ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การรักษาอาการอ่อนล้าจากโรคปลายประสาทอักเสบ

คำถามการทบทวนวรรณกรรม

เพื่อประเมินผลการรักษาภาวะอ่อนล้าในผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ

ความเป็นมา

โรคเส้นประสาทส่วนปลายคือความเสียหายของเส้นประสาทที่อยู่นอกสมองและไขสันหลัง ผู้ที่เป็นโรคเส้นประสาทส่วนปลายจำนวนมากมักรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง (อ่อนล้า) โดยไม่จำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีหลักฐานว่าในอาการเจ็บป่วยระยะยาวอื่นๆ ที่ความเหนื่อยล้าเป็นปัญหาชี้ให้เห็นว่ายาและการรักษารูปแบบอื่น ๆ อาจช่วยได้ วัตถุประสงค์ของการทบทวนนี้คือเพื่อประเมินผลของยาและการรักษาอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกายโดยทั่วไปหรือเฉพาะ อุปกรณ์ช่วยพยุงข้อ (เช่น เครื่องพยุงข้อ) การผ่อนคลาย การให้คำปรึกษา และกลยุทธ์ทางความคิด พฤติกรรม และการศึกษา ต่อความรู้สึกเหนื่อยล้าในผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ

ลักษณะของการศึกษา

จากการค้นหาแบบกว้าง เราพบ RCTs 3 ฉบับที่ตรงตามเกณฑ์การเลือกของเรา การทดลองนี้ครอบคลุมผู้ใหญ่ที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบรวม 530 ราย การรักษาคือการใช้กรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี) ในผู้ป่วยโรค Charcot-Marie-Tooth ในการทดลอง 2 ฉบับ และยาอะแมนทาดีนในผู้ป่วยโรค Guillain-Barré ในการทดลองฉบับที่ 3 โรค Charcot-Marie-Tooth เป็นโรคทางเส้นประสาทที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และโรค Guillain-Barré เป็นภาวะที่เส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ เราเลือกการวัดความเหนื่อยล้าในช่วง 4 ถึง 12 สัปดาห์เป็นตัววัดผลการรักษาที่เราต้องการ การทดลองอะแมนทาดีนแต่ไม่ใช่การทดลองกรดแอสคอร์บิกให้ข้อมูล ณ ช่วงเวลาดังกล่าว การทดลองกรดแอสคอร์บิกให้ข้อมูลมากกว่า 12 เดือนหลังจากเริ่มการแทรกแซง

ผลลัพธ์ที่สำคัญและคุณภาพของหลักฐาน

มีหลักฐานไม่เพียงพอในการพิจารณาผลของอะแมนทาดีนเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาที่ไม่มีฤทธิ์ (ยาหลอก) สำหรับอาการอ่อนล้า และไม่มีผลข้างเคียงที่สำคัญใด ๆ เราพบหลักฐานว่ากรดแอสคอร์บิกอาจมีประโยชน์น้อยมากในการรักษาอาการอ่อนล้า ไม่มีการระบุผลข้างเคียงที่สำคัญ แต่การทดลองมีขนาดเล็ก เราประเมินคุณภาพของหลักฐานนี้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากผลลัพธ์ไม่แม่นยำ ซึ่งหมายความว่าผลลัพธ์ดังกล่าวไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ยาจะมีผลกระทบ เราไม่พบหลักฐานจากการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมเกี่ยวกับยาหรือการรักษาอื่น ๆ สำหรับอาการอ่อนล้าจากโรคปลายประสาทอักเสบ

มีหลักฐานไม่เพียงพอในการระบุผลของอะแมนทาดีนต่ออาการอ่อนล้าใน GBS และกรดแอสคอร์บิกต่ออาการอ่อนล้าใน CMT1A จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพสูงกว่านี้เพื่อหาหลักฐานที่ใช้เป็นพื้นฐานในการจัดการความรู้สึกเหนื่อยล้าในโรคปลายประสาทอักเสบ การประเมินประสิทธิผลของการแทรกแซงที่แตกต่างกันควรได้รับการพิจารณาใน RCT ในอนาคตด้วย

หลักฐานในการวิจารณ์ครั้งนี้เป็นปัจจุบันถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 2013

บทนำ

ความรู้สึกเหนื่อยล้าเรื้อรัง (หรือเหนื่อยล้าทางจิตใจ) ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่มีปัจจัยทางสรีรวิทยา เกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบจำนวนมาก มีวิธีการแทรกแซงต่าง ๆ มากมายสำหรับอาการอ่อนล้า แต่ยังมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับประสิทธิผลหรือแนวโน้มที่จะเกิดผลข้างเคียงสำหรับผู้ที่มีโรคปลายประสาทอักเสบ

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินผลของยาและการแทรกแซงทางกายภาพ จิตวิทยา หรือพฤติกรรมต่ออาการอ่อนล้าในผู้ใหญ่หรือเด็กที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบ

วิธีการสืบค้น

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ปี 2013 เราได้ค้นหาใน Cochrane Neuromuscular Disease Group Specialized Register, CENTRAL, MEDLINE, EMBASE, CINAHL Plus, LILACS และ AMED นอกจากนี้ เรายังค้นหารายการอ้างอิงของการศึกษาทั้งหมดที่ระบุเพื่อรวมเข้าและการทบทวนที่เกี่ยวข้อง และติดต่อกับผู้เขียนการศึกษาที่รวมอยู่และผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่รู้จักในสาขานั้น ๆ เพื่อระบุข้อมูลที่ได้รับการตีพิมพ์หรือไม่ได้ตีพิมพ์เพิ่มเติม นอกจากนี้เรายังค้นหาการทดลองที่ลงทะเบียนสำหรับการทดลองที่กำลังดำเนินการอยู่

เกณฑ์การคัดเลือก

เราพิจารณานำเข้าการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (randomised controlled trials; RCT) และแบบ quasi-RCTs ที่เปรียบเทียบรูปแบบ วิธีการใดๆ สำหรับการจัดการความเหนื่อยล้าในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบ เทียบกับยาหลอก การไม่มีการแทรกแซงใด หรือวิธีการทางเลือกอื่น ๆ สำหรับดูแลรักษาอาการอ่อนล้า วิธีการดูแลรักษา (interventions) ที่พิจารณาได้แก่ การใช้ยา การกำหนดจังหวะและการจัดระดับกิจกรรมทางกาย การออกกำลังกายโดยทั่วไปหรือเฉพาะเจาะจง กลยุทธ์ชดเชย เช่น อุปกรณ์เสริมด้านกระดูก การผ่อนคลาย การให้คำปรึกษา กลยุทธ์ทางความคิดและการให้ความรู้

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้เขียน 2 คนได้ประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ และดึงข้อมูลการศึกษาออกมาอย่างเป็นอิสระต่อกัน เราติดต่อผู้นิพนธ์การศึกษาเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เราเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการทดลองที่รวมอยู่

ผลการวิจัย

การทบทวนนี้ประกอบด้วยการทดลอง 3 ฉบับ ซึ่งล้วนมี ความเสี่ยงของการมีอคติต่ำ โดยมีผู้เข้าร่วม 530 รายที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ผลของอะแมนทาดีนจากการทดลองแบบ randomised, double-blind, placebo-controlled, cross-over trial ซึ่งเปรียบเทียบอะแมนทาดีนกับยาหลอกในการรักษาอาการอ่อนล้าในผู้ป่วยโรคกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré syndrome: GBS) จำนวน 80 ราย ไม่แน่นอนในสัดส่วนของผู้ที่บรรลุผลลัพธ์ที่ดีหลังจากการแทรกแซง 6 สัปดาห์ (odds ratio (OR) 0.56 (ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.22 ถึง 1.35, N = 74, P = 0.16) เราประเมินว่าคุณภาพของหลักฐานต่ำ การทดลองแบบ parallel-group randomised double-blind, placebo-controlled trials 2 ฉบับที่เปรียบเทียบผลของกรดแอสคอร์บิก 2 โดสกับยาหลอกในการลดอาการอ่อนล้าในผู้ใหญ่ที่เป็นโรค Charcot-Marie-Tooth ชนิด 1A (CMT1A) พบว่าผลของกรดแอสคอร์บิกในขนาดยาใดขนาดหนึ่งอาจมีขนาดเล็ก (ค่าความแตกต่างเฉลี่ยมาตรฐาน (SMD) -0.12 (95% CI -0.32 ถึง 0.08, n = 404, P = 0.25)) สำหรับการเปลี่ยนแปลงของอาการอ่อนล้าหลังจาก 12 ถึง 24 เดือน (หลักฐานคุณภาพปานกลาง) การศึกษากรดแอสคอร์บิกไม่ได้วัดความเหนื่อยล้าในช่วง 4 ถึง 12 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการวัดผลลัพธ์หลักของเรา ไม่มีการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงจากการใช้อะแมนทาดีน พบว่ามีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงในการทดลองกรดแอสคอร์บิก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของอาการไม่พึงประสงค์ร้ายแรงมีความคล้ายคลึงกันระหว่างได้รับกรดแอสคอร์บิกและยาหลอก

ข้อสรุปของผู้วิจัย

การศึกษาวิจัยขนาดเล็กที่ไม่แม่นยำครั้งหนึ่งในกลุ่มผู้ป่วย GBS แสดงให้เห็นผลที่ไม่ชัดเจนของอะแมนทาดีนต่อความเหนื่อยล้า จากการศึกษา 2 ฉบับในกลุ่มผู้ป่วย CMT1A มีหลักฐานคุณภาพปานกลางที่ระบุว่ากรดแอสคอร์บิกมีประโยชน์ที่สำคัญเพียงเล็กน้อยต่ออาการอ่อนล้า ข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงยังมีจำกัด แม้ว่าการรักษาทั้งสองวิธีดูเหมือนผู้ป่วยจะทนได้ดีและปลอดภัยในสภาวะเหล่านี้

ไม่มีหลักฐานจาก RCT ที่จะประเมินผลของยาอื่นหรือการแทรกแซงด้วยวิธีการอื่น ๆ สำหรับความอ่อนล้าใน GBS, CMT1A หรือสาเหตุอื่น ๆ ของโรคปลายประสาทอักเสบ การประเมินประสิทธิผลของวิธีการที่ใช้ที่แตกต่างกันควรได้รับการพิจารณาในงานทดลองทางคลินิกแบบสุ่มในอนาคตด้วย

บันทึกการแปล

ผู้แปล แพทย์หญิงชุติมา ชุณหะวิจิตร วันที่ 11 มกราคม 2025

Citation
White CM, van Doorn PA, Garssen MPJ, Stockley RC. Interventions for fatigue in peripheral neuropathy. Cochrane Database of Systematic Reviews 2014, Issue 12. Art. No.: CD008146. DOI: 10.1002/14651858.CD008146.pub2.