ยาสำหรับเด็กที่เป็นโรคกรดไหลย้อน

คำถามของการทบทวนวรรณกรรม

วิธีการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกและเด็กที่เป็นโรคกรดไหลย้อนคืออะไร

ใจความสำคัญ

- หลักฐานการใช้ยาสำหรับทารกที่เป็นโรคกรดไหลย้อน/กรดไหลย้อนมีความไม่แน่นอนมาก

- สำหรับเด็กที่เป็นโรคกรดไหลย้อน หลักฐานมีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับผลของ Proton pump inhibitors ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปผลเกี่ยวกับยาอื่นๆ

กรดไหลย้อนในกระเพาะอาหารและหลอดอาหารคืออะไร

กรดไหลย้อนเกิดขึ้นเมื่อมีของในกระเพาะอาหารกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร (ท่ออาหาร) ทารกส่วนใหญ่ (อายุต่ำกว่า 1 ปี) อาการกรดไหลย้อนหายเมื่อโตขึ้น แต่ยาช่วยได้หรือไม่ เด็ก (อายุมากกว่า 1 ปี) ก็สามารถเป็นกรดไหลย้อนได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ กรดไหลย้อนอาจเป็นเรื่องปกติ ("กรดไหลย้อนทางสรีรวิทยา") แต่ในเด็กทารกและเด็ก กรดไหลย้อนอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ รวมถึงความเจ็บปวดหรือน้ำหนักลด เนื่องจากหลอดอาหารเกิดการอักเสบ (หลอดอาหารอักเสบ) อาการที่น่ารำคาญของกรดไหลย้อนเรียกว่า 'โรคกรดไหลย้อนกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร' (GORD)

กรดไหลย้อนในกระเพาะอาหารและหลอดอาหารรักษาได้อย่างไร

ยาสามารถทำให้อาหารในกระเพาะอาหารข้นขึ้น (อัลจิเนต) ทำให้กรดในกระเพาะเป็นกลาง (รานิทิดีน, โอเมปราโซล, แลนโซพราโซล) หรือช่วยให้กระเพาะอาหารว่างเร็วขึ้น (ดอมเพอริโดน, อีรีโธรมัยซิน)

เราต้องการค้นหาอะไร

เราต้องการเรียนรู้วิธีที่ดีที่สุดในการลดกรดไหลย้อนในทารกและเด็ก เราต้องการดูว่ายาช่วยให้ทารกและเด็กรู้สึกดีขึ้นหรือไม่ (คะแนนอาการ) รักษาหลอดอาหาร (ซึ่งตรวจโดยใช้กล้องส่องกล้องขนาดเล็กใส่ลงในหลอดอาหาร) หรือลดเวลาที่หลอดอาหารสัมผัสกับกรดจากกระเพาะ นอกจากนี้เรายังตรวจสอบว่ายามีความปลอดภัยหรือไม่โดยการพิจารณาผลที่เป็นอันตรายหรือไม่พึงประสงค์ที่รายงานในการศึกษา

เราทำอะไร

เราค้นหาการศึกษาเกี่ยวกับการทดสอบยารักษากรดไหลย้อนในทารกและเด็ก เรารวมการศึกษาทั้งหมดที่เปรียบเทียบยาเหล่านี้ หรือเปรียบเทียบกับยาที่ไม่มีฤทธิ์ (ยาหลอก) เราประเมินผลลัพธ์ที่มีความสำคัญต่อแพทย์ พยาบาล และผู้ปกครอง และดำเนินการวิเคราะห์ผลลัพธ์ของเราเอง เราจัดอันดับความเชื่อมั่นในหลักฐาน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วิธีการศึกษาและขนาด

เราพบอะไร

เราพบการศึกษาที่เหมาะสม 36 ฉบับ (เกี่ยวข้องกับทารกและเด็ก 2251 คน) ดำเนินการทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา การศึกษาที่ใหญ่ที่สุดคัดเลือกเด็กทารก 268 คน การศึกษาเล็กที่สุด 16 คน การศึกษา 15 ฉบับ เปรียบเทียบยาออกฤทธิ์กับยาหลอก มี 8 ฉบับเปรียบเทียบยาออกฤทธิ์ตัวหนึ่งกับยาตัวอื่น และการศึกษา 11 ฉบับให้ยาชนิดเดียวกันในขนาดต่างกัน เราพบข้อมูลผลลัพธ์ที่ใช้ได้ 14 ฉบับจากทั้งหมด 36 ฉบับ การศึกษาที่เหลือไม่ได้รายงานผลลัพธ์ที่เราสนใจหรือไม่ได้รายงานในลักษณะที่เราสามารถวิเคราะห์ได้ เราไม่สามารถรวมผลลัพธ์ของการศึกษาใดๆ ได้เนื่องจากมีความแตกต่างกันมากเกินไป (ในแง่ของระยะเวลาที่พวกเขาติดตามผู้เข้าร่วมและผลลัพธ์ที่พวกเขาตรวจสอบ) ที่จะนำไปใช้อย่างมีความหมาย

ผลการศึกษาที่สำคัญ

เด็กทารก ไม่มีผลกระทบที่ชัดเจนต่ออาการหรือความเป็นกรดที่วัดได้ (การวัดชนิดหนึ่งคือดัชนีกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของเวลาที่หลอดอาหารสัมผัสกับกรดในกระเพาะใน 24 ชั่วโมง) ระหว่างทารกที่ได้รับโอเมปราโซลหรือยาหลอก การศึกษา 1 ฉบับ (เด็กทารก 30 คน) แสดงให้เห็นว่าเวลาในการร้องไห้/งอแงลดลงจาก 287 เป็น 201 นาที/วัน ในกลุ่มยาหลอก และ 246 เป็น 191 นาที/วัน ในกลุ่มโอเมพราโซล ดัชนีกรดไหลย้อนเปลี่ยนแปลงในกลุ่ม omeprazole จาก 9.9% เป็น 1.0% ใน 24 ชั่วโมง และในกลุ่มยาหลอกจาก 7.2% เป็น 5.3% การศึกษา 1 ฉบับ (ทารก 76 คน) แสดงให้เห็นว่า omeprazole และ ranitidine อาจมีประโยชน์คล้ายกันสำหรับอาการหลังจาก 2 สัปดาห์: คะแนนอาการ (คะแนนที่สูงกว่าหมายถึงอาการแย่ลง) ในกลุ่ม omeprazole ลดลงจาก 51.9 เป็น 2.4 และในกลุ่ม ranitidine จาก 47 เป็น 2.5 ในการศึกษาทารกแรกเกิด 52 ราย พบว่า esomeprazole พบว่าไม่มีการลดลงของอาการ (184.7 ถึง 156.7) เมื่อเทียบกับยาหลอก (183.1 ถึง 158.3) ไม่มีการศึกษาใดรายงานเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายหรือผลลัพธ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหลอดอาหารของทารก

เด็ก ในเด็กอายุมากกว่า 1 ปี ไม่มีการศึกษาที่ประเมินการรักษาเทียบกับยาหลอก Proton Pump Inhibitors (PPIs) ซึ่งขัดขวางการผลิตกรดในกระเพาะอาหารในขนาดที่ต่างกันอาจทำให้อาการหรือการรักษาหลอดอาหารดีขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ในการศึกษา 1 ฉบับ (เด็ก 127 คน) เด็กทั้งที่มีน้ำหนักต่ำกว่าและมีน้ำหนักมากกว่าที่ได้รับยา rabeprazole ในขนาดที่ต่ำกว่าและสูงกว่านั้น มีการเปลี่ยนแปลงของคะแนนอาการและคะแนนการส่องกล้อง (ซึ่งบ่งชี้ว่าหลอดอาหารหายแล้วหรือไม่) เพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่สำคัญ pantoprazole อาจหรืออาจไม่ทำให้คะแนนอาการดีขึ้นในเด็กอายุ 1 ถึง 5 ปีภายในสัปดาห์ที่ 8: ไม่มีความแตกต่างระหว่างขนาดยาที่ต่ำกว่าและสูงกว่าในการศึกษา 1 ฉบับ (เด็ก 60 คน) การศึกษาที่ตรวจสอบยาอื่นๆ ไม่ได้รายงานข้อมูลเพียงพอที่เราจะประเมินผลลัพธ์ได้อย่างเหมาะสม

คุณภาพของหลักฐาน

เราไม่มั่นใจในหลักฐาน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการศึกษาเดี่ยวที่มีทารกและเด็กเพียงไม่กี่คน การศึกษาหลายฉบับมีบริษัทยาช่วยเขียนต้นฉบับ คำถามยังคงมีอยู่ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาเด็กที่มีความเจ็บป่วยคืออะไร และ PPI ใดดีกว่ายาอื่นๆ หรือไม่ หลักฐานเป็นปัจจุบันถึงวันที่ 17 กันยายน 2022

ข้อสรุปของผู้วิจัย: 

มีหลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากเกี่ยวกับการปรับปรุงอาการและการเปลี่ยนแปลงดัชนี pH สำหรับทารก ไม่มีข้อมูลสรุปสำหรับการเปลี่ยนแปลงของการส่องกล้อง ยาอาจจะให้หรืออาจจะไม่ให้ผลประโยชน์ (ตามหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นต่ำมาก) สำหรับทารกที่อาการยังคงเป็นที่น่ากังวล แม้ว่าจะมีการให้การแทรกแซงที่ไม่ใช่ทางการแพทย์หรือการให้ความมั่รใจแก่ผู้ปกครองก็ตาม หากจำเป็นต้องใช้ยา ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนจากข้อมูลสรุปของ omeprazole, esomeprazole (ในทารกแรกเกิด), H₂ antagonists และอัลจิเนตสำหรับการปรับปรุงอาการ (หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมพร้อมการติดตามผลที่ยาวนานขึ้น

ในเด็กโตที่มี GORD ในการศึกษาที่ดึงข้อมูลสรุปออกมา มีหลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมากว่า PPIs (rabeprazole และ pantoprazole) อาจปรับปรุงผลลัพธ์ของ GORD หรือไม่ก็ได้ ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนสำหรับยาอื่นๆ

จำเป็นต้องมีหลักฐานจาก RCT เพิ่มเติมในทุกด้าน รวมถึงกลุ่มย่อย (ทารกคลอดก่อนกำหนดและเด็กที่มีความบกพร่องทางระบบประสาท)

อ่านบทคัดย่อฉบับเต็ม
บทนำ: 

โรคกรดไหลย้อน (Gastro-oesophageal reflux; GOR) มีลักษณะเฉพาะคือมีการสำรอกของเหลวในกระเพาะอาหารกลับเข้าไปในหลอดอาหาร โรคกรดไหลย้อนเป็นอาการที่พบบ่อยในเด็กทารก ทั้งในการดูแลระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ โดยส่งผลกระทบต่อทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือนประมาณ 50% การดำเนินของโรคกรดไหลย้อนในวัยเด็กโดยทั่วไปเป็นภาวะที่สามารถหายเองได้ซึ่งจะดีขึ้นตามอายุ แต่เด็กโตและเด็กที่มีอาการป่วยโรคอื่นร่วมด้วยอาจมีอาการยืดเยื้อมากกว่า ความแตกต่างระหว่างโรคกรดไหลย้อน (GORD) และ GOR ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แนวทางปฏิบัติของสถาบันสุขภาพและการดูแลแห่งชาติ (NICE) ในปัจจุบันกำหนดให้ GORD เป็น GOR ที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงพอที่จะต้องรักษา นี่คือการปรับปรุงการทบทวนวรรณกรรมที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี 2014

วัตถุประสงค์: 

เพื่อประเมินผลของการรักษาทางเภสัชวิทยาสำหรับ GOR ในทารกและเด็ก

วิธีการสืบค้น: 

สำหรับการอัปเดตนี้ เราค้นหา CENTRAL, MEDLINE, Embase และ Web of Science จนถึงวันที่ 17 กันยายน 2022 นอกจากนี้เรายังค้นหาการทดลองที่กำลังดำเนินอยู่ในทะเบียนการทดลองทางคลินิก ติดต่อผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น และค้นหารายการอ้างอิงของการทดลองและการทบทวนสำหรับการทดลองเพิ่มเติมใดๆ

เกณฑ์การคัดเลือก: 

เรารวมการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (RCTs) ที่เปรียบเทียบการรักษาทางเภสัชวิทยาที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับ GOR ในเด็กเทียบกับเด็กที่ได้รับยาหลอกหรือยาอื่น เราไม่รวมการศึกษาที่ประเมินการจัดการอาหารใน GORD และการศึกษาอาหารที่มีความเข้มข้นสูง เรารวบรวมการศึกษาในทารกและเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี

การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล: 

เราใช้ระเบียบวิธีการวิจัยตามมาตรฐานของ Cochrane

ผลการวิจัย: 

เรารวบรวม RCTs 36 ฉบับ ในเด็กและทารก 2251คน เราสามารถดึงข้อมูลสรุปจาก RCTs 14 ฉบับ; การทดลองที่เหลือมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะดึงข้อมูลออกมา เราไม่สามารถรวมผลลัพธ์เพื่อวิเคราะห์เมตต้าได้เนื่องจากความแตกต่างด้านระเบียบวิธีในการศึกษาที่นำเข้า (รวมถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ประชากรของการศึกษา และการออกแบบการศึกษา)

เรานำเสนอผลลัพธ์เป็น 2 กลุ่มตามอายุ: ทารกอายุไม่เกิน 12 เดือน และเด็กอายุ 12 เดือนถึง 16 ปี

ทารก

Omeprazole เทียบกับยาหลอก: ไม่มีผลกระทบที่ชัดเจนต่ออาการของ omeprazole การศึกษา 1 ฉบับ (ทารก 30 ราย หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) แสดงให้เห็นว่าเวลาในการร้องไห้/งอแงในทารกอายุ 3 ถึง 12 เดือนมีการเปลี่ยนแปลงจาก 246 ± 105 นาที/วัน ที่การตรวจวัดพื้นฐาน (ค่าเฉลี่ย +/- ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)) เป็น 191 ± 120 นาที/วัน ในกลุ่มยาโอเมพราโซล และจาก 287 ± 132 นาที/วัน เป็น 201 ± 100 นาที/วัน ในกลุ่มยาหลอก (ค่าเฉลี่ยความแตกต่าง (MD) ลดลง 10 นาที/วัน (ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) -89.1 ถึง 69.1)) ดัชนีกรดไหลย้อนเปลี่ยนแปลงในกลุ่ม omeprazole จาก 9.9 ± 5.8% ใน 24 ชั่วโมงเป็น 1.0 ± 1.3% และในกลุ่มยาหลอกจาก 7.2 ± 6.0% เป็น 5.3 ± 4.9% ใน 24 ชั่วโมง (MD 7% ต่ำกว่า, 95% CI -4.7 ถึง -9.3)

Omeprazole เทียบกับ ranitidine: การศึกษา 1 ฉบับ (ทารก 76 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) แสดงให้เห็นว่า omeprazole อาจมีหรือไม่มีประโยชน์ต่ออาการทียบเท่ากับ ranitidine คะแนนอาการในกลุ่ม omeprazole เปลี่ยนจาก 51.9 ± 5.4 เป็น 2.4 ± 1.2 และในกลุ่ม ranitidine จาก 47 ± 5.6 เป็น 2.5 ± 0.6 หลังจาก 2 สัปดาห์: MD -4.97 (95% CI -7.33 ถึง -2.61)

Esomeprazole เทียบกับยาหลอก: esomeprazole ดูเหมือนจะไม่แสดงการลดลงเพิ่มเติมในจำนวนอาการ GORD เมื่อเทียบกับยาหลอก (การศึกษา 1 ฉบับ ทารกแรกเกิด 52 ราย หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก): ทั้งกลุ่ม esomeprazole (184.7 ± 78.5 ถึง 156.7 ± 75.1) และกลุ่มยาหลอก (183.1 ± 77.5 ถึง 158.3 ± 75.9) ดีขึ้น: MD -3.2 (95% CI -4.6 ถึง -1.8)

เด็ก

Proton pump inhibitors (PPI) ในขนาดที่ต่างกันอาจให้ประโยชน์เพียงเล็กน้อยหรือไม่ให้ประโยชน์เลยต่ออาการและการส่องกล้อง

การให้ยาราเบพราโซลในขนาดที่แตกต่างกัน (0.5 มก./กก. และ 1 มก./กก.) อาจช่วยให้อาการดีขึ้นใกล้เคียงกัน (เด็กทั้งหมด 127 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก) ในกลุ่มที่ได้รับยาขนาดต่ำ (0.5 มก./กก.) คะแนนอาการดีขึ้นทั้งในกลุ่มเด็กที่มีน้ำหนักน้อย (< 15 กก.) (เฉลี่ย -10.6 ± SD 11.13) และกลุ่มเด็กที่มีน้ำหนักสูง (> 15 กก.) ) (เฉลี่ย -13.6 ± 13.1) ในกลุ่มที่ได้รับขนาดยาสูง (1 มก./กก.) คะแนนจะดีขึ้นในกลุ่มที่มีน้ำหนักน้อย (-9 ± 11.2) และกลุ่มที่มีน้ำหนักมากกว่า (-8.3 ± 9.2) สำหรับกลุ่มที่มีน้ำหนักมากกว่า ความแตกต่างคะแนนเฉลี่ยของอาการระหว่างสองสูตรการให้ยาที่แตกต่างกันคือ 2.3 (95% CI -2 ถึง 6.6) และสำหรับกลุ่มที่มีน้ำหนักน้อยกว่า คะแนนอาการ MD คือ 4.6 (95% CI -2.9 ถึง 12 )

Pantoprazole: pantoprazole อาจหรืออาจไม่ทำให้คะแนนอาการดีขึ้นที่ 0.3 มก./กก., 0.6 มก./กก. และ 1.2 มก./กก. pantoprazole ในเด็กอายุ 1 ถึง 5 ปีในสัปดาห์ที่ 8 โดยไม่มีความแตกต่างระหว่าง 0.3 มก./กก. และ 1.2 มก./ การให้ยาแบบกิโลกรัม (0.3 มก./กก. เฉลี่ย −2.4 ± 1.7; 1.2 มก./กก. −1.7 ± 1.2: MD 0.7 (95% CI -0.4 ถึง 1.8)) (การศึกษา 1 ฉบับ เด็ก 60 คน; หลักฐานความเชื่อมั่นต่ำมาก)

มีข้อมูลสรุปไม่เพียงพอที่จะประเมินยาอื่นๆ

บันทึกการแปล: 

้บป่วยแปลโดยแพทย์หญิงวิลาสินี หน่อแก้ว โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี Edit โดย ศ. พญ. ผกากรอง ลุมพิกานนท์ 2 เมษายน 2024

Tools
Information