แอปพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน ('แอป') แม่นยำแค่ไหนในการตรวจหามะเร็งผิวหนังเมลาโนมาในผู้ใหญ่

วัตถุประสงค์ของการทบทวนวรรณกรรมนี้คืออะไร

เราต้องการทราบว่าแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนสามารถช่วยให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ารอยโรคที่ผิวหนังอาจเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนได้ดีเพียงใด

ทำไมการปรับปรุงการวินิจฉัยจึงมีความสำคัญ

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมาเป็นหนึ่งในชนิดที่อันตรายที่สุดของมะเร็งผิวหนัง การตรวจไม่เจอมะเร็งผิวหนังเมลาโน (ผลการทดสอบที่เป็นเท็จ) อาจทำให้การค้นหาคำแนะนำที่เหมาะสมและการผ่าตัดเพื่อเอาออกล่าช้า สิ่งนี้จะเพิ่มความเสี่ยงที่มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายและอาจถึงแก่ชีวิตได้ การวินิจฉัยรอยโรคที่ผิวหนังเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาเมื่อไม่มีมะเร็ง (ผลบวกที่ผิดพลาด) อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลและนำไปสู่การผ่าตัดและการตรวจเพิ่มเติมที่ไม่จำเป็น

การทบทวนวรรณกรรมนี้ได้ศึกษาเกี่ยวกับอะไร

แอปพลิเคชันเฉพาะทาง ('แอป') ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับรอยโรคที่ผิวหนังหรือไฝที่อาจทำให้คนกังวลนั้นมีอยู่ทั่วไปในสมาร์ทโฟน แอพบางตัวอนุญาตให้ผู้ใช้ถ่ายภาพรอยโรคที่ผิวหนังที่พวกเขาอาจกังวล จากนั้นจะได้รับคำแนะนำว่าควรจะรับคำปรึกษาจากแพทย์หรือไม่ แอปอาจจัดประเภทรอยโรคโดยอัตโนมัติว่ามีความเสี่ยงสูงหรือต่ำ ในขณะที่แอปอื่นๆ สามารถทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์จัดเก็บและส่งต่อ โดยที่ภาพจะถูกส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เช่น แพทย์ผิวหนัง ซึ่งจะประเมินความเสี่ยงโดยพิจารณาจากภาพถ่าย นักวิจัยของ Cochrane พบการศึกษา 2 เรื่อง โดยประเมิน 5 แอปที่ใช้การวิเคราะห์ภาพโดยอัตโนมัติ และแอปที่ใช้วิธีการเก็บและส่งต่อ เพื่อประเมินรอยโรคที่ผิวหนังที่น่าสงสัย

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนวรรณกรรม

การทบทวนวรรณกรรมครั้งนี้มีการศึกษาทั้งหมดสองเรื่อง โดยมี 332 รอยโรค รวมทั้ง 86 มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา วิเคราะห์โดยแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนอย่างน้อยหนึ่งแอป การศึกษาทั้งสองใช้ภาพถ่ายของไฝหรือรอยโรคที่ผิวหนังที่กำลังจะตัดออก เนื่องจากแพทย์ได้ตัดสินใจแล้วว่าอาจเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาได้ ภาพถ่ายถูกถ่ายโดยแพทย์แทนที่จะให้คนถ่ายรูปรอยโรคด้วยสมาร์ทโฟนของตัวเอง ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เราจึงไม่สามารถประมาณการที่น่าเชื่อถือได้ว่าแอปทำงานได้ดีเพียงใด

มี 4 แอปที่ถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนแล้วสร้างผลการประเมินรอยโรคหรือไฝที่ผิวหนังในทันที (อัตโนมัติ) แล้วประเมินผลผิดพลาดระหว่าง 7 ถึง 55 ที่เป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา

มี 1 แอปที่ส่งรูปถ่ายของไฝหรือรอยโรคที่ผิวหนังไปให้แพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินมะเร็ง ซึ่งผิดพลาดเพียงแค่ 1 ที่เป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา อีก 6 ภาพที่เป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาที่ตรวจโดยแพทย์ผิวหนังผ่านแอปพลิเคชันไม่ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูง ในทางกลับกันแพทย์ผิวหนังไม่สามารถจำแนกรอยโรคทั้ง 'ผิดปกติ' (อาจมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา) หรือ 'ปกติ' (แน่นอนว่าไม่ใช่มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา)

ผลของการศึกษาในการทบทวนวรรณกรรมนี้มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างไร

การศึกษาที่รวบรวมได้มีจำนวนน้อยและมีคุณภาพไม่ดีซึ่งลดความน่าเชื่อถือของผลการวิจัย ผู้เข้าร่วมโครงการไม่ใช่ผู้ที่ใช้แอปพลิเคชั่นในชีวิตจริง การวินิจฉัยขั้นสุดท้ายทำโดยการศึกษาทางเซลล์และเนื้อเยื่อ (histology) ซึ่งน่าจะเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้ในการตัดสินใจว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาจริงหรือไม่* อย่างไรก็ตาม การศึกษาทั้งสองได้คัดรูปภาพออกระหว่าง 2% ถึง 18% เนื่องจากแอปพลิเคชันไม่สามารถสร้างคำแนะนำได้

ผลของการตรวจสอบนี้นำไปใช้กับใคร

การศึกษาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี พวกเขาไม่ได้รายงานข้อมูลผู้ป่วยที่สำคัญ เช่น อายุและเพศ ร้อยละของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา คือ 18% และ 35% ซึ่งสูงกว่าที่พบในพื้นที่ชุมชนมาก คำจำกัดความของการคัดเข้าของผู้ป่วยนั้นจำกัด เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มของผู้ใช้แอปพลิเคชัน ภาพถ่ายที่ใช้ถ่ายโดยแพทย์มากกว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการนำผลลัพธ์ไปใช้ประโยชน์

อะไรคือข้อสรุปจากการทบทวนวรรณกรรมนี้

แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนในปัจจุบันที่ใช้การวิเคราะห์อัตโนมัติมีโอกาสสูงที่จะไม่พบมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (ผลลบที่ผิดพลาด) แอปพลิเคชันประเภทการจัดเก็บและส่งต่อ (store-and-forward) อาจมีบทบาทในการระบุผู้ที่มีรอยโรคที่อาจเป็นมะเร็งได้ทันท่วงที เป็นการอำนวยความสะดวกการนัดหมายแก่ผู้ที่มีรอยโรคผิวหนังที่น่าสงสัยในระยะแรก ซึ่งต้องมีการเพิ่มทรัพยากรและปริมาณงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น

การพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยระบุผู้ที่อาจมีมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาเป็นสาขาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การอุบัติของแอปพลิเคชันใหม่ที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น และรายงานการศึกษาที่ดีขึ้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงข้อสรุปของการทบทวนนี้ได้อย่างมาก

การทบทวนวรรณกรรมนี้ทันสมัยแค่ไหน

ผู้ทบทวนได้สืบค้นการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงเดือนสิงหาคม 2016

*ในการศึกษาเหล่านี้ใช้การตรวจชิ้นเนื้อเป็นมาตรฐานอ้างอิง (วิธีการวินิจฉัยขั้นสุดท้าย)

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ใช้การวิเคราะห์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ยังไม่สามารถพิสูจน์ความถูกต้องได้เพียงพอในแง่ของความแม่นยำ และมีความสัมพันธ์ต่อความเป็นไปได้สูงที่จะไม่พบมะเร็งผิวหนังเมลาโลนา แอปพลิเคชันที่อิงจากภาพการจัดเก็บและส่งต่อ (store-and-forward) อาจมีบทบาทในการระบุผู้ที่อาจเป็นรอยโรคที่อาจเป็นมะเร็งได้ทันท่วงที โดยการอำนวยความสะดวกในการดูแลและจัดการสุขภาพตนเองและการนัดหมายในระยะแรกกับผู้ที่มีรอยโรคที่ผิวหนังที่น่าสงสัย อย่างไรก็ตาม อาจต้องมีการเพิ่มทรัพยากรและปริมาณงานอย่างมาก เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอและคุณภาพของระเบียบวิธีวิจัยที่ต่ำของการศึกษาที่มีอยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายความหมายใดๆ ต่อการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสาขาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันใหม่และดีกว่าพร้อมกับการรายงานการศึกษาที่มีประสิทธิภาพจะสามารถเปลี่ยนแปลงข้อสรุปเหล่านี้ได้อย่างมาก

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (melanoma) มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังทั้งหมด แต่กลับเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุด การพบและรักษาในระยะแรกสามารถช่วยให้รอดชีวิตได้ แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีศักยภาพในการประเมินความเสี่ยงในทันทีเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็ง เพื่อให้ผู้ที่มีความเสี่ยงไปพบแพทย์เพื่อประเมินรายละเอียดของรอยโรคเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงที่จะประเมินมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาผิดพลาดและได้รับการรักษาล่าช้า หากแอปพลิเคชันให้การยืนยันกับผู้ใช้ว่ารอยโรคของพวกเขามีความเสี่ยงต่ำ

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินความแม่นยำในการวินิจฉัยของแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนเพื่อคัดแยกมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาที่แพร่กระจายทางผิวหนังและความผิดปกติชนิด atypical intraepidermal melanocytic variants ในผู้ใหญ่ที่มีความกังวลเกี่ยวกับรอยโรคที่ผิวหนังที่น่าสงสัย

วิธีการสืบค้น: 

เราได้สืบค้นอย่างครอบคลุมตั้งแต่จุดเริ่มต้นของฐานข้อมูลถึงเดือนสิงหาคม 2016 ในฐานข้อมูล ดังต่อไปนี้: Cochrane Central Register of Controlled Trials, MEDLINE, Embase, CINAHL, CPCI, Zetoc, Science Citation Index, US National Institutes of Health Ongoing Trials Register, NIHR Clinical Research Network Portfolio Database and the World Health Organization International Clinical Trials Registry Platform เราศึกษารายการอ้างอิงตลอดจนการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบที่ตีพิมพ์

เกณฑ์การคัดเลือก: 

รูปแบบการศึกษาทุกประเภทที่ประเมินแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนสำหรับใช้โดยบุคคลในชุมชนที่มีรอยโรคที่อาจสงสัยเป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาหรือความผิดปกติชนิด atypical intraepidermal melanocytic variants เทียบกับมาตรฐานอ้างอิงของการยืนยันทางเนื้อเยื่อหรือการติดตามผลทางคลินิกและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ประพันธ์การทบทวนวรรณกรรมสองคนดำเนินการสกัดข้อมูลอย่างเป็นอิสระต่อกันโดยใช้แบบฟอร์มสกัดข้อมูลมาตรฐานและแบบฟอร์มประเมินคุณภาพ (อ้างอิงจาก QUADAS-2) เนื่องจากข้อมูลไม่เพียงพอและการศึกษามีคุณภาพต่ำ เราจึงไม่ได้ทำการวิเคราะห์เมตต้าสำหรับการทบทวนนี้ เพื่ออธิบายวัตถุประสงค์ เราได้สร้างกราฟ forest plot ของความไวและความจำเพาะ (sensitivity and specificity) สำหรับแต่ละแอพพลิเคชั่นภายใต้การพิจารณา

ผลการวิจัย: 

การทบทวนวรรณกรรมนี้รายงานเกี่ยวกับรอยโรคในสองกลุ่มการศึกษา (cohorts) ที่ตีพิมพ์ใน 2 การศึกษา การศึกษาทั้งสองเรื่องมีความเสี่ยงของการเกิดอคติจากการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการและมีอัตราภาพที่ประเมินไม่ได้ในระดับสูง มีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการนำผลการศึกษาไปใช้ประโยขน์ เนื่องจากมีการนำเข้าเฉพาะรอยโรคที่เลือกไว้แล้วสำหรับการผ่าตัดในคลินิกโรคผิวหนังและการได้มาซึ่งภาพนั้นมาจากแพทย์มากกว่าผู้ใช้แอปสมาร์ทโฟน

เรารายงานข้อมูลสำหรับ 5 แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ และ 332 รอยโรคผิวหนังที่น่าสงสัย โดยมี 86 มะเร็งผิวหนังเมลาโลนาในการศึกษาทั้งสอง จากแอปพลิเคชันที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ทั้งสี่แอพพลิเคชันที่จำแนกภาพรอยโรค (ภาพถ่าย) เป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโลนา (หนึ่งแอปพลิเคชัน) หรือเป็นรอยโรคที่มีความเสี่ยงสูงหรือ 'มีปัญหา' (สามแอปพลิเคชัน) โดยใช้อัลกอริธึมที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า ความไวอยู่ในช่วง 7% (95% CI 2% ถึง 16%) ถึง 73% (95% CI 52% ถึง 88%) และความจำเพาะจาก 37% (95% CI 29% ถึง 46%) ถึง 94% (95% CI 87% ถึง 97%) แอปพลิเคชันเดียวที่ใช้การตรวจสอบภาพรอยโรคแบบเก็บและส่งต่อโดยแพทย์ผิวหนังมีความไว 98% (95% CI 90% ถึง 100%) และความจำเพาะ 30% (95% CI 22% ถึง 40%)

จำนวนความล้มเหลวในการทดสอบ (ภาพรอยโรคที่วิเคราะห์โดยแอปพลิเคชัน แต่จัดประเภทเป็น 'ประเมินค่าไม่ได้' และคัดออกโดยผู้วิจัย) อยู่ระหว่าง 3 ถึง 31 (หรือ 2% ถึง 18% ของรอยโรคที่วิเคราะห์) แอปพลิเคชันแบบ store-and-forward มีอัตราความล้มเหลวในการทดสอบสูงที่สุด (15%) มีอย่างน้อย 1 มะเร็งผิวหนังเมลาโลนา ถูกจัดว่าประเมินค่าไม่ได้ในการประเมิน 3 ใน 4 แอปพลิเคชัน

บันทึกการแปล: 

แปลโดย นายอนุวัตน์ เพ็งพุฒ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ วันที 1 มิถุนายน 2022

Tools
Information