การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สำหรับการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันในผู้ใหญ่มีความถูกต้องแค่ไหน

ทำไมการปรับปรุงการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบจึงสำคัญ
วัตถุประสงค์ของการใช้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (computed tomography; CT) ในบุคคลที่สงสัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบเพื่อช่วยแพทย์แยกแยะความแตกต่างระหว่างบุคคลที่ต้องผ่าตัดไส้ติ่ง (appendicectomy) และบุคคลที่ไม่ต้องใช้หัตถการนี้

วัตถุประสงค์ของการทบทวนนี้คืออะไร
จุดมุ่งหมายของ Cochrane review นี้คือการค้นหาว่า CT ของช่องท้องและเชิงกรานมีความถูกต้องแค่ไหนคือการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบในผู้ใหญ่ นักวิจัยที่ Cochrane รวมการศึกษา 64 เรื่องในการทบทวนวรรณกรรมเพื่อตอบคำถามนี้

มีการศึกษาอะไรในการทบทวนวรรณกรรรมนี้
CT-scan สามารถดำเนินการได้หลายวิธี คุณภาพของภาพสามารถปรับปรุงได้โดยใช้สารที่มีความคมชัดทางหลอดเลือดดำและการแสดงภาพของไส้ติ่งจะดีขึ้นเมื่อมีการใช้วัสดุความคมชัดทางปากหรือทวารหนัก นอกจากนี้ยังสามารถทำ CT scan ได้โดยใช้รังสีขนาดต่ำ การได้รับรังสีที่เกี่ยวข้องกับ CT อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้ Cochrane รีวิวนี้ได้ศึกษาความถูกต้องของ CT ต่อไปนี้: CT ทุกชนิด CT ตามชนิดของสารเพื่อความคมชัด, และ CT ปริมาณรังสีต่ำ

ผลลัพธ์หลักของการทบทวนคืออะไร
การทบทวนนี้รวมถึงการศึกษาที่เกี่ยวข้อง 64 เรื่องที่รายงานผลการศึกษาของประชากร 71 กลุ่มที่มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 10,280 คน ผลโดยรวมของการศึกษาเหล่านี้บ่งชี้ว่าในทางทฤษฎี ถ้า CT ประเภทใดที่จะใช้ในแผนกฉุกเฉินในกลุ่มของคน 1000 คน ที่มี 43 % เป็นไส้ติ่งอักเสบ แล้ว:
•ประมาณ 443 คนจะมีผล CT บ่งชี้ว่าไส้ติ่งอักเสบ และในคนเหล่านี้ 8% จะไม่มีไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน; และ
• คน 557 คนที่ผล CT แสดงว่าไม่มีไส้ติ่งอักเสบ 4% จะมีไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน

Low dose CT มีความถูกต้องเหมือนกับ CT ขนาดมาตรฐานสำหรับการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบ CT ที่ใช้สารทึบแสงทางหลอดเลือดดำ, ทวารหนัก, หรือทางปากและหลอดเลือดดมีความแม่นยำเท่ากับและมากกว่า CT ที่ไม่ใช้สารทึบแสง

ความน่าเชื่อถือเป็นผลของการศึกษาในการทบทวนนี้เป็นอย่างไร
ในการศึกษาที่นำเข้า การวินิจฉัยขั้นสุดท้ายของไส้ติ่งอักเสบขึ้นอยู่กับการค้นพบการผ่าตัดหรือการตรวจสอบกล้องจุลทรรศน์ไส้ติ่ง ในผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้มีการผ่าตัด การวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบถูกตัดออกโดยการติดตามดูว่าอาการของพวกเขาได้รับการแก้ไขโดยไม่ต้อง appendicectomy วิธีการนี้น่าจะเชื่อถือได้สำหรับการตัดสินว่าผู้ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงหรือไม่ ถ้าการติดตามผลเป็นอย่างรอบคอบและสมบูรณ์ แต่น่าเสียดาย ที่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปตามนั้นในสัดส่วนที่สำคัญของการศึกษาที่รวมรวมนำเข้า โดยทั่วไป มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการศึกษาชัดเจน การทำเช่นนี้อาจส่งผลให้ CT ดูมีความถูกต้องมากกว่าที่เป็นจริงจึงเพิ่มจำนวนผลลัพธ์ของ CT ที่ถูกต้อง (สี่เหลี่ยมสีเขียว) ในแผนภาพ

ผลการตรวจสอบนี้นำไปใช้กับใคร
การศึกษาที่รวมอยู่ในการทบทวนนี้ส่วนใหญ่ได้ดำเนินการ่ในหน่วยงานฉุกเฉิน ผู้เข้าร่วมทุกคนต้องสงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบจากการตรวจทางคลินิกและการตรวจเลือด การศึกษาที่รวบรวมนำเข้าประเมิน CT หลากหลายชนิด อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมในการศึกษาต่างๆ อยู่ระหว่าง 25 ถึง 46 ปีและเปอร์เซ็นต์ของสตรีอยู่ระหว่าง 26% ถึง 100% เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมการศึกษาที่มีการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายเป็นไส้ติ่งอักเสบอยู่ระหว่าง13% ถึง 92% (เฉลี่ย 43%)

การทบทวนนมีความหมายอย่างไร
CT เป็นการทดสอบที่แม่นยำที่มีแนวโน้มที่จะช่วยให้แพทย์ในการรักษาบุคคลที่อาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ ผลของการทบทวนวรรณกรรมนี้บ่งชี้ว่าโอกาสของการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันจะผิดพลาดอยู่ในระดับต่ำ (8% ในผู้ที่มีผล CT ระบุว่ามีไส้ติ่งอักเสบ) โอกาสที่จะวินิจฉัยของไส้ติ่งอักเสบผิดก็ยังต่ำ (4% ในหมู่ผู้ที่มีผล CT แนะนำพวกเขาไม่ได้มีไส้ติ่งอักเสบ)

การทบทวนนี้จะมีการทบทวนอย่างไร

ผู้ทบทวนได้สืบค้นการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2017

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

ความไวและความจำเพาะของ CT สำหรับการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบในผู้ใหญ่จะสูง CT มาตรฐานที่ไม่ได้เพิ่มความคมชัด จะมีความไวต่ำกว่า CT ขนาดมาตรฐานที่มีการเพิ่มความคมชัดทางหลอดเลือดดำ, ทวารหนัก, หรือช่องปากและหลอดเลือดดำ การใชวิธีการเพิ่มความคมชัดที่แตกต่างกันหรือการไม่เพิ่มความคมชัดไม่มีผลต่อความจำเพาะ ความแตกต่างในความไวและความจำเพาะ ระหว่าง CT dose ต่ำและมาตรฐาน ดูเหมือนจะเล็กน้อย ผลของการทบทวนนี้ควรต้องพิจารณาความด้วยความระมัดระวังด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก, ผลลัพธ์เหล่านี้ได้มาการศึกษาที่มีคุณภาพต่ำ ประการที่สอง การเปรียบเทียบระหว่างประเภทของการเพิ่มความคมชัดและปริมาณรังสีอาจจะไม่น่าเชื่อถือเพราะขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบทางอ้อมที่อาจจะเป็นผลจากปัจจัยอื่น ๆ

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

การวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน (ไส้ติ่งอักเสบ) ขึ้นอยู่กับการประเมินผลทางคลินิก การทดสอบเลือดและปัสสาวะอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นในบุคคลที่สงสัยว่ามีไส้ติ่งอักเสบ การตรวจ CT ช่องท้องและเชิงกราน มักจะใช้เป็นการทดสอบเพิ่มเติมหลังจากการประเมินเริ่มต้นเพื่อลดความไม่แน่นอนการวินิจฉัยที่เหลืออยู่ จุดมุ่งหมายของการใช้ CT คือการช่วยให้แพทย์สามารถแยกแยะระหว่างคนที่ต้องผ่าตัด appendicectomy และบุคคลที่ไม่ต้องการ

วัตถุประสงค์: 

วัตถุประสงค์หลัก

วัตถุประสงค์หลักของเราคือการประเมินความถูกต้องของ CT สำหรับการวินิจฉัยโรคในผู้ใหญ่ที่มีความสงสัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ

วัตถุประสงค์รอง

วัตถุประสงค์รองของเราคือการเปรียบเทียบความถูกต้องของค่าความคมชัดของ CT ที่ใช้สารทึบแสงเทียบกับที่ไม่ได้ใช ้เปรียบความถูกต้องของ CT dose ต่ำเทียบกับ dose มาตรฐาน และเพื่อสำรวจอิทธิพลของรุ่นของCT-scanner ระดับประสบการณ์ของรังสีแพทย์ ระดับความสงสัยทางคลินิกของไส้ติ่งอักเสบ และแง่มุมคุณภาพของระเบียบวิธีความถูกต้องของการวินิจฉัย

วิธีการสืบค้น: 

เราค้นหา MEDLINE, Embase, และ Sciece citation จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2017 นอกจากนี้เรายังค้นหารายการเอกสารอ้างอิง เราไม่ได้คัดการศึกษาออกบนพื้นฐานของภาษาหรือสถานะการเผยแพร่

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวบรวมการศึกษาแบบไปข้างหน้าที่เปรียบเทียบผลของ CT กับผลลัพธ์ของการรักษามาตรฐานในผู้ใหญ่ (> 14 ปี) ที่มสงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ เราคัดออกการศึกษาที่ทำเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์เท่านั้น การศึกษาในบุคคลที่มีอาการปวดท้องที่ตำแหน่งใด ๆ และไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ของภาวะไส้ติ่งอักเสบ; การศึกษาที่ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้รับ ultrasonography (US) ก่อน CT และการตัดสินใจที่จะดำเนินการ CT ขึ้นอยู่กับผลของ US; การศึกษาแบบ case control; การศึกษาที่มีผู้เข้าร่วมน้อยกว่า 10 คน และการศึกษาที่ไม่ได้รายงานตัวเลขของ true positive, false positive, false negative และ true negative นักวิจัยสองคนคัดกรองการศึกษาเพื่อนำเข้าและดึงข้อมูลอย่างอิสระต่อกัน

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

นักวิจัย สองคน รวบรวมข้อมูลจากแต่ละการศึกษาและประเมินคุณภาพระเบียบวิธีวิจัย โดยใช้ Quality Assessment of Studies of Diagnostic Accuracy - Revised (QUADAS-2) อย่างเป็นอิสระ เราใช้ bivariate random effect model เพื่อให้ได้ประมาณการสรุปของความไวและความจำเพาะ

ผลการวิจัย: 

เราพบ การศึกษา 64 เรื่อง ทำในประชากร 71 กลุ่ม โดยมีผู้เข้าร่วม 10,280 คน (มีไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน 4583 คนและไม่มีไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน 5697 คน) ประมาณการความไวตั้งแต่ 0.72 ถึง 1.0 และประมาณการความจำเพาะตั้งแต่ 0.5 ถึง 1.0 ในประชากรการศึกษา 71 กลุ่ม ความไวโดยสรุป 0.95 (95% (CI) 0.93 ถึง 0.96) และความจำเพาะโดยสรุปคือ 0.94 (95% CI 0.92 ถึง 0.95) ค่ามัธยฐานความชุกของไส้ติ่งอักเสบ (0.43) ความน่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบเมื่อมีผล CT เป็นบวกคือ 0.92 (95% CI 0.90 ถึง 0.94), และความน่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบเมื่อผล CT เป็นลบคือ 0.04 (95% CI 0.03 ถึง 0.05) ในการวิเคราะห์ของกลุ่มย่อยตามการเพิ่มความคมชัดความไวสรุปจะสูงขึ้นสำหรับ CT ที่เพิ่มความคมชัดทางหลอดเลือดดำ (0.96, 95% CI 0.92 ถึง 0.98), CT ที่เพิ่มความคมชัดทางทวารหนัก (0.97, 95% CI 0.93 ถึง 0.99), และ CT ด้วยการเพิ่มความคมชัดทางหลอดเลือดดำและช่องปาก (0.96, 95% CI 0.93 ถึง 0.98) กว่า CT ที่ไม่มีการเพิ่มความคมชัด (0.91, 95% CI 0.87 ถึง 0.93) ความไวสรุปของ CT ที่มีการเพิ่มความคมชัดทางช่องปาก (0.89, 95% CI 0.81 ถึง 0.94) และ CT ที่ไม่ได้มีการเพิ่มความคมชัด คล้ายกัน ผลการทบทวนแสดงว่าไม่มีความแตกต่างในความจำเพาะสรุปซึ่งอยู่ระหว่าง 0.93 (95% CI 0.90 ถึง 095) ถึง 0.95(95% CI 0.90 ถึง 0.98) ระหว่างกลุ่มย่อย ความไวสรุปสำหรับ low dose CT (0.94, 95% 0.90 ถึง 0.97) จะคล้ายกับความไวสรุป ของ CT dose มาตรฐานปริมาณหรือไม่ระบุ dose (0.95, 95% 0.93 ถึง 0.96); ความจำเพาะสรุปไม่แตกต่างกันระหว่าง low dose, standard dose หรือ unspecified dose CT ไม่มีการศึกษามีคุณภาพระเบียบวิธีสูงตามที่ประเมินโดยเครื่องมือ QUADAS-2 ปัญหาของระเบียบวิธีวิจัยที่สำคัญคือมาตรฐานอ้างอิงที่ไม่ดีและการตรวจสอบได้เฉพาะบางส่วนเป็นหลัก เนื่องจากการติดตามไม่เพียงพอและไม่สมบูรณ์ในบุคคลที่ไม่ได้มีการผ่าตัด

บันทึกการแปล: 

แปลโดย ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อ วันที่ 7 ธันวาคม 2019

Tools
Information