ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วิธีการระบายของเหลวที่มีเซลล์มะเร็งที่สะสมในช่องท้องของสตรีที่มีมะเร็งเนื้องอกในระบบอวัยวะสืบพันธ์ุสตรี

ความเป็นมา

เนื้องอกร้ายคือการสะสมของของเหลวภายในโพรงในช่องท้องที่เกิดจากมะเร็ง สตรีที่มีโรคมะเร็งรังไข่ระยะลุกลามและสตรีบางคนที่มีมะเร็งมดลูกระยะลุกลาม (หรือที่เรียกว่ามะเร็งมดลูก) มักต้องการระบายน้ำเนื้อร้ายในช่องท้องเพื่อบรรเทาอาการไม่สบาย แนวทางที่จะแนะนำผู้ดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำในช่องท้องมักจะพัฒนาขึ้นเองในพื้นที่และโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์

ลักษณะของการศึกษา

เราค้นหาการศึกษาถึงเดือนกันยายน 2019 ที่เปรียบเทียบวิธีการที่แตกต่างกันในการจัดการการระบายของเหลวที่สะสมในช่องท้องของสตรีที่มีมะเร็งนรีเวช (มะเร็งที่เริ่มต้นในอวัยวะสืบพันธุ์ของสตรี)

ผลลัพธ์ที่สำคัญและคุณภาพของหลักฐาน

การทบทวนวรรณกรรมเดิมเมื่อปี 2010 พบว่าไม่มีการศึกษาที่เกี่ยวข้อง การทบทวนวรรณกรรมที่ได้รับการปรับปรุงนี้รวบรวม randomised controlled trial หนึ่งเรื่อง (RCT: ประเภทของการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสุ่มให้รับการรักษาที่แตกต่างกัน) มีสตรี 245 คนที่เปรียบเทียบการระบายน้ำร่วมกับ catumaxomab (ยาที่ใช้ในการรักษามะเร็ง) กับการระบายน้ำเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ไม่เพียงพอที่จะประเมินความแตกต่างระหว่างการรักษาเหล่านี้ แม้ว่าสตรีที่ได้รับการระบายน้ำรวมกับ catumaxomab จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า (โดยทั่วไปเป็นความเป็นอยู่ที่ดีของคน) นานขึ้นเมื่อเทียบกับการระบายน้ำเพียงอย่างเดียว เราก็ไม่แน่ใจในหลักฐานนี้เนื่องจากจำนวนผู้เข้าร่วมและการทดลองมีน้อย มีผลข้างเคียงบางอย่างในกลุ่มที่ได้รับการระบายน้ำร่วมกับ catumaxomab (เช่นความเจ็บปวด จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ) แต่ไม่ได้มีรายงานที่ดี ในปัจจุบัน มีข้อมูลไม่เพียงพอสำหรับการจัดการที่ดีที่สุดในการระบายน้ำสำหรับสตรีที่มีมะเร็งนรีเวช

หลักฐานงานวิจัยมีถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2019

บทนำ

ท้องมารคือการสะสมของของเหลวภายในช่องท้อง สตรีส่วนใหญ่ที่เป็นมะเร็งรังไข่ระยะลุกลามและสตรีที่เป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะลุกลามบางคนต้องใช้การระบายน้ำออกจากช่องท้อง แนวทางที่จะแนะนำผู้ดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำในช่องท้องมักจะพัฒนาขึ้นเองในพื้นที่และโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ การจัดการระบายน้ำที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของวิธีการเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างคำแนะนำที่สามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิต (QoL) สำหรับสตรีในช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตของพวกเขา

วัตถุประสงค์

เพื่อประเมินประสิทธิผลและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ของวิธีการที่แตกต่างกันสำหรับการจัดการระบายน้ำที่เกิดจากมะเร็งในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรี

วิธีการสืบค้น

เราค้นหา CENTRAL, MEDLINE, และ Embase ถึง 4 พฤศจิกายน 2019 เราตรวจสอบทะเบียนการทดลองทางคลินิก, grey literature รายงานการประชุม, รายการอ้างอิงของการศึกษาที่รวมนำเข้า, และตำราที่สำคัญสำหรับการศึกษาที่อาจเกี่ยวข้อง

เกณฑ์การคัดเลือก

เรารวม randomised controlled trials (RCTs) ของสตรีที่มีท้องมานร่วมกับโรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธ์ุสตรี หากการศึกษารวบรวมสตรีที่มีโรคมะเร็งที่ไม่ใช่อวัยวะสืบพันธุ์สตรี เราวางแผนที่จะดึงข้อมูลเฉพาะสำหรับสตรีที่มีมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรีหรือขอข้อมูลจากผู้ประพันธ์ ถ้าเป็นไปไม่ได้ เราวางแผนที่จะรวมการศึกษาเฉพาะในกรณีที่อย่างน้อย 50% ของผู้เข้าร่วมได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรี

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

ผู้ทบทวนสองคนเลือกการศึกษา ดึงข้อมูล ประเมินคุณภาพของการศึกษา เปรียบเทียบผล และประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานอย่างเป็นอิสระโดยใช้วิธีการของ Cochrane

ผลการวิจัย

ในการทบทวนวรรณกรรมเดิมเมื่อปี 2010 พบว่าไม่มีการศึกษาที่เกี่ยวข้อง การทบทวนวรรณกรรมฉบับปรับปรุงนี้มี RCT หนึ่งฉบับที่มีผู้เข้าร่วม 245 คนที่เปรียบเทียบการเจาะช่องท้องระบายน้ำและใส่ catumaxomab ในช่องท้องเทียบกับการเจาะช่องท้องระบายน้ำอย่างเดียว การศึกษานี้มีความเสี่ยงของการเกิดอคติในระดับสูงในเกือบทุก domains ข้อมูลไม่เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ ค่ามัธยฐานของเวลาที่เริ่มเสื่อมลงของคุณภาพชีวิตอยู่ระหว่าง 19 ถึง 26 วันในผู้เข้าร่วมโครงการที่ได้รับการเจาะช่องท้องระบายน้ำ เพียงอย่างเดียวเทียบกับ 47 ถึง 49 วันในผู้เข้าร่วมโครงการที่ได้รับการเจาะช่องท้องระบายน้ำร่วมกับการฉีด catumaxomab (หลักฐานความเชื่อมั่นระดับต่ำมาก) เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์มีรายงานเฉพาะในผู้เข้าร่วมโครงการที่ได้รับการฉีด catumaxomab เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์รุนแรงที่พบมากที่สุดคืออาการปวดท้องและ lymphopenia (ผู้เข้าร่วมโครงการ 157 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นระดับต่ำมาก) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการดีขึ้นของอาการ ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการและผู้ดูแลผู้ป่วยและ cost effectiveness

ข้อสรุปของผู้วิจัย

ในขณะนี้ มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะแนะนำการระบายน้ำในช่องท้องที่เหมาะสมที่สุดในสตรีที่มีมะเร็งนรีเวชี มีเพียงหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นระดับต่ำมากจาก RCT ขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงของอคติโดยรวมในระดับสูง

บันทึกการแปล

แปลโดย ศ.นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 1 มกราคม 2020

Citation
Kietpeerakool C, Rattanakanokchai S, Jampathong N, Srisomboon J, Lumbiganon P. Management of drainage for malignant ascites in gynaecological cancer. Cochrane Database of Systematic Reviews 2019, Issue 12. Art. No.: CD007794. DOI: 10.1002/14651858.CD007794.pub3.