กายภาพบำบัดทรวงอกแบบดั้งเดิมเมื่อเทียบกับเทคนิคการล้างทางเดินหายใจอื่น ๆ สำหรับ Cystic fibrosis

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

การทำกายภาพบำบัดทรวงอกแบบธรรมดา (CCPT) ดีกว่าวิธีการเปิดทางเดินหายใจด้วยวิธีอื่นๆ สำหรับผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิส (CF) หรือไม่

ใจความสำคัญ

เทคนิคการล้างทางเดินหายใจ (ACTs) เป็นส่วนสำคัญของการบำบัดในผู้ที่มีโรค CF

ขณะนี้มี ACT หลายประเภท แต่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ว่าแต่ละประเภทดีอย่างไรและเปรียบเทียบกันอย่างไร

จุดเน้นของการทบทวนนี้คือการเปรียบเทียบ CCPT (หรือที่เรียกว่ากายภาพบำบัดทรวงอกแบบดั้งเดิม) กับ ACT ทางเลือก

Cystic fibrosis คืออะไร

CF เป็นโรคที่สืบทอดทางพันธูกรรมที่จำกัดการใช้ชีวิต ซึ่งมีผลต่อผู้คนระหว่าง 70,000 ถึง 100,000 คนทั่วโลก ผู้ที่เป็นโรค CF จะผลิตเสมหะในปอดซึ่งอาจข้นเหนียวและขับออกยาก สิ่งนี้นำไปสู่การติดเชื้อซ้ำและความเสียหายของปอด สิ่งสำคัญคือต้องขับเสมหะนี้โดยใช้ยาและกายภาพบำบัดทรวงอกต่างๆเพื่อขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจ (ACTs) CCPTs เช่น การระบายโดยการเปลี่ยนท่า การเคาะและการสั่นสะเทือน การ huffing และการไอ โดยทั่วไปจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นในระหว่างการรักษา ACT ทางเลือก เช่น วงจรการหายใจแบบแอคทีฟ, เทคนิคการหายใจออกโดยบังคับ, การระบายออกอัตโนมัติ, อุปกรณ์แรงดันการหายใจแบบบวก, อุปกรณ์แรงดันการหายใจแบบบวกแบบสั่น (เช่น Acapella, Aerobika, Flutter, RC-Cornet) หรือการกดหน้าอกด้วยความถี่สูงและการออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองซึ่งเพิ่มความเป็นอิสระและความยืดหยุ่น

เราต้องการค้นหาอะไร

เราต้องการเปรียบเทียบว่า ACT ต่างๆ ส่งผลต่อการทำงานของปอดอย่างไร (ปอดทำงานได้ดีเพียงใด) การกำเริบของระบบทางเดินหายใจ (การลุกลามของโรคปอด) ความชอบของบุคคล การปฏิบัติตาม (บุคคลนั้นปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ได้ดีเพียงใด) คุณภาพชีวิต และผลกระทบ ในระดับความฟิต

เราได้ทำอะไร

เราค้นหาฐานข้อมูลทางการแพทย์สำหรับการศึกษาที่ออกแบบมาอย่างดีโดยเปรียบเทียบ CCPT กับ ACT อื่นๆ ในผู้ที่เป็น CF การศึกษาเลือกคนสำหรับการรักษาอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยวิธีสุ่มหรือแบบสุ่มบางส่วน เราเลือกการศึกษาที่ยาวนานกว่าหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการรักษาที่จะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่เราสนใจ

เราค้นพบอะไร

เราพบการศึกษา 21 ฉบับ กับคน 778 คนที่เป็นโรค CF อายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 45 ปี และทุกระดับความรุนแรงของโรค จำนวนคนที่รวมอยู่ในการศึกษาแต่ละเรื่องมีตั้งแต่ 13 ถึง 166 คน มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายรวมอยู่ในการศึกษาทั้งหมด ยกเว้นการศึกษา 2 ฉบับ

ผลลัพธ์หลัก

การศึกษาไม่ได้แสดงว่า ACTs ทางเลือกใดๆ ดีกว่า CCPT ในแง่ของการทำงานของปอด การกำเริบของระบบทางเดินหายใจ ความชอบของบุคคล การยึดมั่น คุณภาพชีวิต และผลกระทบต่อระดับสมรรถภาพ การศึกษาที่ผู้เข้าร่วมมีอาการติดเชื้อในทรวงอกแสดงให้เห็นว่าการทำงานของปอดดีขึ้นมากหลังการรักษาโดยไม่คำนึงถึงประเภทของ ACT การศึกษาระยะยาวแสดงให้เห็นการปรับปรุงเล็กน้อยหรือการลดลงของการทำงานของปอด ในการศึกษา 10 ฉบับ ผู้เข้าร่วมชอบเทคนิคกายภาพบำบัดทรวงอกที่สามารถจัดการได้เอง แต่เนื่องจากการศึกษาวัดความพึงพอใจด้วยวิธีต่างๆ เราจึงไม่สามารถรวมผลการศึกษาแต่ละรายการในการวิเคราะห์ได้ ผลข้างเคียงจาก ACT ต่างๆ มักจะหายาก ไม่รุนแรง และหายได้เร็ว เราไม่สามารถแนะนำการรักษาแบบใดแบบหนึ่งมากกว่าแบบอื่นได้ในขณะนี้

ข้อจำกัด ของหลักฐานคืออะไร

คุณภาพของหลักฐานแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการศึกษา เราไม่แน่ใจว่าหลักฐานในปัจจุบันสามารถตอบคำถามที่เราถามได้ เราไม่พบหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันหรือตัดความแตกต่างใดๆออก ระหว่าง CCPT และ ACT ทางเลือกในผลลัพธ์ของเรา นอกจากนี้ ข้อมูลจากการศึกษาที่รวบรวมมาของเราไม่ได้แสดงให้เห็นว่า ACTs ทางเลือกใดๆ ดีกว่า CCPT ในผู้เป็น CF อาจเป็นเพราะการศึกษาไม่ได้รายงานข้อมูลที่เพียงพอสำหรับเราในการวิเคราะห์ แทนที่จะยืนยันว่า ACT ทั้งหมดทำงานได้ดีพอๆ กัน มีความแตกต่างในการดำเนินการศึกษาและวิธีที่นักวิจัยเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนั้นจึงทำให้ยากต่อการเปรียบเทียบผลลัพธ์ ความแตกต่างเหล่านี้รวมถึงจำนวนคนในการศึกษา ระยะเวลาที่การศึกษาดำเนินไป สถานที่ของการศึกษา (เช่น ในโรงพยาบาลหรือที่บ้าน) ประเภทของ ACTs ที่ใช้ และผลลัพธ์ที่วัดโดยนักวิจัยเพื่อประเมินผลกระทบของเทคนิคต่างๆ ในการศึกษาในอนาคต จะดีกว่าหากปัจจัยเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันมากขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบผลลัพธ์

ความเป็นปัจจุบันของการทบทวนวรรณกรรมนี้

เราค้นหาฐานข้อมูลครั้งล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2022

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

เราไม่แน่ใจว่า CCPT มีผลกระทบในเชิงบวกมากกว่าต่อการทำงานของระบบทางเดินหายใจ อาการกำเริบของระบบทางเดินหายใจ ความชอบส่วนบุคคล การปฏิบัติตาม คุณภาพชีวิต ความสามารถในการออกกำลังกาย และผลลัพธ์อื่น ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับ ACT ทางเลือก เนื่องจากความเชื่อมั่นของหลักฐานต่ำมาก

ไม่มีข้อได้เปรียบในการทำงานของระบบทางเดินหายใจของ CCPT เหนือกว่า ACTs ทางเลือก แต่สิ่งนี้อาจสะท้อนถึงหลักฐานที่ไม่เพียงพอมากกว่าความเท่าเทียมกันที่แท้จริง รายงานเชิงบรรยายระบุว่าผู้เข้าร่วมชอบ ACTs ที่จัดการด้วยตนเอง การทบทวนนี้ถูกจำกัดโดยความขาดแคลนของการศึกษาระยะยาวที่ได้รับการออกแบบอย่างดีและมีประสิทธิภาพเพียงพอ บทวิจารณ์นี้ยังไม่สามารถแนะนำ ACT ใด ๆ เหนืออันอื่น; นักกายภาพบำบัดและผู้ที่มีโรค CF อาจต้องการลองใช้ ACT ที่แตกต่างกันจนกว่าจะพบ ACT ที่เหมาะกับพวกเขาที่สุด

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

โรคปอดเรื้อรัง (CF) เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่จำกัดการใช้ชีวิต เมื่อเวลาผ่านไป การติดเชื้อและการอักเสบเรื้อรังภายในปอดทำให้ทางเดินหายใจเสียหายอย่างรุนแรงและสูญเสียการทำงานของระบบทางเดินหายใจ กายภาพบำบัดทรวงอกหรือเทคนิคการล้างทางเดินหายใจ (ACTs) เป็นส่วนสำคัญในการกำจัดสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจและเริ่มต้นทำหลังจากการวินิจฉัยโรค CF ไม่นาน กายภาพบำบัดทรวงอกแบบดั้งเดิมหรือทั่วไป (CCPT) มักต้องการความช่วยเหลือ ในขณะที่ ACT ทางเลือกสามารถจัดการได้เอง ซึ่งช่วยให้เป็นอิสระและมีความยืดหยุ่น นี่เป็นการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรม

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินประสิทธิภาพ (ในแง่ของการทำงานของระบบทางเดินหายใจ การกำเริบของระบบทางเดินหายใจ ความสามารถในการออกกำลังกาย) และการยอมรับ (ในแง่ของความชอบส่วนบุคคล การปฏิบัติตาม คุณภาพชีวิต) ของ CCPT สำหรับผู้ที่เป็นโรค CF เทียบกับ ACT ทางเลือก

วิธีการสืบค้น: 

เราใช้วิธีการค้นหาแบบมาตรฐานและครอบคลุม ของ Cochrane การค้นหาล่าสุดคือ 26 มิถุนายน 2022

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มหรือกึ่งสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม (รวมถึงการออกแบบไชว้) ซึ่งกินเวลาอย่างน้อย 7 วัน และเปรียบเทียบ CCPT กับ ACT ทางเลือกในผู้ที่เป็นโรค CF

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้วิธีมาตรฐานของ Cochrane ผลลัพธ์หลักของเราคือ 1. การทดสอบการทำงานของปอด และ 2. จำนวนการกำเริบของระบบทางเดินหายใจต่อปี ผลลัพธ์รองของเราคือ 3. คุณภาพชีวิต 4. ความสม่ำเสมอในการบำบัด 5. การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ 6. การเปลี่ยนแปลงที่วัดได้ในความสามารถในการออกกำลังกาย 7. การทดสอบการทำงานของปอดเพิ่มเติม 8. การสแกนการหายใจ 9. ระดับออกซิเจนในเลือด 10 . ภาวะโภชนาการ 11. การตาย 12. อัตราการขับเสมหะ และ 13. น้ำหนักเสมหะเปียกหรือแห้ง

เรารายงานผลลัพธ์เป็นระยะสั้น (เจ็ดถึง 20 วัน) ระยะกลาง (มากกว่า 20 วันถึง 1 ปี) และระยะยาว (มากกว่า 1 ปี)

ผลการวิจัย: 

เรารวมการศึกษา 21 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 778 คน) ซึ่งประกอบด้วยการศึกษาระยะสั้น 7 ฉบับ ระยะกลาง 8 เรื่อง และระยะยาว 6 เรื่อง การศึกษาดำเนินการในสหรัฐอเมริกา (10) แคนาดา (5) ออสเตรเลีย (2) สหราชอาณาจักร (2) เดนมาร์ก (1) และอิตาลี (1) โดยมีค่ามัธยฐานจำนวนผู้เข้าร่วม 23 คนต่อการศึกษา (ช่วง 13 ถึง 166) อายุของผู้เข้าร่วมมีตั้งแต่เด็กแรกเกิดถึง 45 ปี; การศึกษาส่วนใหญ่คัดเลือกเฉพาะเด็กและเยาวชนเท่านั้น การศึกษา 16 ฉบับรายงานเพศของผู้เข้าร่วม (ชาย 375 คน หญิง 296 คน)

การศึกษาส่วนใหญ่เปรียบเทียบการปรับเปลี่ยนของ CCPT กับการเปรียบเทียบเดียว แต่การศึกษา 2 ฉบับเปรียบเทียบสิ่งแทรกแซง 3 อย่าง และอีกการศึกษา 1 ฉบับเปรียบเทียบวิธีการ 4 อย่าง วิธีการที่ใช้จะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาของการรักษา ครั้งต่อวัน และระยะเวลาของการเปรียบเทียบ ทำให้การวิเคราะห์เมตต้ามีความท้าทาย หลักฐานทั้งหมดมีความเชื่อมั่นต่ำมาก

การศึกษา 19 ฉบับรายงานผลลัพธ์หลัก ปริมาณการหายใจออกในหนึ่งวินาที (FEV 1 ) และ forced vital capacity (FVC) และไม่พบความแตกต่างของการเปลี่ยนแปลงจากค่าพื้นฐานใน FEV 1 % ที่คาดการณ์ไว้หรืออัตราการลดลงระหว่างกลุ่มสำหรับการวัดอย่างใดอย่างหนึ่ง การศึกษาส่วนใหญ่แนะว่ามีความเท่าเทียมกันระหว่าง CCPT และ ACT ทางเลือก ได้แก่ positive expiratory pressure (PEP), extrapulmonary mechanical percussion, active cycle of breathing technique (ACBT), oscillating PEP devices (O-PEP), autogenic drainage (AD) และการออกกำลังกาย ในกรณีที่การศึกษาเดียวชี้ให้เห็นความเหนือกว่าของ ACT เดียว การค้นพบนี้ไม่ได้รับการยืนยันในการศึกษาที่คล้ายคลึงกัน ข้อมูลที่รวบรวมโดยทั่วไปสรุปได้ว่าผลกระทบของ CCPT เทียบเท่ากับผลกระทบของ ACT ทางเลือก

CCPT กับ PEP

เราไม่แน่ใจว่า CCPT ช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดหรือมีผลกระทบต่อจำนวนการกำเริบของระบบทางเดินหายใจต่อปีเมื่อเทียบกับ PEP (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมากทั้งคู่) ไม่มีข้อมูลที่วิเคราะห์ได้สำหรับผลลัพธ์รองของเรา แต่การศึกษาจำนวนมากให้รายงานเชิงบรรยายที่น่าพอใจเกี่ยวกับความเป็นอิสระที่ได้รับจากการบำบัดด้วยหน้ากาก PEP

CCPT กับการเคาะปอด

เราไม่แน่ใจว่า CCPT ช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดเมื่อเทียบกับเครื่องกระทบนอกปอดหรือไม่ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) อัตราการลดลงของอัตราการหายใจออกโดยบังคับเฉลี่ยต่อปีระหว่าง 25% ถึง 75% ของ FVC (FEF 25–75 ) สูงกว่าด้วยการกดหน้าอกด้วยความถี่สูงเมื่อเทียบกับ CCPT ในการศึกษาระยะกลางถึงระยะยาว แต่ไม่มีความแตกต่างใน ผลลัพธ์อื่นใด

CCPT กับ ACBT

เราไม่แน่ใจว่า CCPT ช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดเมื่อเทียบกับ ACBT หรือไม่ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) การลดลงต่อปีของ FEF 25–75 แย่ลงในผู้เข้าร่วมที่ใช้ส่วนประกอบ FET ของ ACBT เท่านั้น (ความแตกต่างเฉลี่ย (MD) 6.00, ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) 0.55 ถึง 11.45; การศึกษา 1 เรื่อง, ผู้เข้าร่วม 63 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) การศึกษาระยะสั้นชิ้นหนึ่งรายงานว่าการไอโดยตรงมีประสิทธิภาพเท่ากับ CCPT สำหรับผลลัพธ์การทำงานของปอดทั้งหมด แต่ไม่มีข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ การศึกษา 1 ฉบับ พบว่าไม่มีความแตกต่างในการนอนโรงพยาบาลและจำนวนวันในโรงพยาบาลสำหรับการกำเริบของโรค

CCPT กับ O-PEP

เราไม่แน่ใจว่า CCPT ปรับปรุงการทำงานของปอดหรือไม่เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ O-PEP (อุปกรณ์กระพือปีกและการช่วยหายใจแบบเคาะในปอด); อย่างไรก็ตาม มีเพียงการศึกษาเดียวเท่านั้นที่ให้ข้อมูลที่สามารถวิเคราะห์ได้ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่มีการศึกษารายงานข้อมูลจำนวนการกำเริบ ไม่มีความแตกต่างในผลลัพธ์สำหรับจำนวนวันในโรงพยาบาลสำหรับอาการกำเริบ จำนวนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนวันที่ได้รับยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ สิ่งนี้ยังเป็นจริงสำหรับผลลัพธ์รองอื่นๆ

CCPT กับ AD

เราไม่แน่ใจว่า CCPT ช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดเมื่อเทียบกับ AD หรือไม่ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) ไม่มีการศึกษารายงานจำนวนการกำเริบต่อปี อย่างไรก็ตาม งานวิจัย 1 ฉบับรายงานการรับเข้ารักษาในโรงพยาบาลมากขึ้นสำหรับอาการกำเริบในกลุ่ม CCPT (MD 0.24, 95% CI 0.06 ถึง 0.42; ผู้เข้าร่วม 33 คน) งานวิจัย 1 ฉบับจัดทำรายงานเชิงบรรยายที่น่าพอใจของ AD

CCPT กับการออกกำลังกาย

เราไม่แน่ใจว่า CCPT ช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายหรือไม่ (หลักฐานมีความเชื่อมั่นต่ำมาก) การวิเคราะห์ข้อมูลดั้งเดิมจากการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นถึง FEV 1 % ที่คาดการณ์ไว้ (MD 7.05, 95% CI 3.15 ถึง 10.95; P = 0.0004), FVC (MD 7.83, 95% CI 2.48 ถึง 13.18; P = 0.004) และ FEF 25– 75 (MD 7.05, 95% CI 3.15 ถึง 10.95; P = 0.0004) ในกลุ่ม CCPT; อย่างไรก็ตาม การศึกษารายงานว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม (น่าจะเป็นเพราะการวิเคราะห์เดิมได้คำนึงถึงความแตกต่างของค่าพื้นฐาน)

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 1 ธันวาคม 2023

Tools
Information