ยาสูดพ่นชนิดใดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

ใจความสำคัญ

• การใช้ยาสูดพ่นที่มี muscarinic antagonist ที่ออกฤทธิ์นานบวกกับ beta-agonist ที่ออกฤทธิ์นาน (LAMA+LABA) สำหรับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) อาจช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินหายใจและลดความเสี่ยงของปอดอักเสบเมื่อเทียบกับ LABA ร่วมกับคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูดพ่น ( LABA+ICS)

• LAMA+LABA และ LABA+ICS อาจได้ผลพอๆกันในการลดอาการกำเริบของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

• ความเสี่ยงของการเสียชีวิตสูงขึ้นเล็กน้อยในผู้ที่ใช้ LAMA+LABA

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง คืออะไร และรักษาอย่างไร

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เป็นภาวะทางปอดระยะยาวที่ทำให้มีอาการไอ มีเสมหะ (ของเหลวจากปอด เช่น เสมหะ) และหายใจลำบาก 

ปอดอุดกั้นเรื้อรังได้รับการรักษาด้วยยาที่เรียกว่า 'ยาขยายหลอดลม' ซึ่งช่วยให้หายใจได้ง่ายขึ้นโดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อในปอดและขยายทางเดินหายใจ ยาขยายหลอดลมที่สำคัญ 2 ชนิดคือยา muscarinic antagonists ที่ออกฤทธิ์นาน (LAMAs) และ beta-agonists ที่ออกฤทธิ์ยาว (LABAs) หลักเกณฑ์ด้านการดูแลสุขภาพแนะนำให้ผู้ที่มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและมีความเสี่ยงสูงใช้ยาสูดพ่นที่มียา LAMA+LABA รวมกันหรือยา LABA ร่วมกับยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูดพ่น (LABA+ICS) Corticosteroids เป็นยาต้านการอักเสบ

เราต้องการค้นหาอะไร

เราตรวจสอบผลการทดลองที่สุ่มให้ผู้คนได้รับ LAMA+LABA หรือ LABA+ICS อย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อดูว่าพวกเขาเปรียบเทียบกันอย่างไร

เราทำอะไร

เราค้นหาการทดลองที่สำรวจประโยชน์และโทษของ LAMA+LABA และ LABA+ICS สำหรับการรักษาผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เราได้สรุปผลลัพธ์เหล่านี้และให้คะแนนความเชื่อมั่นของเราในหลักฐานต่างๆ

เราพบอะไร

เรารวมการศึกษา 19 ฉบับ ที่มีผู้เข้าร่วม 22,354 คน การศึกษาใช้เวลา 6 ถึง 52 สัปดาห์ การศึกษารวมผู้ชายมากกว่าผู้หญิง (ประมาณ 70% ของผู้เข้าร่วมเป็นผู้ชาย) และคนในการศึกษามีอายุประมาณ 64 ปี การศึกษาส่วนใหญ่รวมผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในระดับปานกลางถึงรุนแรง บริษัทยามีส่วนร่วมในการศึกษาส่วนใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในผลลัพธ์ที่ได้

เมื่อเปรียบเทียบกับ LABA+ICS แล้ว LAMA+LABA ช่วยให้การทำงานของปอดดีขึ้น ปอดบวมลดลงจาก 5% เป็น 3% แต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจาก 1% เป็น 1.4% LAMA+LABA อาจสร้างความแตกต่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างต่อการกำเริบของโรค COPD (การกำเริบ) เมื่อเทียบกับ LABA+ICS ผู้คนในแต่ละกลุ่มการรักษารายงานคะแนนคุณภาพชีวิตใกล้เคียงกันและมีแนวโน้มพอๆกันที่จะได้รับผลข้างเคียงที่ร้ายแรงซึ่งหาได้ยาก 

ข้อจำกัด ของหลักฐานคืออะไร

ความเชื่อมั่นในหลักฐานของเราอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง เนื่องจากการศึกษาที่รวบรวมได้รับการออกแบบมาอย่างดี และมีจำนวนผู้เข้าร่วมที่เพียงพอซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังระดับปานกลางถึงรุนแรง

หลักฐานนี้เป็นปัจจุบันแค่ไหน

การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นปัจจุบันถึงวันที่ 10 กันยายน 2022 ผลลัพธ์จากการทดลองในอนาคตหรือที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อประเมินยาที่พัฒนาขึ้นใหม่กำลังรออยู่ บทวิจารณ์นี้ควรได้รับการปรับปรุงอีกครั้งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

การบำบัดแบบผสมผสาน LAMA+LABA อาจให้ประโยชน์คล้ายกับ LABA+ICS สำหรับอาการกำเริบและคุณภาพชีวิต ซึ่งวัดโดย St George's Respiratory Questionnaire สำหรับผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังระดับปานกลางถึงรุนแรง แต่มีการปรับปรุง FEV 1 ที่มากขึ้นและความเสี่ยงลดลงเล็กน้อย ของโรคปอดบวม มีความแตกต่างเล็กน้อยหรือไม่มีความแตกต่างระหว่าง LAMA+LABA และ LAMA+ICS ในความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง แม้ว่าการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุอาจลดลงในกลุ่ม LABA+ICS แต่ก็มีเหตุการณ์จำนวนน้อยมากในการวิเคราะห์ ซึ่งแปลว่ามีความเสี่ยงสัมบูรณ์ต่ำ การค้นพบนี้ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นปานกลางถึงสูงจากการทดลองที่แตกต่างกันโดยมีระยะเวลาการสังเกตน้อยกว่า 1 ปี บทวิจารณ์นี้ควรได้รับการปรับปรุงอีกครั้งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

ยากลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ชนิดออกฤทธิ์นาน (LABAs), ยาต้านมัสคารินิกชนิดออกฤทธิ์นาน (LAMAs) และคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดสูดพ่น (ICS) เป็นยาชนิดสูดที่ใช้ในการรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เมื่อจำเป็นต้องใช้ยา 2 ประเภท ก่อนหน้านี้แนะนำให้ใช้ LAMA ร่วมกับ ICS (LABA+ICS) ภายในเครื่องพ่นยาตัวเดียวเป็นการรักษาแรกสำหรับการจัดการโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่คงที่ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม มีการปรับปรุงคำแนะนำระดับนานาชาติ คือ แนะนำให้ใช้ LAMA บวก LABA (LAMA+LABA) การทบทวนวรรณกรรมนี้เป็นการปรับปรุง Cochrane Review ที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2017

วัตถุประสงค์: 

เพื่อเปรียบเทียบประโยชน์และโทษของ LAMA+LABA กับ LABA+ICS ในการรักษาผู้ที่เป็น COPD ที่อาการคงที่

วิธีการสืบค้น: 

เราทำการค้นหาทางอิเล็กทรอนิกส์ของ Cochrane Airways Group Specialized Register, ClinicalTrials.gov และ World Health Organization Clinical Trials Search Portal ตามด้วยการค้นหาด้วยมือ ผู้เขียนรีวิวสองคนคัดกรองบทความที่เลือก การค้นหาล่าสุดดำเนินการเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2022

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมแบบคู่ขนานหรือแบบไขว้ที่มีระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เปรียบเทียบ LAMA+LABA และ LABA+ICS สำหรับ COPD ที่อาการคงที่ เรารวมการศึกษาที่ดำเนินการในสถานพยาบาลผู้ป่วยนอกและโดยไม่คำนึงถึงการปกปิดกลุ่ม

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

ผู้ทบทวนวรรณกรรม 2 คน ดึงข้อมูล และประเมินความเสี่ยงของการมีอคติ อย่างเป็นอิสระต่อกัน เราแก้ปัญหาความเห็นไม่ตรงกันโดยการอภิปราย เราวิเคราะห์ข้อมูลแบบแบ่งขั้วเป็นอัตราต่อรอง (ORs) และข้อมูลต่อเนื่องเป็นความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (MD) โดยมีช่วงความเชื่อมั่น 95% (CIs) โดยใช้ Review Manager 5 ผลลัพธ์หลักคือ: ผู้เข้าร่วมที่มีอาการกำเริบของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างน้อยหนึ่งครั้ง; เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรง คุณภาพชีวิตที่วัดโดยแบบสอบถามคะแนนรวมของ St. George's Respiratory Questionnaire (SGRQ) ที่เปลี่ยนแปลงจากค่าพื้นฐาน และปริมาณการหายใจออกแบบบังคับในรางใน 1 วินาที (FEV 1 ) เราใช้กรอบของ GRADE เพื่อประเมินความเชื่อมั่นของหลักฐานในการวิเคราะห์เมตต้าแต่ละรายการว่าสูง ปานกลาง ต่ำ หรือต่ำมาก 

ผลการวิจัย: 

การทบทวนนี้เป็นการปรับปรุงการทบทวนซึ่งเผยแพร่ในปี 2017 และเพิ่มจำนวนการศึกษาที่รวบรวมจาก 11 เป็น 19 ฉบับ (ผู้เข้าร่วม 22,354 คน) ค่ามัธยฐานของจำนวนผู้เข้าร่วมต่อการศึกษาคือ 700 คน ในแต่ละการศึกษา ระหว่าง 54% ถึง 91% (ค่ามัธยฐาน 70%) ของผู้เข้าร่วมเป็นเพศชาย ผู้เข้าร่วมการศึกษามีอายุเฉลี่ย 64 ปี และร้อยละคาดการณ์ FEV 1 ของ 51.5% (ค่ามัธยฐานของการศึกษา) การศึกษาที่รวมไว้โดยทั่วไปมีความเสี่ยงต่ำสำหรับอคติในแง่ selection/performance/detection/attrition และการรายงาน การศึกษาทั้งหมดยกเว้นการศึกษา 2 ฉบับ ได้รับการสนับสนุนโดยบริษัทยา ซึ่งมีส่วนร่วมในการออกแบบการศึกษา การดำเนินการ และการวิเคราะห์ข้อมูลในระดับที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์หลัก

โอกาสที่จะมีอาการกำเริบนั้นคล้ายคลึงกันสำหรับ LAMA+LABA เมื่อเทียบกับ LABA+ICS (OR 0.91, 95% CI 0.78 ถึง 1.06; I 2 = 61%; การศึกษา 13 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 20,960 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงก็ใกล้เคียงกัน (OR 1.02, 95% CI 0.91 ถึง 1.15; I 2 = 20%; การศึกษา 18 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 23,183 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นสูง) ผู้เข้าร่วมที่ได้รับ LAMA+LABA มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน กับผู้ที่ได้รับ LABA+ICS ซึ่งวัดโดย SGRQ (MD -0.57, 95% CI -1.36 ถึง 0.21; I 2 = 78%; การศึกษา 9 ฉบับ ผู้เข้าร่วม 14,437 คน ; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) แต่แสดงให้เห็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นใน trough FEV 1 (MD 0.07, 95% CI 0.05 ถึง 0.08; I 2 = 73%; การศึกษา 12 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 14,681 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) 

ผลลัพธ์รอง

LAMA+LABA ลดอัตราการเกิดโรคปอดบวมเมื่อเทียบกับ LABA+ICS จาก 5% เป็น 3% (OR 0.61, 95% CI 0.52 ถึง 0.72; I 2 = 0%; การศึกษา 14 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 21,829 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นสูง) แต่เพิ่มอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุตั้งแต่ 1% ถึง 1.4% (OR 1.35, 95% CI 1.05 ถึง 1.75; I 2 = 0%; การศึกษา 15ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 21,510 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง) อัตราต่อรองของการได้ความแตกต่างที่สำคัญทางคลินิกขั้นต่ำของคะแนน SGRQ 4 คะแนนขึ้นไปนั้นใกล้เคียงกันระหว่าง LAMA+LABA และ LABA+ICS (OR 1.06, 95% CI 0.90 ถึง 1.25; I 2 = 77%; การศึกษา 4 ฉบับ, ผู้เข้าร่วม 13,614 คน; หลักฐานมีความเชื่อมั่นปานกลาง)

บันทึกการแปล: 

แปลโดย พญ.วิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย ผการกอง ลุมพิกานนท์ 7 มกราคม 2024

Tools
Information