคุณภาพชีวิต
Rituximab biosimilar มีลักษณะคล้ายกับยาต้นแบบ ในด้านอัตราการเสียชีวิต (ต่อ 1000: 52 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 53 รายที่ได้ยาต้นแบบ RR 0.97, 95% CI 0.70 ถึง 1.35; การศึกษา 8 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2557 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นสูง)
Trastuzumab biosimilar เทียบกับ Trastuzumab ยาต้นแบบ ในมะเร็งเต้านม
Trastuzumab biosimilar น่าจะมีความคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในอัตราการรอดชีวิตโดยไม่มีการลุกลามของโรค (การศึกษา 4 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2221 คน), ระยะเวลาการตอบสนอง (การศึกษา 3 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 1488 คน) และอัตราการรอดชีวิตโดยรวม (การศึกษา 6 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 2221 คน) ซึ่งไม่ได้นำมารวมกันเนื่องจากการปรับปัจจัยที่แตกต่างกันหรือให้ผลลัพธ์เป็นอัตรา ไม่มีการศึกษาใดรายงานคุณภาพชีวิต
Trastuzumab biosimilar อาจคล้ายคลึงกับยาต้นแบบ ในการตอบสนองทางพยาธิวิทยาที่สมบูรณ์ (ต่อ 1000: 459 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 433 รายได้ยาต้นแบบ RR 1.06, 95% CI 0.95 ถึง 1.17; การศึกษา 7 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 3403 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) น่าจะคล้ายคลึงกันในเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง (ต่อ 1000: 129 ในทั้งสองกลุ่ม; RR 1.00, 95% CI 0.85 ถึง 1.17; การศึกษา 13 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 6183 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง) และเพิ่มการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมเล็กน้อย (ต่อ 1000: 801 รายที่ได้ biosimilar เทียบกับ 777 รายที่ได้ยาต้นแบบ RR 1.03, 95% CI 1.01 ถึง 1.05; การศึกษา 13 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 5509 ราย; หลักฐานความเชื่อมั่นปานกลาง)
แปลโดย ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชา สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น เมื่อ 14 ธันวาคม 2024 Edit โดย ศ.พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 20 มกราคม 2025