ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครื่องมือ CAM-ICU ในการวินิจฉัยอาการเพ้อในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่เข้ารับการรักษาในหน่วยการดูแลผู้ป่วยวิกฤตมีความแม่นยำเพียงใด

ใจความสำคัญ

การตรวจสอบของเราชี้ให้เห็นว่า CAM-ICU เป็นการทดสอบที่สมเหตุสมผลเพื่อค้นหาผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อในบริบทภาวะวิกฤต การทดสอบอาจดีเป็นพิเศษในการแยกแยะอาการเพ้อออกไป หาก CAM-ICU ได้ผลว่าไม่มีอาการเพ้อ ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่บุคคลนั้นจะมีอาการเพ้อ

วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้

เพื่อประเมินความแม่นยำของเครื่องมือ CAM-ICU ในการตรวจหาอาการเพ้อในผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤต

เหตุใดการตระหนักถึงอาการเพ้อจึงมีความสำคัญ

เมื่อผู้คนไม่สบาย พวกเขาสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในความคิด ระดับจิตสำนึก หรือความสามารถในการรักษาความสนใจได้ สิ่งนี้เรียกว่า อาการเพ้อ อาการเพ้อมีแนวโน้มพบมากขึ้นเมื่อผู้คนเริ่มไม่สบายมากขึ้น อาการเพ้อเป็นเรื่องที่พบบ่อยมากเมื่อผู้คนไม่สบายมากจนต้องได้รับการดูแลและการรักษาที่เข้มข้น เช่น ในหอผู้ป่วยหนัก พื้นที่ในโรงพยาบาลที่ให้การดูแลขั้นสูงนี้เรียกว่า 'การดูแลวิกฤต'

เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีอาการเพ้อแล้ว คนที่มีอาการเพ้อมักจะต้องนอนโรงพยาบาลนานกว่าและมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตมากกว่า อาการเพ้อเกี่ยวข้องกับความทุกข์ทั้งต่อผู้ป่วยและครอบครัว

การรับรู้ทันทีเมื่อบุคคลมีอาการเพ้อจะทำให้คนนั้นได้รับการรักษา อย่างไรก็ตาม การประเมินอาการเพ้อนั้นเป็นเรื่องยาก การประเมินอาการเพ้อมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นในหอผู้ป่วยวิกฤต เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีอุปกรณ์ช่วยหายใจ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถพูดคุยกับผู้ประเมินได้

CAM-ICU คืออะไร

วิธีประเมินความสับสนสำหรับหอผู้ป่วยหนัก (CAM-ICU) ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อค้นหาอาการเพ้อ มันประกอบด้วยชุดคำถามและคำสั่งที่ออกแบบมาเพื่อหาลักษณะของอาการเพ้อ

ลักษณะบางประการของการทดสอบ CAM-ICU ทำให้เหมาะสำหรับบริบทของการดูแลผู้ป่วยวิกฤติที่มีลักษณะการดูแลที่เป็นงานหนักยุ่งยาก การทดสอบ CAM-ICU สามารถทำได้แม้ว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการทดสอบจะไม่สามารถพูดได้ CAM-ICU ดำเนินการได้รวดเร็วและต้องการการฝึกอบรมเพียงเล็กน้อย สมาชิกในทีมดูแลสุขภาพจึงสามารถใช้งานเครื่องมือนี้ได้

อะไรคือสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการทวนวรรณกรรมนี้

เราทบทวนการศึกษาที่ประเมินความแม่นยำของ CAM-ICU เมื่อนำมาใช้ในบริบทการดูแลผู้ป่วยวิกฤต เรารวมการศึกษาเหล่านั้นที่เปรียบเทียบผลลัพธ์ของการทดสอบ CAM-ICU ที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรม CAM-ICU เทีบยกับการประเมินการวินิจฉัยตาม 'มาตรฐาน' ที่มีความละเอียดมากขึ้น

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรมคืออะไร

เรารวมการศึกษาทั้งหมด 25 ฉบับ มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 2817 ราย CAM-ICU ระบุผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อได้อย่างถูกต้องประมาณ 78% การทดสอบดีกว่าในการระบุผู้ที่ไม่มีอาการเพ้อ โดยให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องประมาณ 95%

หากใช้ CAM-ICU กับกลุ่มผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤต 100 ราย โดยที่ 40% (40) รายมีอาการเพ้อ คาดว่าเครื่องมือ CAM-ICU จะตรวจจับผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อได้อย่างถูกต้องประมาณ 31 รายและพลาดผู้ป่วย 9 ราย CAM-ICU จะประเมินว่าผู้ป่วย 3 รายมีอาการเพ้อทั้งๆ ที่จริงๆไม่ได้มีอาการเพ้อ

ผลของการศึกษาในการทบทวนนี้มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างไร

แม้ว่าความเสี่ยงของการมีอคติต่ำและมีผู้เข้าร่วมในการศึกษาที่รวบรวมไว้จำนวนมาก แต่เราไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลลัพธ์เนื่องจากความแตกต่างระหว่างการศึกษาในวิธีการทดสอบและในการตีความการเปรียบเทียบตาม 'มาตรฐาน'

ผลของการตรวจสอบนี้มีผลกับใครบ้าง

เราดูเฉพาะเอกสารที่ศึกษาการทดสอบ CAM-ICU เมื่อนำมาใช้ในบริบทการพยาบาลวิกฤต CAM-ICU ใช้ในบริบทการพยาบาลอื่น ๆ แต่นั่นไม่ใช่จุดสำคัญของการทบทวนนี้

การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

การค้นหาวรรณกรรมของเรารวมบทความที่ตีพิมพ์จนถึง 8 กรกฎาคม 2022

บทนำ

อาการเพ้อคือกลุ่มอาการทางคลินิกที่ได้รับการวินิจฉัยต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งอาการแสดงให้เห็นโดยการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางจิตอย่างเฉียบพลัน เป็นปัญหาสำคัญในหอผู้ป่วยวิกฤตและหอผู้ป่วยหนัก (intensive care units; ICU) เนื่องจากมีความชุกสูงและมีความสัมพันธ์กับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ อาการเพ้อเป็นภาวะที่น่าวิตกมากสำหรับผู้ป่วย โดยมีผลกระทบอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย การวินิจฉัยอาการเพ้อในสถานการณ์วิกฤตถือเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจและไม่สามารถสัมภาษณ์ด้วยวาจาหรือตอบคำถามได้

วิธีประเมินความสับสนสำหรับหอผู้ป่วยหนัก (Confusion Assessment Method for the Intensive Care Unit; CAM-ICU) เป็นเครื่องมือที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อประเมินภาวะเพ้อในบริบทของผู้ป่วย ICU รวมถึงผู้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ CAM-ICU สามารถใช้โดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผลว่ามีอาการเพ้อหรือไม่แบบสองตัวเลือกคือ มีหรีอไม่มีอาการเพ้อ

วัตถุประสงค์

เพื่อตรวจสอบความแม่นยำในการวินิจฉัยของ CAM-ICU สำหรับการวินิจฉัยอาการเพ้อในผู้ป่วยผู้ใหญ่ในหอผู้ป่วยวิกฤต

วิธีการสืบค้น

เราค้นหาใน MEDLINE (Ovid SP, 1946 ถึง 8 กรกฎาคม 2022), Embase (Ovid SP, 1982 ถึง 8 กรกฎาคม 2022), Web of Science Core Collection (ISI Web of Knowledge, 1945 ถึง 8 กรกฎาคม 2022), PsycINFO (Ovid SP, 1806 ถึง 8 กรกฎาคม 2022) และ LILACS (BIREME, 1982 ถึง 8 กรกฎาคม 2022) เราตรวจสอบรายการอ้างอิงของการศึกษาที่รวบรวมไว้และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ สำหรับการศึกษาเพิ่มเติมที่อาจเกี่ยวข้อง นอกจากนี้เรายังค้นหาฐานข้อมูล Health Technology Assessment, Cochrane Library, Aggressive Research Intelligence Facility, WHO ICTRP, ClinicalTrials.gov และเว็บไซต์ของสมาคมวิทยาศาสตร์เพื่อเข้าถึงการประชุมประจำปีและบทคัดย่อของการดำเนินการประชุมในสาขานั้น

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวมการศึกษาเกี่บวกับวินิจฉัยที่ลงทะเบียนผู้ป่วย ICU ที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งประเมินโดยใช้เครื่องมือ CAM-ICU โดยไม่คำนึงถึงภาษาหรือสถานะการตีพิมพ์ และการรายงานข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับการวินิจฉัยอาการเพ้อสำหรับการสร้างตาราง 2 x 2 การศึกษาที่เข้าเกณฑ์จะประเมินประสิทธิภาพการวินิจฉัยของ CAM-ICU เทียบกับมาตรฐานอ้างอิงทางคลินิกโดยอิงตามการทำซ้ำเกณฑ์ของ คู่มือการวินิจฉัยและสถิติของความผิดปกติทางจิต (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) ( DSM ) ที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญทางคลินิก

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวน 2 คนเลือกและเปรียบเทียบข้อมูลการศึกษาโดยอิสระต่อกัน เราประเมินคุณภาพระเบียบวิธีของการศึกษาโดยใช้เครื่องมือ QUADAS-2 เราใช้ univariate fixed-effect หรือ random-effects models 2 แบบนี้เพื่อกำหนดการประมาณค่าสรุปของความไวและความจำเพาะ เราทำการวิเคราะห์ความไวที่ไม่รวมการศึกษาที่ถือว่ามีความเสี่ยงของการมีอคติสูงและมีข้อกังวลสูงในการนำไปใช้ ส่วนใหญ่เนื่องจากประชากรเป้าหมายที่รวมอยู่ (เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บที่สมอง) นอกจากนี้เรายังตรวจสอบแหล่งที่มาของความหลากหลาย โดยประเมินผลของการใช้การวินิจฉัยมาตรฐานอ้างอิงและสัดส่วนของผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ

ผลการวิจัย

เรารวบรวมการศึกษา 25 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 2817 คน) อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมอยู่ระหว่าง 48 ถึง 69 ปี การศึกษา 15 ฉบับ ประกอบด้วยหน่วยการดูแลวิกฤตที่รับประชากรคละ (เช่น ทางอายุรกรรม การบาดเจ็บ ผู้ป่วยศัลยกรรม) เปอร์เซ็นของผู้ป่วยที่มีการใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ระหว่าง 11.8% ถึง 100% ความชุกของอาการเพ้อในการศึกษานี้อยู่ระหว่าง 12.5% ​​ถึง 83.9% การมีงอาการเพ้อถูกกำหนดโดยการใช้เกณฑ์ DSM-IV ในการศึกษาที่รวบรวมไว้ 13 รายการจาก 25 รายการ เราประเมินการศึกษา 13 ฉบับว่ามีความเสี่ยงของการมีอคติต่ำและข้อกังวลต่ำในเรื่องการนำไปประยุกต์ใช้ต่ำสำหรับโดเมน QUADAS-2 ทั้งหมด ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือขั้นตอนและระยะเวลาของการทดสอบ ตามด้วยการเลือกผู้ป่วย

โดยรวมแล้ว เราประเมินความไวรวมที่ 0.78 (ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.72 ถึง 0.83) และความจำเพาะรวมที่ 0.95 (95% CI 0.92 ถึง 0.97)

การวิเคราะห์ความไวจำกัดเฉพาะการศึกษาที่มีความเสี่ยงต่ำของอคติและไม่ต้องกังวลเรื่องการนำไปประยุกต์ใช้ (การศึกษา 13 ฉบับ) ให้ดัชนีความแม่นยำในการสรุปที่คล้ายกัน (ความไว 0.80 (95% CI 0.72 ถึง 0.86), ความจำเพาะ 0.95 (95% CI 0.93 ถึง 0.97))

การวิเคราะห์กลุ่มย่อยตามการประเมินการวินิจฉัยพบการประมาณการโดยสรุปของความไวและความจำเพาะสำหรับการศึกษาโดยใช้ DSM-IV เท่ากับ 0.79 (95% CI 0.72 ถึง 0.85) และ 0.94 (95% CI 0.90 ถึง 0.96) สำหรับการศึกษาที่ใช้เกณฑ์ DSM-5 ค่าประมาณโดยสรุปของความไวและความจำเพาะคือ 0.75 (95% CI 0.67 ถึง 0.82) และ 0.98 (95% CI 0.95 ถึง 0.99) เกณฑ์ DSM ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความไว (P = 0.421) แต่ความจำเพาะสำหรับการตรวจพบอาการเพ้อจะสูงกว่าเมื่อใช้เกณฑ์ DSM-5 (P = 0.024) ความจำเพาะสัมพัทธ์ที่เปรียบเทียบเกณฑ์ DSM-5 กับ DSM-IV คือ 1.05 (95% CI 1.02 ถึง 1.08)

ค่าประมาณโดยสรุปของความไวและความจำเพาะสำหรับการศึกษาที่รับผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ < 100% คือ 0.81 (95% CI 0.75 ถึง 0.85) และ 0.95 (95% CI 0.91 ถึง 0.98) สำหรับการศึกษาที่คัดเลือกเฉพาะผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ค่าประมาณโดยสรุปของความไวและความจำเพาะคือ 0.91 (95% CI 0.76 ถึง 0.97) และ 0.98 (95% CI 0.92 ถึง 0.99) แม้ว่าจะมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แตกต่างกันของ CAM-ICU ในผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ความแตกต่างไม่มีนัยสำคัญในด้านความไว (P = 0.316) หรือในความจำเพาะ (P = 0.493)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

เครื่องมือ CAM-ICU อาจมีบทบาทในการระบุอาการเพ้อตั้งแต่เนิ่นๆ ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในห้องผู้ป่วยหนัก รวมถึงผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เมื่อบุคลากรทางคลินิกที่ไม่เชี่ยวชาญและได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมในการใช้ CAM-ICU การทดสอบนี้มีประโยน์มากที่สุดสำหรับการคัดเลือกคนที่ไม่มีอาการเพ้อออก การทดสอบอาจพลาดสัดส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อ ดังนั้นในสถานการณ์ที่ต้องการตรวจให้พบผู้ที่มีอาการเพ้อทั้งหมด อาจเป็นการดีที่สุดที่จะทำการทดสอบซ้ำหรือรวม CAM-ICU เข้ากับการประเมินอื่น การศึกษาในอนาคตควรเปรียบเทียบการทดสอบคัดกรองต่างๆ ที่เสนอสำหรับการประเมินภาวะเพ้อข้างเตียง (bedside assessment of delirium) เนื่องจากแนวทางนี้จะทำให้ทราบว่าเครื่องมือใดให้ความแม่นยำที่เหนือกว่า นอกจากนี้ การศึกษาในอนาคตควรพิจารณาและรายงานขั้นตอนและช่วงเวลาของการทดสอบ และรายงานลักษณะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกผู้ป่วยอย่างชัดเจน สุดท้ายนี้ การวิจัยในอนาคตควรมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของการตรวจคัดกรอง CAM-ICU ต่อผลลัพธ์ของผู้ป่วย

บันทึกการแปล

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 12 กันยายน 2024

การอ้างอิง
Miranda F, Gonzalez F, Plana MN, Zamora J, Quinn TJ, Seron P. Confusion Assessment Method for the Intensive Care Unit (CAM-ICU) for the diagnosis of delirium in adults in critical care settings. Cochrane Database of Systematic Reviews 2023, Issue 11. Art. No.: CD013126. DOI: 10.1002/14651858.CD013126.pub2.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า