ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

Metformin สำหรับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

Metformin มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการรักษาสตรีที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติหรือไม่

ความเป็นมา

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (มะเร็งของเยื่อบุของมดลูก) เป็นมะเร็งที่พบบ่อย ที่มีผลต่ออวัยวะสืบพันธุ์ในสตรีทั่วโลก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ (ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก) เป็นภาวะก่อนมะเร็งในสตรีที่อาจนำไปสู่มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การรักษาที่ประสบความสำเร็จของสตรีที่มีโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติสามารถป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติรักษาได้โดยการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนชนิดเม็ด การใส่ห่วงอนามัยโพรงมดลูกที่ปล่อยลีโวนอร์เจสเตรล (LNG-IUS) เข้าไปในมดลูก การแนะนำให้สตรีที่มีน้ำหนักเกินลดน้ำหนัก หรือทำการผ่าตัดมดลูกออกสำหรับสตรีที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนชนิดเม็ดมีความเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงในสตรีสูงถึง 84% และผลข้างเคียงนี้ทำให้สตรีไม่ได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนชนิดเม็ดมักจะไม่มีประสิทธิภาพ และโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 14% ถึง 30% ในสตรีหลังการรักษา LNG-IUS สัมพันธ์กับภาวะเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติในสตรีมากถึง 82% สตรีหลายคนพบว่าการใช้ทำให้เจ็บปวด หรือไม่ก็พบว่าไม่ยอมรับการใช้ ดังนั้น การรักษาทางเลือกสำหรับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติยังเป็นสิ่งที่จำเป็น

Metformin ซึ่งเป็นยาเม็ดรับประทานที่มักใช้รักษาโรคเบาหวาน ได้รับการแสดงให้เห็นว่านำมาเพื่อรักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ (endometrial hyperplasia) ในการศึกษาในมนุษย์บางเรื่อง แม้ว่าผู้ใช้ยา Metformin อาจพบผลข้างเคียงได้แต่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หากสตรีพบผลข้างเคียงน้อยลงเมื่อรับประทาน Metformin เทียบกับยาเม็ดโปรเจสเตอโรน และหาก Metformin สามารถรักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติอย่างมีประสิทธิภาพสตรีก็จะเต็มใจที่จะรักษาให้เสร็จสิ้นมากขึ้นและอัตราการรักษาหายจะดีขึ้น ซึ่งจะสามารถลดจำนวนของสตรีที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Metformin ที่ใช้ในการรักษาสตรีที่มีโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติยังไม่ชัดเจน

ลักษณะของการศึกษา

เรารวบรวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม 7 ฉบับ โดยมีสตรีเข้าร่วมทั้งหมด 387 คน การศึกษา 5 ฉบับเปรียบเทียบ Metformin กับ Megestrol (รูปแบบหนึ่งของโปรเจสเตอโรน) และการศึกษา 1 ฉบับ เปรียบเทียบ Metformin ร่วมกับ Megestrol กับ Megestrol เพียงอย่างเดียว สตรีในการศึกษาทั้งหมดได้รับการรักษาเป็นเวลา 3 ถึง 6 เดือน หลักฐานเป็นปัจจุบันถึงวันที่ 5 กันยายน 2022

ผลการศึกษาที่สำคัญ

การศึกษาเกี่ยวกับ Metformin เพียงอย่างเดียวเทียบกับ Megestrol เพียงอย่างเดียวไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงความแตกต่างในประสิทธิผลในการรักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ (endometrial hyperplasia)

การศึกษาเกี่ยวกับ Metformin ร่วมกับ Megestrol เทียบกับ Megestrol เพียงอย่างเดียว พบว่า Metformin อาจปรับปรุงผนังมดลูกที่หนาขึ้น แต่หลักฐานยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผลลัพธ์อื่นๆ

การศึกษาขนาดเล็ก 1 ฉบับให้หลักฐานไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนหรือปฏิเสธการใช้ metformin ร่วมกับ LNG-IUS หรือ LNG-IUS เพียงอย่างเดียว

ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน

เราจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหลักฐานว่าต่ำไปจนถึงต่ำมากสำหรับผลลัพธ์ทั้งหมด เนื่องจากข้อจำกัดในการออกแบบการศึกษาและขนาดตัวอย่างที่เล็ก

บทนำ

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นมะเร็งนรีเวชที่พบมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง อัตราการเกิดโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกนั้นเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากโรคอ้วนที่เพิ่มมากขึ้น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวเป็นภาวะก่อนเป็นมะเร็งในสตรีที่สามารถนำไปสู่โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา โรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวนั้นโดยปกติพบมากกว่ามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ยาเม็ดโปรเจสเตอโรนที่ใช้ในปัจจุบันในการรักษาสตรีที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติมีความเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงในสตรีมากถึง 84% ห่วงอนามัยที่มี levonorgestrel อาจปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อกำหนด แต่เป็นวิธีการที่รุกราน ไม่เป็นที่ยอมรับของสตรีทุกคน และสัมพันธ์กับเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ 82% ของกรณี ดังนั้น การรักษาทางเลือกสำหรับสตรีที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวจึงมีความจำเป็น

เมตฟอร์มินซึ่งเป็นยาที่มักใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีการศึกษาในมนุษย์บางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสามารถรักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนา (endometrial hyperplasia) ได้ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเมตฟอร์มินสำหรับรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวยังไม่ชัดเจน นี่เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมที่เผยแพร่ครั้งแรก ในปี 2017

วัตถุประสงค์

การตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเมตฟอร์มินในการรักษาสตรีที่ มีโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว

วิธีการสืบค้น

เราสืบค้นใน Cochrane Gynaecology and Fertility Specialized Register, CENTRAL, MEDLINE, PubMed, Embase, Google Scholar, OpenGrey, LILACS และทะเบียนการทดลองสองแห่งตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่ 5 กันยายน 2022 เราค้นหาบรรณานุกรมของการศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และติดต่อผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นสำหรับการทดลองเพิ่มเติม

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวบรวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (randomised controlled trials; RCTs) และ cross-over trial เปรียบเทียบเมตฟอร์มิน (ใช้อย่างเดียว หรือร่วมกับการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ) เปรียบเทียบกับยาหลอก หรือไม่มีการรักษา หรือการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ สำหรับสตรีที่มีผลพยาธิวิทยายืนยันว่าโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวทุกชนิด

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวน 2 คนประเมินการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติอย่างเป็นอิสระต่อกัน ดึงข้อมูลจากการศึกษาที่นำเข้า ประเมินความเสี่ยงของอคติในการศึกษาที่นำเข้า และประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานสำหรับผลลัพธ์แต่ละอย่าง เราแก้ปัญหากรณีมีความเห็นไม่ตรงกันโดยปรึกษากับผู้ประพันธ์การทบทวนคนที่ 3 เมื่อข้อมูลไม่ครบถ้วน ผู้ประพันธ์การทบทวนจะติดต่อกับผู้ประพันธ์การศึกษานั้น ผลลัพธ์หลักของการทบทวนคือการถดถอย (ลดลง) ของพยาธิวิทยาของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว (มี หรือไม่มี atypia) ไปเป็นปกติ

ผลการวิจัย

เรารวบรวม RCTs 7 ฉบับ ซึ่งมีสตรีเข้าร่วมทั้งหมด 387 คน ในการเปรียบเทียบ Metformin ร่วมกับ megestrol เทียบกับ megestrol เพียงอย่างเดียว เราจัดอันดับความเชื่อมั่นของหลักฐานว่าต่ำสำหรับผลลัพธ์ การถดถอยของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ เราให้คะแนนคุณภาพของหลักฐานว่าต่ำมากสำหรับผลลัพธ์ที่เหลือในการเปรียบเทียบทั้ง 3 รายการ

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่ำของอคติในการคัดเลือก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงของอคติในการปิดบังกลุ่มแก่บุคลากรและการประเมินผลลัพธ์ (อคติด้านการปฏิบัติงานและอคติในการตรวจจับ) ในหลายการศึกษา การปรับปรุงนี้พบ RCT ใหม่ 4 ฉบับ และ RCT ที่กำลังดำเนินการอยู่ 6 ฉบับ

Metformin เทียบกับ Megestrol

เราไม่แน่ใจว่า Metformin จะเพิ่มการถดถอยของเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติไปสู่การตรวจชิ้นเนื้อแล้วผลปกติมากกว่า megestrol หรือไม่ (odds ratio (OR) 4.89, 95% ช่วงความเชื่อมั่น (CI) 1.56 ถึง 15.32; P = 0.006; 2 RCTs, ผู้เข้าร่วม 83 คน; I² = 7%; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) หลักฐานนี้ชี้ให้เห็นว่าหากอัตราการถดถอยของการใช้ Megestrol คือ 61% อัตราการถดถอยของ Metformin จะอยู่ระหว่าง 71% ถึง 96%

ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่า Metformin ส่งผลให้อัตราการเกิดเลือดออกผิดปกติของมดลูกหรือการตัดมดลูกแตกต่างกันเมื่อเทียบกับ Megestrol หรือไม่

ไม่มีการศึกษาในการเปรียบเทียบนี้ที่รายงานการลุกลามของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติและกลายไปเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก การกลับเป็นซ้ำของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ คุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หรือผลข้างเคียงระหว่างการรักษา

Metformin ร่วมกับ Megestrol เทียบกับ การรักษาด้วย Megestrol เพียงอย่างเดียว

การใช้ร่วมกันของ Metformin และ Megestrol อาจเพิ่มการถดถอยของเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติไปสู่การตรวจชิ้นเนื้อปกติมากกว่า megestrol เพียงอย่างเดียว (OR 3.27, 95% CI 1.65 ถึง 6.51; P = 0.0007; 4 RCTs, ผู้เข้าร่วม 258 คน; I² = 0%, หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าหากอัตราการถดถอยด้วยการรักษาด้วย Megestrol เพียงอย่างเดียวคือ 54% อัตราการถดถอยเมื่อเพิ่ม Metformin จะอยู่ระหว่าง 66% ถึง 84%

ในการศึกษา 1 ฉบับ มี 3/8 (37.5%) ของผู้เข้าร่วมที่รับประทาน Metformin แล้วมีอาการคลื่นไส้และอาการหายไปโดยไม่ต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม

ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าการใช้ Metformin ร่วมกับ Megestrol ส่งผลให้เกิดอัตราการกลับเป็นซ้ำของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ การลุกลามของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติไปจนถึงมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือการผ่าตัดมดลูกออกเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วย Megestrol เพียงอย่างเดียว

ไม่มีการศึกษาในการเปรียบเทียบนี้รายงานเรื่องเลือดออกผิดปกติในมดลูกหรือคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ

Metformin ร่วมกับ levonorgestrel (ใส่ในโพรงมดลูก) เทียบกับ levonorgestrel (ใส่ในโพรงมดลูก) อย่างเดียว

เราไม่แน่ใจว่ามีความแตกต่างระหว่างกลุ่มในการถดถอยของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติไปเป็นการตรวจชิ้นเนื้อแล้วให้ผลปกติหรือไม่ (OR 0.29, 95% CI 0.01 ถึง 7.56; 1 RCT, ผู้เข้าร่วม 46 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) หลักฐานนี้ชี้ให้เห็นว่าหากอัตราการถดถอยของการรักษาด้วย levonogestrel เพียงอย่างเดียวคือ 96% อัตราการถดถอยเมื่อเติม Metformin จะอยู่ระหว่าง 73% ถึง 100%

ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าการใช้ยา Metformin ร่วมกับ Levonorgestrel ส่งผลให้มีอัตราการเกิดเลือดออกผิดปกติของมดลูก การผ่าตัดมดลูกออก หรือการพัฒนาของผลข้างเคียงในระหว่างการรักษาที่แตกต่างกัน เมื่อเทียบกับการรักษาด้วย Levonorgestrel เพียงอย่างเดียว

ไม่มีการศึกษาใดในการเปรียบเทียบนี้ที่รายงานการกลับเป็นซ้ำของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ การลุกลามของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติและกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ผู้ทบทวนวรรณกรรมพบหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนหรือปฏิเสธการใช้ยา metformin โดยเฉพาะ Megestrol acetate ที่ให้เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับการรักษามาตรฐาน สำหรับการรักษาสตรีที่มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ

การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบที่น่าเชื่อถือและมีขนาดตัวอย่างมากพอ ที่วัดผลลัพธ์ระยะยาวยังมีความจำเป็นเพื่อตอบคำถามทางคลินิกนี้

บันทึกการแปล

แปลโดย แพทย์หญิงวิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย พ.ญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 17 เมษายน 2025

Citation
Shiwani H, Clement NS, Daniels JP, Atiomo W. Metformin for endometrial hyperplasia. Cochrane Database of Systematic Reviews 2024, Issue 5. Art. No.: CD012214. DOI: 10.1002/14651858.CD012214.pub3.