ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เปรียบเทียบใช้เครื่องจี้ Bipolar กับ Monopolar ในการตัดต่อมลูกหมากผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างที่เกิดจากต่อมลูกหมากโต

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

การผ่าตัดต่อมลูกหมากในผู้ป่วยต่อมลูกหมากโตที่มีอาการปัสสาวะลำบากโดยใช้เครื่องจี้แบบ Bipolar เปรียบเทียบกับ Monopolar ต่างกันอย่างไร

ความเป็นมา

ผู้ป่วยที่มีภาวะต่อมลูกหมากโตอาจมีอาการปัสสาวะลำบาก เนื่องจากต่อมลูกหมากที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปกดเบียดท่อปัสสาวะส่วนที่ต่อมาจากกระเพาะปัสสาวะ ทางเลือกการรักษาหนึ่งคือการผ่าตัดส่องกล้องตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากออกเพื่อลดการอุดกั้นของท่อปัสสาวะ ในอดีตการผ่าตัดนี้ใช้อุปกรณ์เครื่องจี้แบบ Monopolarและเรียกการผ่าตัดนี้ย่อว่า Monopolar TURP จากนั้นมามีการพัฒนาการเทคนิกการผ่าตัด Bipolar TURP ขึ้น Bipolar TURP ใช้ saline แทนสารน้ำชนิดดั้งเดิมซึ่งช่วยลดอุบัติการณ์การเกิด TUR syndrome เนื่องจากการดูดซึมสารน้ำ โดยปกติภาวะนี้พบได้น้อยแต่ความรุนแรงมาก ในปัจจุบันยังไม่มีการเปรียบเทียบการผ่าตัดทั้งสองวิธีนี้โดยรวม

การทบทวนวรรณกรรมนี้ทันสมัยแค่ไหน

การศึกษานี้รวบรวมวรรณกรรมที่ปรากฏในระบบทางอิเลคทรอนิกส์์โดยค้นหาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2019

ลักษณะการศึกษา

เราค้นหาวรรณกรรมทางการแพทย์สำหรับการทดลองทางคลินิกจนถึงวันที่ 19 มีนาคม 2019 เราพบ randomised trials ที่เปรียบเทียบ BTURP กับ MTURP 59 เรื่อง การศึกษาเหล่านี้มีจำนวนผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 8924 ราย มีการติดตามผลการรักษาที่สนใจนานที่สุด 12 เดือนหลังการรักษา

ผลการศึกษาที่สำคัญ

BTURP สามารถลดอาการและการรบกวนทางระบบทางเดินปัสสาวะได้ไม่ต่างจาก MTURP

BTURP สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิด TUR syndrome และการต้องให้เลือดได้เล็กน้อย

การแข็งตัวของอวัยวะเพศและการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ภายหลังการผ่าตัดทั้งสองชนิดนี้ไม่ต่างกัน รวมถึงอัตราการต้องผ่าตัดซ้ำ

คุณภาพของหลักฐาน

คุณภาพของหลักฐานสำหรับผลของความสามารถในการปัสสาวะ, อาการปัสสาวะที่รบกวนผู้ป่วย, TUR syndrome, ความต้องการให้เลือด, และระดับการแข็งตัวของอวัยวะเพศอยู่ในระดับปานกลาง คุณภาพของหลักฐานสำหรับผลลัพธ์ของการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ และการต้องผ่าตัดซ้ำอยู่ในระดับต่ำ

บทนำ

TURP เป็นวิธีการผ่าตัดมาตรฐานสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการในระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (LUTS) จากภาวะต่อมลูกหมากอุดกั้น (BPO) การผ่าตัด TURP สมัยก่อนใช้เทคนิค Monopolar แต่เมื่อมีผู้ป่วยที่ได้รับผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดจึงเริ่มมีการพัฒนาเทคนิกการผ่าตัดใหม่ ในการผ่าตัด TURP แบบ Bipolar (BTURP) พลังงานจะถูกจำกัดอยู่ที่ขั้วไฟฟ้าของเครื่องมือตัดต่อมลูกหมาก จึงสามารถใช้สารน้ำที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับในระบบไหลเวียนโลหิตช่วยชะล้างระหว่างการผ่าตัดได้ ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างวิธีการผ่าตัดเหล่านี้ในแง่ของผลลัพธ์ของผู้ป่วย

วัตถุประสงค์

เพื่อเปรียบเทียบผลการผ่าตัดTURP โดยใช้ Bipolar กับ Monopolar

วิธีการสืบค้น

มีการค้นหาวรรณกรรมทางทางทางอิเลคทรอนิกส์อย่างเป็นระบบและครอบคลุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2019 ผ่านทาง CENTRAL, MEDLINE, Embase, ClinicalTrials.gov, PubMed, และ WHO ICTRP มีการค้นหาบทคัดย่อจากการประชุมใหญ่ทางระบทางเดินปัสาวะ โดยค้น trials, systematic reviews, and health technology assessment reports เพื่อหาการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ไม่มีการจำกัดภาษา

เกณฑ์การคัดเลือก

Randomised controlled trials (RCTs) ที่เปรียบเทียบ monopolar และ bipolar TURP ในผู้ชาย (> 18 ปี) ในการรักษาอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะส่วยล่างที่เกิดจากต่อมลูกหมากอุดกลั้น

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวนสองคนได้ทำการคัดเลือกการศึกษา ดึงข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของการมีอคติของ RCTs ที่นำเข้าการศึกษา การวิเคราะห์ทางสถิติได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์เชิงสถิติที่นำเสนอใน Cochrane Handbook for Systematic Reviews of Interventions คุณภาพของหลักฐานอยู่ในระดับต่ำ (ตามเกณฑ์ GRADE)

ผลการวิจัย

มีการรวบรวม RCTs ทั้งหมด 59 เรื่อง ผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 8924 ราย อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมการศึกษาอยู่ระหว่าง 59.0-74.1 ปี ขนาดต่อมลูกหมากเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 39 ถึง 82.6 mL

ผลลัพธ์หลัก

BTURP ให้ผลดีขึ้นเล็กน้อยจนถึงไม่ต่างกันในเรื่องอาการของระบบทางเดินปัสสาวะ (IPSS) ที่ 12 เดือน โดยใช้ scale 0 ถึง 35 โดยคะแนนที่มากขึ้นหมายถึงอาการที่แย่ลง (ความแตกต่างเฉลี่ยที่ -0.24 โดยมี 95% CI -0.39 ถึง -0.09; ผู้เข้าร่วม = 2531 คน; RCTs = 16; I² = 0%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง (CoE), ถูกลดระดับความเชื่อมั่นลงเนื่องจากข้อจำกัดการศึกษา) เมื่อเทียบกับ MTURP

BTURP ให้ผลดีขึ้นเล็กน้อยจนถึงไม่ต่างกันในเรื่องของอาการที่น่ารำคาญ โดยวัดจากคะแนนภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต(HRQoL) ที่ 12 เดือนโดยมีคะแนนระหว่าง 0 ถึง 6 โดยคะแนนสูงหมายถึงอาการที่น่ารำคาญมากขึ้น (ความแตกต่างเฉลี่ยที่ -0.12 โดยมี 95% CI -0.25 ถึง 0.02; ผู้เข้าร่วม = 2004 คน; RCTs = 11; I² = 53%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง, ความเชื่อมั่นถูกลดระดับลงเนื่องจากข้อจำกัดการศึกษา) เมื่อเทียบกับ MTURP

BTURP สามารถลด TUR syndrome ได้เล็กน้อย (risk ratio (RR) 0.17 โดยมี 95% CI 0.09 ถึง 0.30; ผู้เข้าร่วม = 6745; RCTs = 44; I² = 0%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง (CoE), ความเชื่อมั่นถูกลดระดับลงเนื่องจากข้อจำกัดการศึกษา) เมื่อเทียบกับ MTURP เมื่อเทียบแล้วการผ่าตัด 1000 ราย MTURP จะมี TUR syndrome น้อยลง 20 ราย (95% CI น้อยลง 22 ราย ถึง น้อยลง 17 ราย)

ผลลัพธ์รอง

BTURP มีความเสี่ยงในการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ที่ 12 เดือนไม่ต่างจาก MTURP (RR 0.20, 95% CI 0.01 ถึง 4.06; ผู้เข้าร่วมการศึกษา = 751; RCTs = 4; I² = 0%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ, ถูกลดระดับความเชื่อมั่นลงเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา และ imprecision) ในการผ่าตัด BTURP 1000 รายจะมีผู้ป่วยที่กลั้นปัสสาวะไม่ได้ลดลงสี่ราย (95% CI five fewer ถึง 16 more)

BTURP อาจสามารถลดอัตราการให้เลือดได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับ MTURP (RR 0.42, 95% CI 0.30 ถึง 0.59; ผู้เข้าร่วมการศึกษา = 5727; RCTs = 38; I² = 0%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง ถูกลดระดับความเชื่อมั่นลงเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา) ในการผ่าตัด BTURP 1000 รายจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับเลือดจะลดลง 28 ราย (95% CI ลดลง 34 ราย ถึง ลดลง 20 ราย)

BTURP มีอัตราการต้องผ่าตัด TURP ซ้ำไม่ต่างจาก MTURP (RR 1.02, 95% CI 0.44 ถึง 2.40; ผู้เข้าร่วมการศึกษา = 652; RCTs = 6; I² = 0%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ ถูกลดระดับความเชื่อมั่นลงเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษาและ imprecision) ในการผ่าตัด BTURP 1000 รายจะมีอัตราการต้องทำ TURP ซ้ำเพิ่มหนึ่งราย (95% CI 19 fewer to 48 more)

การแข็งตัวของอวัยวะเพศที่วัดโดย Index of Erectile Function score (IIEF-5) ที่ 12 เดือน โดยมีคะแนนระหว่าง 5 ถึง 25 คะแนนที่สูงหมายถึงการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีกว่า ไม่มีความแตกต่างกันในการผ่าตัดทั้งสองวิธี (ความแตกต่างเฉลี่ยที่ 0.88 โดยมี 95% CI -0.56 ถึง 2.32; RCTs = 3; I² = 68%; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง, ถูกลดระดับความเชื่อมั่นลงเนื่องจากข้อจำกัดของการศึกษา)

ข้อสรุปของผู้วิจัย

BTURP และ MTURP ช่วยให้อาการในระบบทางเดินปัสสาวะดีขึ้นไม่ต่างกัน BTURP น่าจะช่วยลดโอกาสเกิด TUR syndrome และลดการให้เลือดเมื่อเทียบกับ MTURP ผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศของการผ่าตัดทั้งสองแบบนี้ไม่ต่างกัน คุณภาพของหลักฐานที่มีอยู่ระดับปานกลางสำหรับผลลัพธ์ที่สำคัญของการตรวจสอบนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีความจำเป็นสำหรับการทำ RCTs เพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบ BTURP และ MTURP

บันทึกการแปล

แปลโดย นพ. ศุภณัฎฐ์ ลุมพิกานนท์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 27 เมษายน 2020

Citation
Alexander CE, Scullion MMF, Omar MI, Yuan Y, Mamoulakis C, N'Dow JMO, Chen C, Lam TBL. Bipolar versus monopolar transurethral resection of the prostate for lower urinary tract symptoms secondary to benign prostatic obstruction. Cochrane Database of Systematic Reviews 2019, Issue 12. Art. No.: CD009629. DOI: 10.1002/14651858.CD009629.pub4.

การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพ เรายังต้องการตั้งค่าการวิเคราะห์คุกกี้เพิ่มเติมเพื่อช่วยเราปรับปรุงเว็บไซต์ เราจะไม่ตั้งค่าคุกกี้เสริมเว้นแต่คุณจะเปิดใช้งาน การใช้เครื่องมือนี้จะตั้งค่าคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อจดจำการตั้งค่าของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยคลิกที่ลิงก์ 'การตั้งค่าคุกกี้' ที่ส่วนท้ายของทุกหน้า
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ที่เราใช้ โปรดดู หน้าคุกกี้

ยอมรับทั้งหมด
กำหนดค่า