Systemic opioids มีประสิทธิผลและปลอดภัยเพียงใดสำหรับการควบคุมและการจัดการความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดในทารกแรกเกิด

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

Systemic opioids มีประสิทธิผลและปลอดภัยแค่ไหนในการลดความเจ็บปวดของทารกแรกเกิดหลังการผ่าตัด

ความเป็นมา

ทารกแรกเกิด (ทารกในสี่สัปดาห์แรกหลังคลอด) อาจได้รับการผ่าตัด (การผ่าตัด) หรือการทำหัตถการผ่าตัด เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ทารกมีความเจ็บปวด และความเจ็บปวดนี้ต้องได้รับการจัดการ (ทำให้ลดลง) หลังการผ่าตัด opioids เป็นยาบรรเทาอาการปวด ตัวอย่างของ opioids ได้แก่ codeine และ morphine opioids ทำงานโดยมีปฏิกิริยากับตัวรับ opioid ในร่างกายและลดความรู้สึกเจ็บปวด

Opioids ส่งผลต่อระบบร่างกายทั้งหมดและนี่คือเหตุผลที่การทบทวนวรรณกรรมนี้อ้างถึงยานี้ว่าเป็น systemic opioids สามารถให้ opioids แก่ทารกได้หลายวิธี โดยช่องทางที่แตกต่างกัน ช่องทางหนึ่งคือการใช้เข็มฉีดเข้าเส้นเลือด สิ่งนี้เรียกว่าการบริหารยาทางหลอดเลือด อีกวิธี (หรือเส้นทาง) คือการใส่ยาในปากของทารก ใต้ลิ้น หรือด้วยท่อ การให้ยาประเภทนี้เรียกว่าการบริหารผ่านระบบทางเดินอาหาร opioids เช่นเดียวกับยาส่วนใหญ่สามารถให้โดยใช้ความแรง (ขนาด) ที่แตกต่างกัน opioids สามารถให้อย่างต่อเนื่อง (ไม่หยุด) หรือให้และหยุดในช่วงเวลาหนึ่ง (เป็นระยะ ๆ )

สิ่งเหล่านี้รวมกัน วิธีการให้ opioid แก่ทารก ความถี่ในการให้ opioid และความแรงของ opioid ที่ให้ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าสูตรยา

การทบทวนวรรณกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าสูตรยากลุ่ม opioid ต่างๆ ส่งผลต่อทารกอย่างไร

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

การทบทวนนี้รวบรวมการศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับทารก 504 คน เราพบว่าไม่มีการศึกษาที่เปรียบเทียบยา opioid เดียวกันในขนาดที่แตกต่างกัน เราพบว่าไม่มีการศึกษาใดที่เปรียบเทียบช่องทางที่แตกต่างกันในการให้ opioids การศึกษา 6 ฉบับเปรียบเทียบการให้ยา opioid อย่างต่อเนื่องกับการให้ opioid เป็นระยะ การศึกษา 1 ฉบับประเมินการใช้มอร์ฟีนแบบฉีดเข้าเส้นเลือดอย่างต่อเนื่อง เปรียบเทียบกับการให้ยาที่ควบคุมโดยผู้ปกครองหรือพยาบาล

จากการศึกษาพบว่าเราไม่สามารถบอกได้ว่าการให้ยา opioid แบบต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่องนั้นดีกว่าสำหรับการควบคุมความเจ็บปวดของทารก เนื่องจากเราไม่พบการศึกษาเปรียบเทียบขนาดยา opioids ที่แตกต่างกัน เราจึงไม่ทราบว่าขนาดยาใดดีกว่าสำหรับการลดความเจ็บปวดของทารก เนื่องจากเราไม่พบการศึกษาที่เปรียบเทียบการให้ยา opiod ด้วยวิธีต่างๆ เราจึงไม่ทราบว่าการให้ยาทางหลอดเลือดดีกว่าการให้ยาทางลำไส้เพื่อลดความเจ็บปวดของทารกหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาของวรรณกรรมที่ได้รับการประเมินแล้ว ประสิทธิผลของการให้ยา systemic opioid อย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ systemic opioid เป็นระยะ ๆ นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด เราไม่แน่ใจเกี่ยวกับประสิทธิผลของการบริหารให้ systemic opioid อย่างต่อเนื่องและการให้ opioid แบบไม่ต่อเนื่องในการลดความเจ็บปวด
เราค้นหาการศึกษาที่มีจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2022

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

มีหลักฐานจำกัดในการฉีดยาอย่างต่อเนื่อง เปรียบเทียบกับการฉีดยา systemic opioids แบบขนาดสูงเป็นระยะ เราไม่แน่ใจว่าการฉีดยา opioid อย่างต่อเนื่องช่วยลดความเจ็บปวดเมื่อเทียบกับการฉีดยา opioid ขนาดสูงเป็นระยะหรือไม่ ไม่มีการศึกษาใดที่รายงานผลลัพธ์หลักอื่นๆ ของการทบทวนวรรณกรรมนี้ เช่น การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุระหว่างการเข้ารักษาในโรงพยาบาลครั้งแรก ความพิการทางพัฒนาการทางระบบประสาทที่มีนัยสำคัญ หรือผลลัพธ์ทางความคิดและการศึกษาในเด็กอายุมากกว่า 5 ปี มีการศึกษาขนาดเล็ก 1 ฉบับ ที่รายงานเกี่ยวกับการฉีดยามอร์ฟีนโดยที่ผู้ปกครองหรือพยาบาลเป็นผู้ควบคุม

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การจัดการความเจ็บปวดทางคลินิกหลังการผ่าตัดในทารกแรกเกิดเป็นปัญหาทางการแพทย์ที่ท้าทายมาโดยตลอด ทั่วโลก มีสูตรการรักษาด้วย systemic opioid (ยาแก้ปวดกลุ่มฝิ่นแบบให้ทั่วร่างกาย) หลายแบบสำหรับกุมารแพทย์ แพทย์ทารกแรกเกิด และแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปเพื่อควบคุมความเจ็บปวดในทารกแรกเกิดที่เข้ารับการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบวิธีการที่มีประสิทธิผลและปลอดภัยที่สุด ในเนื้อหาของวรรณกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์: 

เพื่อศึกษาผลของวิธีการรักษาที่แตกต่างกันของยาแก้ปวด systemic opioid ในทารกแรกเกิดที่ส่งเข้ารับการผ่าตัดต่อการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ ความเจ็บปวด และความพิการทางพัฒนาการของระบบประสาทที่มีนัยสำคัญ สูตรที่ประเมินได้อาจรวมถึง: ขนาดที่แตกต่างกันของ opioid ชนิดเดียวกัน การบริหารยาที่แตกต่างกันของ opioid เดียวกัน การฉีดยาอย่างต่อเนื่องเทียบกับฉีดยาขนาดสูงครั้งเดียวหรือการบริหารให้ 'ตามความจำเป็น' เทียบกับการบริหาร 'ตามกำหนดเวลา'

วิธีการสืบค้น: 

ดำเนินการค้นหาในเดือนมิถุนายน 2022 โดยใช้ฐานข้อมูลต่อไปนี้: Cochrane Central Register of Controlled Trials [CENTRAL], PubMed และ CINAHL บันทึกการลงทะเบียนทดลองที่พบโดย CENTRAL และการค้นหาอิสระของ ISRCTN registry

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวบรวมการศึกษาแบบ randomized controlled trials (RCTs), quasi-randomized, cluster-randomized, และ cross-over controlled trials เพื่อประเมินผลของสูตรยา systemic opioid ต่อความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดในทารกแรกเกิด (ก่อนกำหนดหรือครบกำหนด) เราพิจารณาว่าเหมาะสมสำหรับการนำเข้าการศึกษา: I) การศึกษาประเมิน opioid เดียวกันในขนาดที่แตกต่างกัน 2) การศึกษาประเมินการบริหารยาที่แตกต่างกันของ opioid เดียวกัน; 3) การศึกษาประเมินประสิทธิผลของการฉีดยาต่อเนื่องกับการฉีดยาขนาดสูงครั้งเดียวและ 4) การศึกษาที่มีการประเมินการบริหารยา 'ตามความต้องการ' กับการบริหาร 'ตามกำหนดเวลา'

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ตามวิธีการของ Cochrane ผู้ตรวจสอบสองคนคัดกรองรายงานที่ได้มา คัดลอกข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของอคติโดยอิสระต่อกัน เราแบ่ง meta-analysis ตามประเภทของการรักษา การศึกษาประเมินการใช้ opioids สำหรับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดในทารกแรกเกิดโดยการให้ยาอย่างต่อเนื่องเทียบกับการให้ยาขนาดสูงครั้งเดียว และการศึกษาประเมินการให้ยา 'ตามต้องการ' เทียบกับการให้ยา 'ตามกำหนด' เราใช้ fixed-effect model ด้วย risk ratio (RR) สำหรับข้อมูลแบบแบ่งขั้วและความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (MD) ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยมาตรฐาน (SMD) ค่ามัธยฐาน และค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ (IQR) สำหรับข้อมูลต่อเนื่อง สุดท้าย เราใช้วิธีการของ GRADEpro สำหรับผลลัพธ์หลักเพื่อประเมินคุณภาพของหลักฐานของการศึกษาที่รวบรวม

ผลการวิจัย: 

ในการทบทวนวรรณกรรมนี้ เรารวมการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม 7 ฉบับ (ทารก 504 คน) ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2020 เราพบว่าไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบขนาดยา opioid เดียวกันหรือวิธีการบริหารที่แตกต่างกัน การให้ยา opioid infusion อย่างต่อเนื่องเทียบกับการให้ยา opioids ขนาดสูงครั้งเดียวได้รับการประเมินในการศึกษา 6 ฉบับ ในขณะที่การศึกษา 1 ฉบับเปรียบเทียบการให้ morphine 'ตามต้องการ' กับ 'ตามกำหนดให้โดยพ่อแม่หรือพยาบาล โดยรวมแล้ว ประสิทธิผลของการฉีดยา opioids อย่างต่อเนื่องเทียบกับการฉีดยาขนาดสูงครั้งเดียวตามที่วัดโดย Visual Analog Scale (MD 0.00, 95% confidence interval (CI) -0.23 ถึง 0.23; ผู้เข้าร่วม 133 คน, การศึกษา 2 ฉบับ; I² = 0); หรือใช้มาตราส่วน COMFORT (MD -0.07, 95% CI -0.89 ถึง 0.75; ผู้เข้าร่วม 133 คน, การศึกษา 2 ฉบับ; I² = 0) ยังไม่ชัดเจนเนื่องจากข้อจำกัดของการออกแบบการศึกษา เช่น ความเสี่ยงที่ไม่ชัดเจนของการออกจากการศึกษา อคติในการรายงาน และ ความไม่แม่นยำของผลลัพธ์ที่รายงาน (ความเชื่อมั่นของหลักฐานต่ำมาก) ไม่มีการศึกษาใดที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ทางคลินิกที่สำคัญอื่นๆ เช่น อัตราการตายจากทุกสาเหตุระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล ความพิการทางพัฒนาการทางระบบประสาทที่สำคัญ อุบัติการณ์ของจอประสาทตาผิดปกติรุนแรงในเด็กคลอดก่อนกำหนดหรือเลือดออกในโพรงสมอง และผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับความรู้ความเข้าใจและการศึกษา

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 21 เมษายน 2023 Edit โดย ผกากรอง 2 สิงหาคม 2023

Tools
Information