เครื่องมือช่วยคลอดทางช่องคลอด

เราใช้หลักฐานจากการทดลองแบบสุ่มมีกลุ่มควบคุมเพื่อประเมินคีมและถ้วยดูดแบบต่างๆ ที่ใช้ในการคลอดทางช่องคลอด

ประเด็นคืออะไร

การคลอดบุตรเมื่อปากมดลูก (คอของมดลูก) ขยายเต็มที่ บางครั้งจำเป็นต้องช่วยคลอดบุตรผ่านทางช่องคลอดด้วยเครื่องมือ ซึ่งอาจเป็นเพราะแม่หมดแรง สงสัยว่าทารกมีภาวะอันตราย หรือแม่มีโรคประจำตัวที่ทำให้ไม่สามารถเบ่งคลอดเป็นเวลานานได้

มีเครื่องมือที่ใช้ได้สองประเภท: คีมหรือถ้วยดูดสูญญากาศ คีมยังแบ่งออกเป็น 'คีมธรรมดา' เมื่อศีรษะของทารกอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และ 'คีมหมุน' ซึ่งใช้หมุนศีรษะของทารกให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ถ้วยสูญญากาศสามารถแบ่งออกเป็นถ้วยแบบแข็งหรือแบบยืดหยุ่น และแบบที่มีอุปกรณ์ดูดแบบใช้มือถือหรือแบบที่เชื่อมต่อกับปั๊มแบบใช้เท้าหรือแบบไฟฟ้าต่อกับท่อ การเลือกเครื่องมือนี้มักถูกกำหนดโดยสถานการณ์ทางคลินิก แต่บางครั้งก็มีทางเลือก

ทำไมมันถึงสำคัญ

เครื่องมือทุกประเภทสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อแม่หรือทารกและทุกอย่างก็ล้มเหลวได้เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางคลินิก โดยมีโอกาสที่ดีที่สุดในการคลอดบุตรทางช่องคลอดที่ประสบความสำเร็จ โดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ

เราพบหลักฐานอะไรบ้าง

เราได้ทำการค้นหาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2021 ผลที่พบอิงจากการศึกษา 31 ฉบับ มีสตรีและทารกทั้งหมด 5754 คน

การศึกษา 12 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับสตรี 3129 คนเปรียบเทียบคีมชนิดใดๆ กับถ้วยสูญญากาศใดๆ คีมมีแนวโน้มที่การคลอดทางช่องคลอดสำเร็จมากกว่า แต่มีการฉีกขาดของฝีเย็บรวมถึงที่ส่งผลต่อทวารหนักหรือลำไส้ใหญ่ส่วนปลายมากกว่า (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำทั้งคู่) ไม่มีหลักฐานของความแตกต่างของอัตราการตกเลือดหลังคลอด (เลือดออกมากหลังคลอด) ระหว่างกลุ่ม (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) ไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในโอกาสที่คะแนน Apgar ต่ำ (ระบบการให้คะแนนที่ใช้เพื่อประเมินความเป็นอยู่ที่ดีของทารกที่ 1 และ 5 นาทีเพื่อพิจารณาว่าพวกเขารับมือได้ดีเพียงใดหลังคลอด) และ pH ของหลอดเลือดแดงสายสะดือต่ำ (การตรวจเลือดจาก สายสะดือเพื่อประเมินระดับออกซิเจนของทารกทันทีก่อนคลอด) (หลักฐานความแน่นอนต่ำทั้งคู่) สตรีที่ใช้คีมมีความต้องการในการบรรเทาอาการปวดสูงกว่า แม้ว่าทารกจะมีโอกาสเป็นโรคดีซ่านน้อยกว่า

การศึกษาเล็กๆ 2 ฉบับ ในสตรี 218 คนเปรียบเทียบคีมคีบต่ำกับถ้วยสุญญากาศใดๆ แต่หลักฐานส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่ำมาก เราจึงไม่ได้ข้อสรุปที่มีความหมาย

งานศึกษา 9 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับสตรี 1148 คนเปรียบเทียบถ้วยแบบแข็งกับถ้วยแบบนิ่ม และพบว่าถ้วยแบบแข็งอาจมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้การคลอดสำเร็จ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ) ในขณะที่อาจไม่มีหลักฐานว่ามีความแตกต่างในอัตราการฉีกขาดของฝีเย็บที่ส่งผลต่อทวารหนักหรือลำไส้ใหญ่ หรือภาวะตกเลือดหลังคลอด (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำและปานกลาง) นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในอัตรา Apgar ต่ำและ pH ของหลอดเลือดแดงสายสะดือต่ำ (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ)

ในการศึกษา 4 ฉบับ ที่มีสตรีทั้งหมด 962 คน เราพบว่าไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในโอกาสที่การคลอดบุตรล้มเหลวระหว่างกลุ่มที่ใช้ถ้วยสูญญากาศแบบใช้มือถือเมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ที่ใช้ถ้วยดูดแบบมาตรฐาน (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ) นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในความเสี่ยงของการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อทางทวารหนักของมารดา (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำ) สุดท้าย ไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในอัตราของการตกเลือดหลังคลอด ค่า pH ของหลอดเลือดแดงสายสะดือต่ำ หรือ Apgar ต่ำระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำ)

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร

การตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมือใดขึ้นกับปัจจัยหลายประการ และจำเป็นต้องพิจารณาถึงทักษะและทรัพยากรที่มีอยู่ และความเร่งด่วนในการคลอดบุตร แพทย์จำเป็นต้องเลือกเครื่องมือที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะประสบความสำเร็จในการคลอดบุตรโดยเกิดอันตรายน้อยที่สุดต่อมารดาและทารก

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การตรวจสอบนี้ให้หลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำว่าคีมอาจมีแนวโน้มที่จะคลอดทางช่องคลอดได้สำเร็จมากกว่าและมีอัตราการบาดเจ็บของทารกในครรภ์ที่ต่ำกว่า แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บที่ฝีเย็บและความต้องการบรรเทาอาการปวดที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับถ้วยสูญญากาศ มีหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำว่าถ้วยสูญญากาศแบบแข็งมีแนวโน้มที่จะคลอดทางช่องคลอดสำเร็จมากกว่าถ้วยแบบนิ่ม แต่เกิดอาการบาดเจ็บของทารกในครรภ์มากกว่า ในขณะที่ถ้วยสูญญากาศแบบใช้มือถือมีอัตราความสำเร็จที่ใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับถ้วยอื่นๆ ไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในอัตราการฉีกขาดระดับ 3 หรือ 4 หรือการตกเลือดหลังคลอดระหว่างถ้วยประเภทต่างๆ แต่ช่วงความเชื่อมั่นที่กว้างรอบประมาณการบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในพื้นที่นี้

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การช่วยคลอดทางช่องคลอดจะดำเนินการเพื่อเร่งการคลอดเพื่อประโยชน์ของมารดาและทารก แต่บางครั้งก็เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยที่สำคัญสำหรับทั้งคู่ เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ แบ่งกว้างๆเป็นคีมและถ้วยสูญญากาศ และตัวเลือกอาจได้รับอิทธิพลจากสถานการณ์ทางคลินิก ความชอบของผู้ปฏิบัติงาน ประสบการณ์และความพร้อมในการใช้งาน

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินเครื่องมือต่าง ๆ ในแง่ของความสำเร็จในการคลอดบุตรทางช่องคลอด และความเสี่ยงของการเจ็บป่วยของมารดาและทารก

วิธีการสืบค้น: 

เราสืบค้นใน Cochrane Pregnancy and Childbirth's Trials Register, ClinicalTrials.gov, WHO International Clinical Trials Registry Platform ( ICTRP ) (14 พฤษภาคม 2021) และรายการอ้างอิงของการศึกษาที่ดึงมาได้

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เราเลือกการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมสำหรับการคลอดทางช่องคลอดโดยใช้เครื่องมือต่างๆ การทบทวนนี้ไม่ได้รวบรวมการศึกษาประเภทดังต่อไปนี้ quasi-randomised trials, cluster-randomised trials หรือ cross-over designs การทบทวนนี้รวบรวมทั้งการทดลองที่มีบทคัดย่อเพียงอย่างเดียวตราบใดที่มีข้อมูลเพียงพอที่จะประเมินว่าตรงตามเกณฑ์การคัดเข้า

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้ระเบียบวิธีมาตรฐานของ Cochrane เราใช้แนวทาง GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐาน ผลลัพธ์หลักที่ประเมินรวมถึงการคลอดที่ล้มเหลวด้วยเครื่องมือที่จัดสรรไว้ การบาดเจ็บของมารดา การฉีกขาดในระดับที่ 3 และ 4 การตกเลือดหลังคลอด การบาดเจ็บของทารกแรกเกิด คะแนน Apgar ต่ำ และค่า pH ของหลอดเลือดแดงสายสะดือต่ำ

ผลการวิจัย: 

เรารวบรวมการศึกษา 31 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับสตรีทั้งหมด 5754 คน ความเสี่ยงของเกณฑ์อคติส่วนใหญ่ได้รับการประเมินว่า 'ไม่ชัดเจน' เนื่องจากขาดรายละเอียดในรายงานการทดลอง การปกปิดกลุ่มอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับการทดลองทั้งหมด เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถปกปิดประเภทของเครื่องมือที่ใช้จากสตรีหรือผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นในความเสี่ยงของอคติในเรื่องการประเมินผลลัพธ์

คีมชนิดใดก็ได้เทียบกับถ้วยสุญญากาศชนิดใดก็ได้ (การศึกษา 12 ฉบับ สตรี 3129 คน)

คีมอาจมีโอกาสน้อยกว่าที่จะล้มเหลวในการคลอดทางช่องคลอด: อัตราส่วนความเสี่ยง (RR) 0.58 ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.39 ถึง 0.88; การศึกษา 11 ฉบับ สตรี 3080 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ 'การบาดเจ็บของมารดาใดๆ' อาจเป็นไปได้มากกว่าเล็กน้อยเมื่อใช้คีม: อัตราต่อรอง (OR) 1.53, 95% CI 0.98 ถึง 2.40; การศึกษา 5 ฉบับ, สตรี 1356 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ และการฉีกขาดระดับ 3 หรือ 4 ก็อาจเป็นไปได้มากกว่าด้วยคีม: RR 1.83, 95% CI 1.32 ถึง 2.55; การศึกษา 9 ฉบับ, สตรี 2493 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ ไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในอุบัติการณ์ของการตกเลือดหลังคลอด (PPH) ระหว่าง 2 กลุ่ม: RR 1.71, 95% CI 0.59 ถึง 4.95; การศึกษา 2 ฉบับ, สตรี 523คน; ความเชื่อมั่นต่ำ เนื่องจากหลักฐานไม่ชัดเจนมากเนื่องจากมี CI ที่กว้างมาก สตรีจำนวนมากขึ้นในกลุ่มคีมรายงานว่าต้องการการบรรเทาอาการปวด

อาจไม่มีหลักฐานของความแตกต่างในอัตรา Apgar ที่ต่ำ: RR 0.83, 95% CI 0.46 ถึง 1.51; การศึกษา 7 ฉบับ สตรี 1644 คน; ความเชื่อมั่นปานกลาง หรือ pH ของหลอดเลือดแดงสะดือต่ำในกลุ่มคีมเมื่อเทียบกับสุญญากาศ: RR 1.33, 95% CI 0.91 ถึง 1.93; การศึกษา 2 ฉบับ สตรี 789 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ ผลลัพธ์ทั้งสองนี้ไม่ชัดเจนและมี CIs กว้างซึ่งรวมถึงทั้งประโยชน์และโทษ นอกจากนี้ยังมีอัตราที่ต่ำกว่าของการบาดเจ็บของทารกในครรภ์ด้วย 'คีมใดๆ' (cephalhematoma, เลือดออกในจอประสาทตาและโรคดีซ่าน)

ไม่ได้รายงานผลรวมของ 'การบาดเจ็บของทารกแรกเกิด'

คีมปากช่องต่ำเทียบกับถ้วยสูญญากาศใดๆ (การศึกษา 2 ฉบับ, สตรี 218 คน)

เรารวมการศึกษาขนาดเล็ก 2 ฉบับ ที่มีผู้เข้าร่วม 218 คนในการเปรียบเทียบนี้ แต่เราตัดสินว่าหลักฐานส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่ำมาก ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินความแตกต่างของอัตราการคลอดที่ล้มเหลว การบาดเจ็บของมารดา หรือการฉีกขาดของฝีเย็บระดับที่ 3 และ 4 ไม่ได้รายงาน PPH และ pH ของหลอดเลือดแดงสายสะดือที่ต่ำ

ถ้วยสูญญากาศแบบอ่อนเทียบกับถ้วยสูญญากาศแบบแข็งใดๆ (การศึกษา 9 ฉบับ, สตรี 1148 คน)

การที่ล้มเหลวอาจมีแนวโน้มมากกว่าในกลุ่มถ้วยสูญญากาศแบบอ่อน: RR 1.62, 95% CI 1.21 ถึง 2.17; การศึกษา 9 ฉบับ, สตรี 1148 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ อัตรา 'การบาดเจ็บของมารดา' อาจไม่แตกต่างกัน: OR 0.63, 95% CI 0.24 ถึง 1.67; การศึกษา 2 ฉบับ, สตรี 348 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ แต่ช่วงความเชื่อมั่นกว้าง ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นไปได้ทั้งประโยชน์หรืออันตราย

อัตราการบาดเจ็บที่ฝีเย็บระดับสามหรือสี่อาจไม่แตกต่างกัน: RR 0.93, 95% CI 0.35 ถึง 2.44; การศึกษา 4 ฉบับ สตรี 619 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ อาจไม่มีความแตกต่างในอัตราของ PPH: RR 0.89, 95% CI 0.49 ถึง 1.61; การศึกษา 5 ฉบับ สตรี 737 คน; ความเชื่อมั่นปานกลางระหว่างกลุ่มถ้วยแบบอ่อนและแบบแข็ง

คะแนน Apgar ต่ำอาจแตกต่างกันเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างเลย: RR 0.82, 95% CI 0.49 ถึง 1.37; การศึกษา 9 ฉบับ, 1148; ความมั่นใจต่ำ หรือ pH ของหลอดเลือดแดงสะดือต่ำ: RR 0.80, 95% CI 0.47 ถึง 1.36; การศึกษา 1 ฉบับ, สตรี 100 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ

ถ้วยดูดแบบใช้มือถือเทียบกับถ้วยดูดใดๆ (การศึกษา 4 ฉบับ, สตรี 968 คน )

อัตราความล้มเหลวของเครื่องมือที่จัดสรรอาจไม่แตกต่างกัน: RR 1.35, 95% CI 0.81 ถึง 2.25; การศึกษา 4 ฉบับ สตรี 962 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ การบาดเจ็บใดๆของมารดา: OR 1.16, 95% CI 0.71 ถึง 1.88; การศึกษา 2 ฉบับ; สตรี 394 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ PPH: RR 0.31, 95% CI 0.03 ถึง 2.92; การศึกษา 1 ฉบับ สตรี 164 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ, pH ของหลอดเลือดแดงสะดือต่ำ: RR 1.06, 95% CI 0.71 ถึง 1.59; การศึกษา 1 ฉบับ สตรี 164 คน ; ความเชื่อมั่นต่ำหรือคะแนน Apgar ต่ำ: RR 1.25, 95% CI 0.34 ถึง 4.61; การศึกษา 3 ฉบับ, สตรี 784 คน; ความเชื่อมั่นต่ำ) ระหว่าง 2 กลุ่ม

อัตราการฉีกขาดของฝีเย็บระดับที่ 3 หรือ 4 ระหว่างกลุ่ม 'ถ้วยดูดแบบใช้มือถือ' และ 'ถ้วยสูญญากาศใดๆ อาจไม่แตกต่างกัน: RR 1.15, 95% CI 0.62 ถึง 2.12; การศึกษา 4 ฉบับ สตรี 962 คน; ความเชื่อมั่นปานกลาง

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว Edit โดย ผกากรอง 15 ธันวาคม 2022

Tools
Information